- TOP
- ปรับแต่งรายการผลการค้นหา
- ในชีวิตนี้ต้องไปดูให้เห็นกับตา! ทุ่งลาเวนเดอร์สุดอลังการที่ฟาร์ม Tomita
บทความ
ในชีวิตนี้ต้องไปดูให้เห็นกับตา! ทุ่งลาเวนเดอร์สุดอลังการที่ฟาร์ม Tomita
- FURANO
- HOKKAIDO
- ท่องเที่ยว
- ประสบการณ์ใหม่ๆ
- SPECIAL
- ลาเวนเดอร์
- สวนดอกไม้
- ฮอกไกโด
- ทุ่งดอกไม้
- วิวทิวทัศน์
- ฟาร์ม
- ฟุระโนะ
- ถ่ายรูป
- ขนม
- หน้าร้อน
ถ้าพูดถึงทุ่งดอกลาเวนเดอร์แล้วละก็ต้องมาที่ฟาร์ม Tomita ที่ฮอกไกโดเลยค่ะ เพราะมีความกว้างกว่า 20 เฮกเตอร์และมีสวนดอกไม้ถึง 12 สวนด้วยกัน ทุ่งดอกลาเวนเดอร์จะพีคสุดๆในช่วงปลายเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม นอกจากความสวยและอลังการของดอกไม้แล้ว ที่นี่ยังมีอาหารและของฝากต่างๆจากดอกลาเวนเดอร์อีกเพียบ รีบไปเช็คกันเลย!
เพราะที่นี่กว้างมากๆ เราเลยอยากแนะนำจุดไฮไลท์ที่ทุกท่านไม่ควรพลาดไปถ่ายรูป !
ที่แรกเลยคือทุ่งดอกลาเวนเดอร์ที่ได้ชื่อว่าเก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น มีชื่อเรียกภาษาอังกฤษว่า "Traditional Lavender Field" หรือ "Furano" ในภาษาญี่ปุ่น ฉากหลังโอบล้อมด้วยภูเขา ตัดกับสีฟ้าใสของท้องฟ้า รับรองว่าได้ภาพสุดปังแน่นอน
ทุ่งดอกไม้บนทิวเขาช่างเป็นวิวทิวทัศน์ที่สวยสุดๆไปเลย แต่ที่พิเศษกว่านั้นคือไม่ได้มีแค่ดอกลาเวนเดอร์เท่านั้น ในทุ่ง Irodori ยังมีดอกป๊อปปี้และดอกยิปโซ ปลูกคู่กับดอกลาเวนเดอร์ ยิ่งทำให้ทุ่งดอกไม้แห่งนี้เป็นทุ่งดอกไม้ที่ห้ามพลาดมาถ่ายรูปยิ่งขึ้นอีก
ตั้งแต่ช่วงฤดูใบไม้ผลิถึงฤดูใบไม้ร่วง สามารถเข้ามาชมทุ่งดอกไม้ในทุ่ง Hanabito ได้ ดอกไม้ปลูกในทุ่งแห่งนี้จะปลูกเป็นแนวยาว ดังนั้นแนะนำให้ถ่ายรูปกับดอกไม้หลากหลายสีสันด้านหน้าสวนเพราะจะเห็นดอกไม้หลากสีสุดลูกหูลูกตาเลยค่ะ
ทุ่ง Mori no Irodori มีทั้งดอกลาเวนเดอร์และดอกป๊อปปี้ที่ปลูกตามไหล่เขา และนอกจากนี้ที่ทุ่งแห่งนี้ยังสามารถมองเห็นภูเขา Takachidake เป็นฉากหลังได้อีกด้วย ดังนั้นอย่าพลาดเข้าไปถ่ายรูปในสวนดอกไม้ด้านใน รับรองว่าได้ภาพสุดเลิศแน่นอน !
ถ้าอยากเห็นวิวทุ่งดอกไม้สีม่วง แบบกว้างสุดลูกหูลูกตาแล้วละก็ ต้องที่สวน Saiwai เลยค่ะ สวนแห่งนี้ยังประกอบด้วยดอกลาเวนเดอร์กว่า 4 ชนิด แนะนำให้มาประมาณกลางเดือนกรกฏาคม เพราะจะสามารถเห็นดอกลาเวนเดอร์ได้ทั้ง 4 ชนิดพร้อมๆกัน อย่าพลาดไปเดินชมดอกไม้ในสวนและถ่ายรูปท่ามกลางดอกลาเวนเดอร์ที่อยู่รายรอบนะคะ
สวน Saiwai มีดอกลาเวนเดอร์ด้วยกันถึง 4 ชนิด แต่ไม่ต้องกังวลว่าจะแยกประเภทอย่างไร มีวิธีการดูง่ายนิดเดียวเพราะทั้งสีและกลิ่นแตกต่างกันอย่างชัดเจน ดอกลาเวนเดอร์ที่มีที่ฮอกไกโดมาตั้งแต่ดั้งแต่เดิมคือชนิด Okamurasaki แม้จะเป็นดอกลาเวนเดอร์เหมือนกัน แต่ถ้าคนละชนิดแล้วละก็ช่วงเวลาที่บานก็แตกต่างกันค่ะ
ที่ฟาร์ม Tomita แห่งนี้มีอาหารขึ้นชื่อที่ทำจากดอกลาเวนเดอร์มากมาย โดยเฉพาะกลิ่นของอาหารและขนมของฟาร์มแห่งนี้ รับรองว่าต้องถูกใจแน่นอนเพราะว่าสกัดมาจากดอกไม้ในฟาร์ม แวะมาเที่ยวแล้วอย่าพลาดลองชิมอาหารและขนมขึ้นชื่อของฟาร์มแห่งนี้ด้วยนะคะ
ฟาร์ม Tomita แห่งนี้ยังมีอาหารห้ามพลาด! อาหารที่นำวัตถุดิบและผักสดภายในฟาร์มมาใช้ ซึ่งสามารถหาทานได้ภายในคาเฟ่ทั้ง 2 ร้าน เช่น มันฝรั่งซึ่งเป็นผักตามฤดูกาลขึ้นชื่อของฮอกไกโด และนมวัวสดที่เป็นวัตถุดิบที่สำคัญ ทำให้อาหารของที่นี่มีกลิ่นอายของอาหารฮอกไกโดอย่างแท้จริง
ของฝากที่ได้รับความนิยมอย่างมากคือสบู่และดอกไม้แห้งจากดอกลาเวนเดอร์ สินค้าทั้งหมดทำมาจากดอกลาเวนเดอร์ที่ปลูกภายในฟาร์มแห่งนี้
กลิ่นหอมๆที่อยู่ในสบู่และน้ำหอมที่เราใช้กันนั้น เราสามารถเข้ามาชมวิธีการสกัดกลิ่นภายในห้องแล็บนี้ได้ และยังมีกลิ่นลาเวนเดอร์แบบออริจินอลขายอีกด้วยนะ
นอกจากนี้ยังมีมุมให้ได้ลองใช้น้ำหอมกลิ่นที่ถูกใจฟรีอีกด้วย ห้ามพลาดเลย!
ด้วยพื้นที่กว่า 20 เฮกเตอร์ และมีทุ่งดอกไม้ถึง 12 ทุ่งด้วยกัน เวลาที่ใช้ภายในสวนแห่งนี้อย่างน้อยๆก็ 2 ชั่วโมง เพราะยังมีทั้งคาเฟ่และร้านขายของอีกมากมายให้เราได้ไปเดินเล่น ดังนั้นถ้าใครอยากเดินชิวๆสบายๆ ก็ให้เผื่อเวลาไว้ประมาณ 3-4 ชั่วโมง ทุ่งดอกไม้จะอยู่ตรงกลางและถ้าใครเดินเมื่อยแล้วอยากหยุดพัก ข้างๆสวนก็จะมีอาคารให้นั่งพักได้สบายหายห่วง
ช่วงฤดูใบไม้ผลิจนถึงฤดูใบไม้ร่วง ถือเป็นช่วงที่เราจะสามารถมาเที่ยวชมดอกไม้ได้หลากหลายชนิด ฟาร์ม Tomita แห่งนี้ดอกไม้บานจะสะพรั่งจะประมาณเดือนมิถุนายนและกรกฏาคม ส่วนดอกลาเวนเดอร์นั้นจะบานเต็มที่ประมาณปลายเดือนกรกฏาคมถึงต้นเดือนสิงหาคม ดังนั้นแนะนำให้ไปช่วงฤดูร้อนของญี่ปุ่นค่ะ
จากสถานี Rabenda hata สามารถเดินเท้ามายังฟาร์ม Tomita เป็นเวลา 7 นาที แต่ที่พิเศษคือสถานี Rabenda hata จะเปิดให้บริการเฉพาะวันที่ 10 มิถุนายนถึงวันที่ 25 กันยายน เท่านั้น! โดยรถไฟ JR สาย Furano Biei Norokko train เท่านั้นที่จะจอดสถานี Rabenda hata แห่งนี้ แต่ตั้งแต่วันที่ 14 -17 กรกฏาคม รถไฟธรรมดาก็จอดที่สถานี Rabenda hata เช่นกัน ดังนั้นหากใครมาในวันที่นอกเหนือจากช่วงเวลาดังกล่าวก็ต้องนั่งรถไฟธรรมดาและลงที่สถานี Nakafurano และเดินต่อประมาณ 25 นาที ก่อนการเดินทางอย่าลืมเช็คข้อมูลก่อนนะคะ
จุดไฮไลท์ของฟาร์ม Tomita คือทุ่งลาเวนเดอร์สุดอลังการที่ไกลสุดลูกหูลูกตา ดังนั้นควรเผื่อเวลาในการเที่ยวชมเล็กน้อย เพราะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาชมความงามของดอกไม้ในช่วงนี้เยอะเป็นพิเศษ ถือว่าเป็นทุ่งลาเวนเดอร์ที่ต้องมาให้เห็นกับตา เพราะถ้าพูดถึงฤดูร้อนของฮอกไกโดแล้วละก็ การมาเที่ยวชมทุ่งดอกลาเวนเดอร์เป็นที่สุดของการเที่ยวฮอกไกโดเลยล่ะ
ที่อยู่: 15 Kisenkita, Nakafurano-shi, Hokkaido
เดือนที่ให้บริการ: ปลายเดือนเมษายนถึงต้อนเดือนพฤศจิกายน (ฤดูหนาวปิดบริการ)
ช่วงเวลาที่ให้บริการ: 8.30-17.00 (เวลาปิดบริการอาจแตกต่างกันแต่ละวัน)
วันหยุด: ไม่มีวันปิดบริการในเดือนที่เปิดบริการ
ค่าเข้า: ไม่มี
ที่อยู่: 15 Kisenkita, Nakafurano-cho, Hokkaido
การเดินทาง: งรถไฟ JR ลงสถานี Nakafurano แล้วนั่งแท็กซี่ต่อประมาณ 5 นาที หรือเดินเท้า 25 นาที หรือลงสถานี Rabenda batake (เฉพาะช่วงเวลาพิเศษ) แล้วเดินเท้า 7 นาที
เว็บไซต์: คลิ๊กที่นี่
※บทความนี้ถ่ายทำเมื่อ 26 พฤษภาคม 2017
จุดถ่ายรูปดอกลาเวนเดอร์สุดปัง รีบจดไว้เลย!
เพราะที่นี่กว้างมากๆ เราเลยอยากแนะนำจุดไฮไลท์ที่ทุกท่านไม่ควรพลาดไปถ่ายรูป !
ที่แรกเลยคือทุ่งดอกลาเวนเดอร์ที่ได้ชื่อว่าเก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น มีชื่อเรียกภาษาอังกฤษว่า "Traditional Lavender Field" หรือ "Furano" ในภาษาญี่ปุ่น ฉากหลังโอบล้อมด้วยภูเขา ตัดกับสีฟ้าใสของท้องฟ้า รับรองว่าได้ภาพสุดปังแน่นอน
ทุ่งลาเวนเดอร์ Traditional Lavender
ทุ่งดอกไม้บนทิวเขาช่างเป็นวิวทิวทัศน์ที่สวยสุดๆไปเลย แต่ที่พิเศษกว่านั้นคือไม่ได้มีแค่ดอกลาเวนเดอร์เท่านั้น ในทุ่ง Irodori ยังมีดอกป๊อปปี้และดอกยิปโซ ปลูกคู่กับดอกลาเวนเดอร์ ยิ่งทำให้ทุ่งดอกไม้แห่งนี้เป็นทุ่งดอกไม้ที่ห้ามพลาดมาถ่ายรูปยิ่งขึ้นอีก
ทุ่งดอกไม้สุดคัลเลอร์ฟูล ทุ่ง Irodori
ตั้งแต่ช่วงฤดูใบไม้ผลิถึงฤดูใบไม้ร่วง สามารถเข้ามาชมทุ่งดอกไม้ในทุ่ง Hanabito ได้ ดอกไม้ปลูกในทุ่งแห่งนี้จะปลูกเป็นแนวยาว ดังนั้นแนะนำให้ถ่ายรูปกับดอกไม้หลากหลายสีสันด้านหน้าสวนเพราะจะเห็นดอกไม้หลากสีสุดลูกหูลูกตาเลยค่ะ
ทุ่ง Hanabito
ทุ่ง Mori no Irodori มีทั้งดอกลาเวนเดอร์และดอกป๊อปปี้ที่ปลูกตามไหล่เขา และนอกจากนี้ที่ทุ่งแห่งนี้ยังสามารถมองเห็นภูเขา Takachidake เป็นฉากหลังได้อีกด้วย ดังนั้นอย่าพลาดเข้าไปถ่ายรูปในสวนดอกไม้ด้านใน รับรองว่าได้ภาพสุดเลิศแน่นอน !
ทุ่ง Mori no Irodori
ถ้าอยากเห็นวิวทุ่งดอกไม้สีม่วง แบบกว้างสุดลูกหูลูกตาแล้วละก็ ต้องที่สวน Saiwai เลยค่ะ สวนแห่งนี้ยังประกอบด้วยดอกลาเวนเดอร์กว่า 4 ชนิด แนะนำให้มาประมาณกลางเดือนกรกฏาคม เพราะจะสามารถเห็นดอกลาเวนเดอร์ได้ทั้ง 4 ชนิดพร้อมๆกัน อย่าพลาดไปเดินชมดอกไม้ในสวนและถ่ายรูปท่ามกลางดอกลาเวนเดอร์ที่อยู่รายรอบนะคะ
สวน Saiwai
สวน Saiwai มีดอกลาเวนเดอร์ด้วยกันถึง 4 ชนิด แต่ไม่ต้องกังวลว่าจะแยกประเภทอย่างไร มีวิธีการดูง่ายนิดเดียวเพราะทั้งสีและกลิ่นแตกต่างกันอย่างชัดเจน ดอกลาเวนเดอร์ที่มีที่ฮอกไกโดมาตั้งแต่ดั้งแต่เดิมคือชนิด Okamurasaki แม้จะเป็นดอกลาเวนเดอร์เหมือนกัน แต่ถ้าคนละชนิดแล้วละก็ช่วงเวลาที่บานก็แตกต่างกันค่ะ
บนซ้าย:ดอกลาเวนเดอร์พันธุ์ Hanamoiwa เริ่มบานประมาณกลางเดือนกรกฏาคมถึงต้นเดือนสิงหาคม
บนขวา:ดอกลาเวนเดอร์พันธุ์ Noshihayazaki เริ่มบานประมาณกลางเดือนมิถุนายนถึงสิ้นเดือนกรกฏาคม
ล่างซ้าย:ดอกลาเวนเดอร์พันธุ์ Youtei เริ่มบานประมาณกลางเดือนกรกฏาคมถึงสิ้นเดือนกรกฏาคม
ล่างขวา:ดอกลาเวนเดอร์พันธุ์ Okamurasaki เริ่มบานประมาณกลางเดือนกรกฏาคมถึงต้นเดือนสิงหาคม
บนขวา:ดอกลาเวนเดอร์พันธุ์ Noshihayazaki เริ่มบานประมาณกลางเดือนมิถุนายนถึงสิ้นเดือนกรกฏาคม
ล่างซ้าย:ดอกลาเวนเดอร์พันธุ์ Youtei เริ่มบานประมาณกลางเดือนกรกฏาคมถึงสิ้นเดือนกรกฏาคม
ล่างขวา:ดอกลาเวนเดอร์พันธุ์ Okamurasaki เริ่มบานประมาณกลางเดือนกรกฏาคมถึงต้นเดือนสิงหาคม
ต้องลองชิมให้ได้! อาหารเลื่องชื่อที่เป็นเอกลักษณ์ของฟาร์ม Tomita แห่งนี้
ที่ฟาร์ม Tomita แห่งนี้มีอาหารขึ้นชื่อที่ทำจากดอกลาเวนเดอร์มากมาย โดยเฉพาะกลิ่นของอาหารและขนมของฟาร์มแห่งนี้ รับรองว่าต้องถูกใจแน่นอนเพราะว่าสกัดมาจากดอกไม้ในฟาร์ม แวะมาเที่ยวแล้วอย่าพลาดลองชิมอาหารและขนมขึ้นชื่อของฟาร์มแห่งนี้ด้วยนะคะ
ซอร์ฟครีมลาเวนเดอร์ แบบโคน 300 เยน แบบถ้วย 250 เยน
เจลลี่ลาเวนเดอร์ 260 เยน และ พุดดิ้งลาเวนเดอร์ 320 เยน
น้ำอัดลมรสลาเวนเดอร์ 230 เยน
ฟาร์ม Tomita แห่งนี้ยังมีอาหารห้ามพลาด! อาหารที่นำวัตถุดิบและผักสดภายในฟาร์มมาใช้ ซึ่งสามารถหาทานได้ภายในคาเฟ่ทั้ง 2 ร้าน เช่น มันฝรั่งซึ่งเป็นผักตามฤดูกาลขึ้นชื่อของฮอกไกโด และนมวัวสดที่เป็นวัตถุดิบที่สำคัญ ทำให้อาหารของที่นี่มีกลิ่นอายของอาหารฮอกไกโดอย่างแท้จริง
มันฝรั่งอบเนย 190 เยน แกงกะหรี่ผักตามฤดูกาล 600 เยน
แนะนำของฝากจากดอกลาเวนเดอร์สุดขึ้นชื่อจากฟาร์ม Tomita
ของฝากที่ได้รับความนิยมอย่างมากคือสบู่และดอกไม้แห้งจากดอกลาเวนเดอร์ สินค้าทั้งหมดทำมาจากดอกลาเวนเดอร์ที่ปลูกภายในฟาร์มแห่งนี้
บนซ้าย:สบู่ลาเวนเดอร์ 691 เยน บนขวา:คลิปหนีบลายดอกลาเวนเดอร์ 378 เยน
ล่างซ้าย:น้ำมันลาเวนเดอร์ 12 ml. ราคา 1,296 เยน กลาง:ถุงดอกลาเวนเดอร์อบแห้ง 432 เยน ล่างขวา:ช่อดอกลาเวนเดอร์ชนิด Okamurasaki ราคา 442 เยน
ล่างซ้าย:น้ำมันลาเวนเดอร์ 12 ml. ราคา 1,296 เยน กลาง:ถุงดอกลาเวนเดอร์อบแห้ง 432 เยน ล่างขวา:ช่อดอกลาเวนเดอร์ชนิด Okamurasaki ราคา 442 เยน
เท่านั้นยังไม่พอ! ยังมีกิจกรรมสนุกๆเกี่ยวกับดอกลาเวนเดอร์อีกเพียบ
กลิ่นหอมๆที่อยู่ในสบู่และน้ำหอมที่เราใช้กันนั้น เราสามารถเข้ามาชมวิธีการสกัดกลิ่นภายในห้องแล็บนี้ได้ และยังมีกลิ่นลาเวนเดอร์แบบออริจินอลขายอีกด้วยนะ
นอกจากนี้ยังมีมุมให้ได้ลองใช้น้ำหอมกลิ่นที่ถูกใจฟรีอีกด้วย ห้ามพลาดเลย!
เยี่ยมชมการสกัดกลิ่นลาเวนเดอร์
วิธีการเดินเที่ยวชมฟาร์ม Tomita
ด้วยพื้นที่กว่า 20 เฮกเตอร์ และมีทุ่งดอกไม้ถึง 12 ทุ่งด้วยกัน เวลาที่ใช้ภายในสวนแห่งนี้อย่างน้อยๆก็ 2 ชั่วโมง เพราะยังมีทั้งคาเฟ่และร้านขายของอีกมากมายให้เราได้ไปเดินเล่น ดังนั้นถ้าใครอยากเดินชิวๆสบายๆ ก็ให้เผื่อเวลาไว้ประมาณ 3-4 ชั่วโมง ทุ่งดอกไม้จะอยู่ตรงกลางและถ้าใครเดินเมื่อยแล้วอยากหยุดพัก ข้างๆสวนก็จะมีอาคารให้นั่งพักได้สบายหายห่วง
ช่วงฤดูใบไม้ผลิจนถึงฤดูใบไม้ร่วง ถือเป็นช่วงที่เราจะสามารถมาเที่ยวชมดอกไม้ได้หลากหลายชนิด ฟาร์ม Tomita แห่งนี้ดอกไม้บานจะสะพรั่งจะประมาณเดือนมิถุนายนและกรกฏาคม ส่วนดอกลาเวนเดอร์นั้นจะบานเต็มที่ประมาณปลายเดือนกรกฏาคมถึงต้นเดือนสิงหาคม ดังนั้นแนะนำให้ไปช่วงฤดูร้อนของญี่ปุ่นค่ะ
ทุ่งดอกไม้หลากหลายสีสัน
วิธีการเดินเท้าจากสถานี Lavender Farm
จากสถานี Rabenda hata สามารถเดินเท้ามายังฟาร์ม Tomita เป็นเวลา 7 นาที แต่ที่พิเศษคือสถานี Rabenda hata จะเปิดให้บริการเฉพาะวันที่ 10 มิถุนายนถึงวันที่ 25 กันยายน เท่านั้น! โดยรถไฟ JR สาย Furano Biei Norokko train เท่านั้นที่จะจอดสถานี Rabenda hata แห่งนี้ แต่ตั้งแต่วันที่ 14 -17 กรกฏาคม รถไฟธรรมดาก็จอดที่สถานี Rabenda hata เช่นกัน ดังนั้นหากใครมาในวันที่นอกเหนือจากช่วงเวลาดังกล่าวก็ต้องนั่งรถไฟธรรมดาและลงที่สถานี Nakafurano และเดินต่อประมาณ 25 นาที ก่อนการเดินทางอย่าลืมเช็คข้อมูลก่อนนะคะ
รถไฟ JR สาย Furano Biei Norokko train
ในชีวิตนี้ต้องไปดูให้เห็นกับตา! ทุ่งลาเวนเดอร์สุดอลังการที่ฟาร์ม Tomita
จุดไฮไลท์ของฟาร์ม Tomita คือทุ่งลาเวนเดอร์สุดอลังการที่ไกลสุดลูกหูลูกตา ดังนั้นควรเผื่อเวลาในการเที่ยวชมเล็กน้อย เพราะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาชมความงามของดอกไม้ในช่วงนี้เยอะเป็นพิเศษ ถือว่าเป็นทุ่งลาเวนเดอร์ที่ต้องมาให้เห็นกับตา เพราะถ้าพูดถึงฤดูร้อนของฮอกไกโดแล้วละก็ การมาเที่ยวชมทุ่งดอกลาเวนเดอร์เป็นที่สุดของการเที่ยวฮอกไกโดเลยล่ะ
ป้ายฟาร์ม Tomita
รายละเอียด
ฟาร์ม Tomitaที่อยู่: 15 Kisenkita, Nakafurano-shi, Hokkaido
เดือนที่ให้บริการ: ปลายเดือนเมษายนถึงต้อนเดือนพฤศจิกายน (ฤดูหนาวปิดบริการ)
ช่วงเวลาที่ให้บริการ: 8.30-17.00 (เวลาปิดบริการอาจแตกต่างกันแต่ละวัน)
วันหยุด: ไม่มีวันปิดบริการในเดือนที่เปิดบริการ
ค่าเข้า: ไม่มี
ที่อยู่: 15 Kisenkita, Nakafurano-cho, Hokkaido
การเดินทาง: งรถไฟ JR ลงสถานี Nakafurano แล้วนั่งแท็กซี่ต่อประมาณ 5 นาที หรือเดินเท้า 25 นาที หรือลงสถานี Rabenda batake (เฉพาะช่วงเวลาพิเศษ) แล้วเดินเท้า 7 นาที
เว็บไซต์: คลิ๊กที่นี่
ถ้าชอบบทความนี้ กดถูกใจให้ด้วยนะ
บทความนี้เขียนขึ้นเมื่อ 06/07/2017 เรื่องโดย:กองบรรณาธิการ DiGJAPAN!
ความคิดเห็นล่าสุด | 0ความคิดเห็น
หากเป็นสมาชิก DiGJAPAN!
จะสามารถโพสต์คอมเม้นท์ได้
สมัครสมาชิก