- TOP
- ปรับแต่งรายการผลการค้นหา
- ชวนนั่งรถไฟโบราณชมวิวไร่ชาและซากุระที่จ.ชิซุโอกะ
บทความ
ชวนนั่งรถไฟโบราณชมวิวไร่ชาและซากุระที่จ.ชิซุโอกะ
- SHIZUOKA
- ท่องเที่ยว
- ประสบการณ์ใหม่ๆ
- SPECIAL
- รถไฟโบราณ
- เที่ยวรถไฟ
- ไร่ชา
- รถไฟโทมัสและผองเพื่อน
- โทมัสและผองเพื่อน
ใครที่อยากลองนั่งรถไฟโบราณญี่ปุ่นดูละก็ ต้องแอบกระซิบหน่อยว่าตอนนี้รถจักรไอน้ำที่ยังเปิดให้บริการทุกวันที่ญี่ปุ่นนั้นมีแต่ 'รถไฟโออิกาวะ' ซึ่งอยู่ที่จังหวัดชิซุโอะกะเมืองชิมาดะเพียงเท่านั้นนะ โดยจะเริ่มเดินรถตั้งแต่สถานีชินคานายะ(Shinkanaya) ไปจนถึงสถานีเซ็นสุ (Senzu) โดยรถไฟจะวิ่งไปตามแม่น้ำโออิกาวะ ซึ่งเราจะได้เพลิดเพลินกับธรรมชาติอันสวยงามพร้อมสัมผัสบรรยากาศเก่าๆของรถไฟโบราณได้อย่างเต็มอิ่ม โดยรถไฟโออิกาวะจะแบ่งการเดินรถทั้งหมดเป็น 2 สายคือสายโออิกาวะ (Oigawa) และสายอิกาวะ (Igawa)
สิ่งที่ถูกใจหนูๆเป็นพิเศษ คือรถไฟโทมัสและผองเพื่อนนั่นเอง โดยจะเปิดบริการเฉพาะบางเดือนเท่านั้น ห้ามพลาดจริงๆ
วิวสะพานแขวนอันงดงามที่เราจะได้เห็นบนเส้นทางรถไฟโออิกาวะ
ที่นั่งบนรถไฟโออิกาวะนั้นเป็นแบบระบุที่นั่ง ดังนั้นจึงจำเป็นต้องจองผ่านทางเว็บไซต์หรือโทรศัพท์ก่อน แต่ถ้าวันที่มาเที่ยวแล้วที่นั่งยังว่าง ก็สามารถซื้อตั๋วได้ที่หน้าเคาเตอร์ รถไฟโบราณแต่ยังเปิดให้บริการทุกวัน (1 วันมีประมาณ 1-3 รอบ) แต่จำนวนเที่ยวในแต่ละวันอาจแตกต่างกันและเฉพาะฤดูหนาว (กลางเดือนธันวาคมถึงกลางเดือนมีนาคม) อาจมีบางวันที่ปิดให้บริการ ดังนั้นเพื่อความมั่นใจ มาแล้วไม่ผิดหวัง สามารถตรวจสอบรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ด้านล่าง
ตารางเดินรถและจองบัตร (ภาษาอังกฤษ): คลิ๊กที่นี่
ตั้งแต่ปี 2014 ที่รถไฟโออิกาวะเปิดให้บริการมา รถไฟโทมัสและผองเพื่อนได้รับความนิยมสุดๆ นอกจากรถไฟโทมัสแล้วยังมี รถไฟเจมส์และรถบัสเบอร์ตี้อีกด้วย! รถไฟโทมัสและผองเพื่อนจะให้บริการในช่วงฤดูร้อน (กลางเดือนมิถุนายนถึงต้นเดือนตุลาคม)และช่วงคริสต์มาสเท่านั้น โดยในปี 2018 นี้ รถไฟโทมัสจะกลับมาวิ่งอีกครั้งในเดือนมิถุนายน ส่วนรถไฟเจมส์นั้นจะเริ่มเดินรถในเดือนกรกฏาคมเป็นต้นไป รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์
เว็บไซต์: คลิ๊กที่นี่
สถานีชินคานายะเริ่มก่อตั้งเมื่อปี 1926 จากภาพจะเห็นว่าสถานีรถไฟยังคงบรรยากาศคลาสสิคไว้เต็มๆ เนื่องจากรถไฟโบราณนี้จะเริ่มวิ่งจากสถานีชินคานายะ(Shinkanaya) เราจึงต้องเปลี่ยนไปขึ้นสายรถไฟโออิกาวะ ที่สถานี JR คานายะ (Kanaya) สายโทไคโดก่อน แล้วนั่งถัดไปอีก 1 สถานี
■มาซื้อเบนโต๊ะแบบฉบับรถไฟโออิกาวะแท้ๆกันดีกว่า~
ด้านหน้าสถานีรถไฟชินคานายะจะมีช่องจำหน่ายตั๋วและร้านขายของฝากพลาซ่าโรโค (Plaza Loco) อยู่ ส่วนด้านในอาคารก็มีโรโคมิวเซียม( Loco Mesuem) ที่ภายในจัดแสดงรถไฟโบราณและเครื่องจักรรถไฟต่างๆ ด้านในสามารถถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกได้เต็มที่ตามอัธยาศัยและยังเข้าฟรีอีกด้วย มาแล้วจะพลาดได้ยังไงกัน!
มาเที่ยวรถไฟญี่ปุ่นแล้วละก็ สิ่งที่พลาดไม่ได้เลยคือการทานเบนโตะอร่อยๆพร้อมชมวิวสองข้างทางและมาถึงจังหวัดชิซุโอะกะถึงที่แล้ว จะพลาดของขึ้นชื่ออย่างชาเขียวและกุ้งซากุระได้อย่างไรกัน มาแล้วก็อย่าลืมมาลองทานเบนโตะแท้ๆของที่นี่กันนะ!
[เบนโตะดั้งเดิมแบบฉบับโออิกาวะ]
ข้าวปั้น, ปลาอิวานะ (ปลาแม่น้ำ) และผักต้มพร้อมโปสการ์ดสวยๆ
[เบนโตะรถไฟโทมัสและผองเพื่อน]
สาหร่ายรูปรถไฟโทมัสพร้อมด้วยไส้กรอกเวียนนาและกุ้งทอดเครื่องอัดแน่น
■ตื่นตาตื่นใจตั้งแต่ก่อนออกเดินทาง
มื่อมาถึงชานชาลาสถานีชินคานายะ รถไฟโบราณที่มาพร้อมเสียงปู๊นๆและไอน้ำอันเป็นเอกลักษณ์ก็มาถึงพอดี~
■ ไกด์ที่พาเราไปพบกับเรื่องราวที่น่าสนใจของรถไฟโออิกาวะ
เข้ามาภายในตัวรถไฟปุ๊บก็สัมผัสได้กับบรรยากาศรถไฟไอน้ำแบบโบราณต็มๆ ทั้งเสียงปู๊นๆและกลิ่นถ่านของรถไฟโบราณ สักพักคุณลุงและคุณป้าSL ก็จะทำหน้าที่ไกด์ คอยแนะนำสถานที่ที่น่าสนใจต่างๆ ภายในยังมีการเป่าฮาโมนิก้า ยิ่งได้บรรยากาศเก่าๆเข้าไปอีก
ที่ชานชาลาสถานีคามิโอ(Kamio) ยังมีรูปปั้นทานูกิแถมยังแต่งตัวเป็นนายสถานีอีก น่ารักมาก
นอกจากนี้เส้นทางรถไฟโออิกาวะยังผ่านแหล่งปลูกชาที่ขึ้นชื่อ ดังนั้นระหว่างทางจะเห็นไร่ชากว้างสุดลูกหูลูกตาตลอดข้างทาง โดยเฉพาะปลายเดือนเมษายนถึงกลางเดือนพฤษภาคมจะเป็นช่วงที่ชากำลังแตกยอด ดังนั้นเมื่อรถไฟวิ่งผ่านไร่ชาเขียวจะได้กลิ่นหอมอ่อนๆของใบชาอีกด้วย
ช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายนเป็นช่วงที่ดอกซากุระกำลังบานเต็มที่ รอบๆสถานีอิเอะยามะ (Ieyama) เป็นบริเวณที่ขึ้นชื่อเรื่องซากุระมาก เพราะยังคงบรรยากาศเก่าๆไว้อย่างดี วิวสถานีรถไฟโบราณและ ดอกซากุระสีชมพูละมุน จึงไม่แปลกใจเลยว่าหนังและละครมักจะมาถ่ายทำที่นี่บ่อยครั้ง
เมื่อผ่านไร่ชาแล้วเราก็จะข้ามสะพานไออิจิเคียวเรียว (Daiichi Kyoryo) ช่วงที่รถไฟคดเคี้ยวไปตามทางก็อย่าพลาดถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึกล่ะ เพราะมุมนี้ฮิตจริงๆ
เมื่อข้ามสะพานไดอิจิเคียวเรียวแล้วเราก็สามารถมองเห็นออนเซ็นกลางแจ้ง กาวะเนะออนเซ็นฟูเระอายโนะอิซุมิ (Kawane Onsen Fureai no Izumi) ไม่แน่อาจเห็นคนที่กำลังแช่ออนเซ็นโบกไม้โบกมือทักทายก็เป็นได้นะ อิอิ
เมื่อผ่านสถานีจินะ(Jina) กันแล้ว รถไฟจะลอดอุโมงค์ที่สั้นที่สุดในญี่ปุ่น มีความยาวเพียง 11 เมตร กว้างเพียง 5 เมตรเท่านั้น
เมื่อผ่านสถานีชิโอะโก (Shiogo) แล้ว ต่อไปรถไฟก็จะวิ่งผ่านสะพานแขวนที่ยาวที่สุด มีความยาวถึง 220 เมตร ขากลับเมื่อนั่งรถไฟปกติแนะนำให้ลองแวะมาเดินเล่นที่จุดนี้ รับรองว่าสนุกและตื่นเต้นสุดๆ
หลังจากผ่านสถานีอาโอเบะ(Aobe)และข้ามสะพานอีก 3 สะพาน รถไฟจะถึงสถานีปลายทางซึ่งก็คือสถานีเซ็นสุ (Senzu) ไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้คือการลองหมุนเปลี่ยนทิศหัวรถไฟด้วยแรงของเราตามแบบสมัยก่อน
ใกล้ๆกับสถานีเซ็นสุยังมีสถานที่ที่น่าสนใจอีก 2 ที่ นั่นคือ รถไฟ Southern Alps Abt Line และ ออนเซ็นซุมาตะเคียว(Sumatakyo)
ก่อนอื่นมาดูกันว่ารถไฟ Southern Alps Abt Line จะมีอะไรสนุกๆให้ดูกันบ้าง
■รถไฟ Southern Alps Abt Line (สายอิกาวะ)
ตั้งแต่สถานีเซ็นสุถึงสถานีอิกาวะ มีความยาวประมาณ 25.5 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 50 นาที ระหว่างทางจะมีทั้งการขึ้นเขา ลงเขา โดยจะนำระบบการเดินรถแบบพิเศษที่เรียกว่าระบบ Abt System ที่มีที่นี่ที่เดียวในญี่ปุ่นที่ใช้ระบบนี้ในการขับเคลื่อน นอกจากนี้ใครจะมาลองนั่งรถไฟแบบนี้นี้ไม่จำเป็นต้องจองล่วงหน้าอีกด้วย สะดวกสุดๆ
รถไฟขนาดเล็กกะทัดรัด แต่หน้าต่างรถไฟกว้าง อากาศปลอดโปร่งสุดๆ นอกจากนี้ยังมีรถไฟแบบเที่ยวชมวิวชิลล์ๆที่เหมือนรถไฟในสวนสนุก แต่เวลาเดินรถอาจไม่แน่นอน ใครมาได้จังหวะพอดีถือว่าโชคดีสุดๆไปเลย
รถไฟขนาดเล็กกะทัดรัด แต่หน้าต่างรถไฟกว้าง อากาศปลอดโปร่งสุดๆ นอกจากนี้ยังมีรถไฟแบบเที่ยวชมวิวชิลล์ๆที่เหมือนรถไฟในสวนสนุก แต่เวลาเดินรถอาจไม่แน่นอน ใครมาได้จังหวะพอดีถือว่าโชคดีสุดๆไปเลย
หลังจากผ่านเส้นทางที่ใช้ระบบเดินรถแบบ Abt System กันแล้วก็จะค่อยๆขึ้นทางลาดชันไปยังสถานีต่อไป
หลังจากลอดอุโมงค์ที่ใกล้ๆกับสถานีฮิรันดะ(Hiranda)กันแล้ว ก็จะพบกับทะเลสาบเซ็กโซะโกะ (Sessoko) อันสวยงามตลอดทั้งสองข้างทางและยังสามารถมองเห็นสะพาน Oku Oi Rainbow Bridge อีกด้วย บอกได้เลยว่าจุดนี้เป็นไฮไลท์ของที่นี่เลย
น่าทึ่งสุดๆคือระหว่างสะพานยังมีสถานีโอคุโออิโกะโจ (Oku oi kojo) ขั้นกลางท่ามกลางทะเลสาบสีเขียวมรกต มุมนี้เอาไปเลยเต็มสิบ!
สถานีโอคุโออิโกะโจ ยังมีอีกชื่อเรียกที่เกิดจากการเล่นคำตัวอักษรคำจิที่ความหมายไปพ้องกับคำว่าความรัก ดังนั้นที่ชานชาลาจะมีกระดิ่งที่เรียกว่า 'Wind Forgotten' และกุญแจแห่งความรัก โดยเชื่อว่าถ้าได้มาขอพรเรื่องความรักแล้วจะสมหวัง เอ้าสาวๆทราบแล้วรีบลิสต์ไว้ในแพลนเที่ยวเลยค่ะ
สถานีโอคุโออิโกะโจ มีทางเดินขนาบข้างทางรถไฟ สามารถลงไปเดินชมวิวได้
สะพานแขวนเซะคิโนะซาวะเคียวเรียว (Sekinosawakyoryo) ซึ่งอยู่ระหว่างสถานีโอโมริ (Omori) และสถานีคันโส (Kanzo) มึความสูงจากระดับก้นแม่น้ำ 71 เมตร ถือเป็นสะพานแขวนที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น ได้ยื่นหน้าออกนอกหน้าต่าง สูดอากาศบริสุทธิ์ สดชื่นสุดๆไปเลย ยิ่งช่วงต้นเดือนถึงกลางเดือนพฤศจิกายนที่เป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสีแล้วละก็ยิ่งสวยตระการตาสุดๆ แนะนำเลย!
สามารถรับซองใส่ตั๋วที่หน้าตาคล้ายที่คั่นหนังสือ โดยสามารถนำตั๋วที่รับมาจากสถานีต่างๆมาเก็บไว้เป็นที่ระลึก ซึ่งสามารถขอได้ที่พนักงานรถไฟภายในรถไฟได้เลย
ใครที่ชอบนั่งรถไฟชมวิวสวยๆ สัมผัสอากาศบริสุทธิ์ ได้ตื่นเต้นกับการเดินรถไฟขึ้นลงด้วยกลไกต่างๆแล้วละก็ แพลนเที่ยวนี้พลาดไม่ได้เลยจริงๆ
■ออนเซ็นซุมาตะเคียว
การเดินทางไปออนเซ็นซุมาตะเคียวนั้นสามารถเดินทางโดยรถบัสจากสถานีเซ็นสุประมาณ 40 นาที ที่พิเศษคือผิวของน้ำออนเซ็นที่นี่จะลื่นๆ หลายคนจึงเรียกที่นี่ว่า ออนเซ็นของสาวสวยนั่นเอง สามารถแช่ออนเซ็นไปด้วย ชมวิวภูเขา ท่ามกลางธรรมชาติอันบริสุทธิ์ไปด้วย จะมีอะไรดีกว่านี้อีก~
จากออนเซ็นซุมาตะเคียวเดินอีกประมาณ 30 นาที ก็จะพบกับสะพานแขวนยูเมะซึริบาชิ(Yume no Tsuribashi) พร้อมทะเลสาบสีมรกต สวยมากจนรับรองว่าต้องร้องว้าวเลยทีเดียว
สะพานแขวนมีความยาว 90 เมตรและมีความสูงจากระดับผิวน้ำทะเลสาบ 8 เมตร ที่สำคัญที่สะพานแห่งนี้เชื่อว่าถ้าขอพรที่กลางสะพาน คำขอจะเป็นจริง ใครไปก็ใจกล้าๆเดินข้ามสะพานแล้วขอพรกันนะคะ
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น): คลิ๊กที่นี่
ไม่ว่าจะฤดูใบไม้ผลิ ใบไม้ร่วง ฤดูหนาว หรือฤดูร้อนก็มาชมวิวสวยๆได้ที่โอคุโออิแถมยังมีจุดขอพรความรักที่กำลังได้รับความสนใจสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นที่สะพาน Oku-Oi Rainbow Bridge และสะพานแขวนยูเมะซึริบาชิ(Yume no Tsuribashi)
ดังนั้นใครที่อยากมาสัมผัสความงามของธรรมชาติ และเปิดประสบการณ์ใหม่ๆแล้วละก็ รีบชวนเพื่อนหรือคนรู้ใจมาสนุกกับการเที่ยวกับรถไฟโออิกาวะกันนะ!
©2018 Gullane(Thomas)Limited.
วิวสะพานแขวนอันงดงามที่เราจะได้เห็นบนเส้นทางรถไฟโออิกาวะ
วิธีการซื้อตั๋วรถไฟโออิกาวะ
ที่นั่งบนรถไฟโออิกาวะนั้นเป็นแบบระบุที่นั่ง ดังนั้นจึงจำเป็นต้องจองผ่านทางเว็บไซต์หรือโทรศัพท์ก่อน แต่ถ้าวันที่มาเที่ยวแล้วที่นั่งยังว่าง ก็สามารถซื้อตั๋วได้ที่หน้าเคาเตอร์ รถไฟโบราณแต่ยังเปิดให้บริการทุกวัน (1 วันมีประมาณ 1-3 รอบ) แต่จำนวนเที่ยวในแต่ละวันอาจแตกต่างกันและเฉพาะฤดูหนาว (กลางเดือนธันวาคมถึงกลางเดือนมีนาคม) อาจมีบางวันที่ปิดให้บริการ ดังนั้นเพื่อความมั่นใจ มาแล้วไม่ผิดหวัง สามารถตรวจสอบรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ด้านล่าง
ตารางเดินรถและจองบัตร (ภาษาอังกฤษ): คลิ๊กที่นี่
ตั้งแต่ปี 2014 ที่รถไฟโออิกาวะเปิดให้บริการมา รถไฟโทมัสและผองเพื่อนได้รับความนิยมสุดๆ นอกจากรถไฟโทมัสแล้วยังมี รถไฟเจมส์และรถบัสเบอร์ตี้อีกด้วย! รถไฟโทมัสและผองเพื่อนจะให้บริการในช่วงฤดูร้อน (กลางเดือนมิถุนายนถึงต้นเดือนตุลาคม)และช่วงคริสต์มาสเท่านั้น โดยในปี 2018 นี้ รถไฟโทมัสจะกลับมาวิ่งอีกครั้งในเดือนมิถุนายน ส่วนรถไฟเจมส์นั้นจะเริ่มเดินรถในเดือนกรกฏาคมเป็นต้นไป รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์
รายละเอียด
รถไฟโบราณโออิกาวะ (Oigawa Railway)เว็บไซต์: คลิ๊กที่นี่
เริ่มออกเดินทางจากสถานีชินคานายะ(Shinkanaya)
สถานีชินคานายะเริ่มก่อตั้งเมื่อปี 1926 จากภาพจะเห็นว่าสถานีรถไฟยังคงบรรยากาศคลาสสิคไว้เต็มๆ เนื่องจากรถไฟโบราณนี้จะเริ่มวิ่งจากสถานีชินคานายะ(Shinkanaya) เราจึงต้องเปลี่ยนไปขึ้นสายรถไฟโออิกาวะ ที่สถานี JR คานายะ (Kanaya) สายโทไคโดก่อน แล้วนั่งถัดไปอีก 1 สถานี
■มาซื้อเบนโต๊ะแบบฉบับรถไฟโออิกาวะแท้ๆกันดีกว่า~
ด้านหน้าสถานีรถไฟชินคานายะจะมีช่องจำหน่ายตั๋วและร้านขายของฝากพลาซ่าโรโค (Plaza Loco) อยู่ ส่วนด้านในอาคารก็มีโรโคมิวเซียม( Loco Mesuem) ที่ภายในจัดแสดงรถไฟโบราณและเครื่องจักรรถไฟต่างๆ ด้านในสามารถถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกได้เต็มที่ตามอัธยาศัยและยังเข้าฟรีอีกด้วย มาแล้วจะพลาดได้ยังไงกัน!
มาเที่ยวรถไฟญี่ปุ่นแล้วละก็ สิ่งที่พลาดไม่ได้เลยคือการทานเบนโตะอร่อยๆพร้อมชมวิวสองข้างทางและมาถึงจังหวัดชิซุโอะกะถึงที่แล้ว จะพลาดของขึ้นชื่ออย่างชาเขียวและกุ้งซากุระได้อย่างไรกัน มาแล้วก็อย่าลืมมาลองทานเบนโตะแท้ๆของที่นี่กันนะ!
[เบนโตะดั้งเดิมแบบฉบับโออิกาวะ]
ข้าวปั้น, ปลาอิวานะ (ปลาแม่น้ำ) และผักต้มพร้อมโปสการ์ดสวยๆ
[เบนโตะรถไฟโทมัสและผองเพื่อน]
■ตื่นตาตื่นใจตั้งแต่ก่อนออกเดินทาง
มื่อมาถึงชานชาลาสถานีชินคานายะ รถไฟโบราณที่มาพร้อมเสียงปู๊นๆและไอน้ำอันเป็นเอกลักษณ์ก็มาถึงพอดี~
มองเห็นทุ่งชาและดอกซากุระได้เต็มๆจากหน้าต่างรถไฟ
■ ไกด์ที่พาเราไปพบกับเรื่องราวที่น่าสนใจของรถไฟโออิกาวะ
เข้ามาภายในตัวรถไฟปุ๊บก็สัมผัสได้กับบรรยากาศรถไฟไอน้ำแบบโบราณต็มๆ ทั้งเสียงปู๊นๆและกลิ่นถ่านของรถไฟโบราณ สักพักคุณลุงและคุณป้าSL ก็จะทำหน้าที่ไกด์ คอยแนะนำสถานที่ที่น่าสนใจต่างๆ ภายในยังมีการเป่าฮาโมนิก้า ยิ่งได้บรรยากาศเก่าๆเข้าไปอีก
นอกจากนี้เส้นทางรถไฟโออิกาวะยังผ่านแหล่งปลูกชาที่ขึ้นชื่อ ดังนั้นระหว่างทางจะเห็นไร่ชากว้างสุดลูกหูลูกตาตลอดข้างทาง โดยเฉพาะปลายเดือนเมษายนถึงกลางเดือนพฤษภาคมจะเป็นช่วงที่ชากำลังแตกยอด ดังนั้นเมื่อรถไฟวิ่งผ่านไร่ชาเขียวจะได้กลิ่นหอมอ่อนๆของใบชาอีกด้วย
ช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายนเป็นช่วงที่ดอกซากุระกำลังบานเต็มที่ รอบๆสถานีอิเอะยามะ (Ieyama) เป็นบริเวณที่ขึ้นชื่อเรื่องซากุระมาก เพราะยังคงบรรยากาศเก่าๆไว้อย่างดี วิวสถานีรถไฟโบราณและ ดอกซากุระสีชมพูละมุน จึงไม่แปลกใจเลยว่าหนังและละครมักจะมาถ่ายทำที่นี่บ่อยครั้ง
เมื่อข้ามสะพานไดอิจิเคียวเรียวแล้วเราก็สามารถมองเห็นออนเซ็นกลางแจ้ง กาวะเนะออนเซ็นฟูเระอายโนะอิซุมิ (Kawane Onsen Fureai no Izumi) ไม่แน่อาจเห็นคนที่กำลังแช่ออนเซ็นโบกไม้โบกมือทักทายก็เป็นได้นะ อิอิ
เมื่อผ่านสถานีจินะ(Jina) กันแล้ว รถไฟจะลอดอุโมงค์ที่สั้นที่สุดในญี่ปุ่น มีความยาวเพียง 11 เมตร กว้างเพียง 5 เมตรเท่านั้น
เมื่อผ่านสถานีชิโอะโก (Shiogo) แล้ว ต่อไปรถไฟก็จะวิ่งผ่านสะพานแขวนที่ยาวที่สุด มีความยาวถึง 220 เมตร ขากลับเมื่อนั่งรถไฟปกติแนะนำให้ลองแวะมาเดินเล่นที่จุดนี้ รับรองว่าสนุกและตื่นเต้นสุดๆ
หลังจากผ่านสถานีอาโอเบะ(Aobe)และข้ามสะพานอีก 3 สะพาน รถไฟจะถึงสถานีปลายทางซึ่งก็คือสถานีเซ็นสุ (Senzu) ไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้คือการลองหมุนเปลี่ยนทิศหัวรถไฟด้วยแรงของเราตามแบบสมัยก่อน
ยังมีจุดที่น่าสนใจอีก 2 จุดใหญ่ๆ ไปเที่ยวแบบไหนดีนะ?
ใกล้ๆกับสถานีเซ็นสุยังมีสถานที่ที่น่าสนใจอีก 2 ที่ นั่นคือ รถไฟ Southern Alps Abt Line และ ออนเซ็นซุมาตะเคียว(Sumatakyo)
ก่อนอื่นมาดูกันว่ารถไฟ Southern Alps Abt Line จะมีอะไรสนุกๆให้ดูกันบ้าง
■รถไฟ Southern Alps Abt Line (สายอิกาวะ)
ตั้งแต่สถานีเซ็นสุถึงสถานีอิกาวะ มีความยาวประมาณ 25.5 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 50 นาที ระหว่างทางจะมีทั้งการขึ้นเขา ลงเขา โดยจะนำระบบการเดินรถแบบพิเศษที่เรียกว่าระบบ Abt System ที่มีที่นี่ที่เดียวในญี่ปุ่นที่ใช้ระบบนี้ในการขับเคลื่อน นอกจากนี้ใครจะมาลองนั่งรถไฟแบบนี้นี้ไม่จำเป็นต้องจองล่วงหน้าอีกด้วย สะดวกสุดๆ
รถไฟขนาดเล็กกะทัดรัด แต่หน้าต่างรถไฟกว้าง อากาศปลอดโปร่งสุดๆ นอกจากนี้ยังมีรถไฟแบบเที่ยวชมวิวชิลล์ๆที่เหมือนรถไฟในสวนสนุก แต่เวลาเดินรถอาจไม่แน่นอน ใครมาได้จังหวะพอดีถือว่าโชคดีสุดๆไปเลย
รถไฟขนาดเล็กกะทัดรัด แต่หน้าต่างรถไฟกว้าง อากาศปลอดโปร่งสุดๆ นอกจากนี้ยังมีรถไฟแบบเที่ยวชมวิวชิลล์ๆที่เหมือนรถไฟในสวนสนุก แต่เวลาเดินรถอาจไม่แน่นอน ใครมาได้จังหวะพอดีถือว่าโชคดีสุดๆไปเลย
หลังจากผ่านเส้นทางที่ใช้ระบบเดินรถแบบ Abt System กันแล้วก็จะค่อยๆขึ้นทางลาดชันไปยังสถานีต่อไป
หลังจากลอดอุโมงค์ที่ใกล้ๆกับสถานีฮิรันดะ(Hiranda)กันแล้ว ก็จะพบกับทะเลสาบเซ็กโซะโกะ (Sessoko) อันสวยงามตลอดทั้งสองข้างทางและยังสามารถมองเห็นสะพาน Oku Oi Rainbow Bridge อีกด้วย บอกได้เลยว่าจุดนี้เป็นไฮไลท์ของที่นี่เลย
น่าทึ่งสุดๆคือระหว่างสะพานยังมีสถานีโอคุโออิโกะโจ (Oku oi kojo) ขั้นกลางท่ามกลางทะเลสาบสีเขียวมรกต มุมนี้เอาไปเลยเต็มสิบ!
สถานีโอคุโออิโกะโจ ยังมีอีกชื่อเรียกที่เกิดจากการเล่นคำตัวอักษรคำจิที่ความหมายไปพ้องกับคำว่าความรัก ดังนั้นที่ชานชาลาจะมีกระดิ่งที่เรียกว่า 'Wind Forgotten' และกุญแจแห่งความรัก โดยเชื่อว่าถ้าได้มาขอพรเรื่องความรักแล้วจะสมหวัง เอ้าสาวๆทราบแล้วรีบลิสต์ไว้ในแพลนเที่ยวเลยค่ะ
สะพานแขวนเซะคิโนะซาวะเคียวเรียว (Sekinosawakyoryo) ซึ่งอยู่ระหว่างสถานีโอโมริ (Omori) และสถานีคันโส (Kanzo) มึความสูงจากระดับก้นแม่น้ำ 71 เมตร ถือเป็นสะพานแขวนที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น ได้ยื่นหน้าออกนอกหน้าต่าง สูดอากาศบริสุทธิ์ สดชื่นสุดๆไปเลย ยิ่งช่วงต้นเดือนถึงกลางเดือนพฤศจิกายนที่เป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสีแล้วละก็ยิ่งสวยตระการตาสุดๆ แนะนำเลย!
สามารถรับซองใส่ตั๋วที่หน้าตาคล้ายที่คั่นหนังสือ โดยสามารถนำตั๋วที่รับมาจากสถานีต่างๆมาเก็บไว้เป็นที่ระลึก ซึ่งสามารถขอได้ที่พนักงานรถไฟภายในรถไฟได้เลย
ใครที่ชอบนั่งรถไฟชมวิวสวยๆ สัมผัสอากาศบริสุทธิ์ ได้ตื่นเต้นกับการเดินรถไฟขึ้นลงด้วยกลไกต่างๆแล้วละก็ แพลนเที่ยวนี้พลาดไม่ได้เลยจริงๆ
■ออนเซ็นซุมาตะเคียว
การเดินทางไปออนเซ็นซุมาตะเคียวนั้นสามารถเดินทางโดยรถบัสจากสถานีเซ็นสุประมาณ 40 นาที ที่พิเศษคือผิวของน้ำออนเซ็นที่นี่จะลื่นๆ หลายคนจึงเรียกที่นี่ว่า ออนเซ็นของสาวสวยนั่นเอง สามารถแช่ออนเซ็นไปด้วย ชมวิวภูเขา ท่ามกลางธรรมชาติอันบริสุทธิ์ไปด้วย จะมีอะไรดีกว่านี้อีก~
จากออนเซ็นซุมาตะเคียวเดินอีกประมาณ 30 นาที ก็จะพบกับสะพานแขวนยูเมะซึริบาชิ(Yume no Tsuribashi) พร้อมทะเลสาบสีมรกต สวยมากจนรับรองว่าต้องร้องว้าวเลยทีเดียว
รายละเอียด
Kawane Honcho Machizukuri Tourism Associationเว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น): คลิ๊กที่นี่
มาเที่ยวชมวิวสวยๆกับรถไฟโออิกาวะกันเถอะ
ไม่ว่าจะฤดูใบไม้ผลิ ใบไม้ร่วง ฤดูหนาว หรือฤดูร้อนก็มาชมวิวสวยๆได้ที่โอคุโออิแถมยังมีจุดขอพรความรักที่กำลังได้รับความสนใจสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นที่สะพาน Oku-Oi Rainbow Bridge และสะพานแขวนยูเมะซึริบาชิ(Yume no Tsuribashi)
ดังนั้นใครที่อยากมาสัมผัสความงามของธรรมชาติ และเปิดประสบการณ์ใหม่ๆแล้วละก็ รีบชวนเพื่อนหรือคนรู้ใจมาสนุกกับการเที่ยวกับรถไฟโออิกาวะกันนะ!
©2018 Gullane(Thomas)Limited.
ถ้าชอบบทความนี้ กดถูกใจให้ด้วยนะ
บทความนี้เขียนขึ้นเมื่อ 31/01/2018 เรื่องโดย:กองบรรณาธิการ DiGJAPAN!
ความคิดเห็นล่าสุด | 0ความคิดเห็น
หากเป็นสมาชิก DiGJAPAN!
จะสามารถโพสต์คอมเม้นท์ได้
สมัครสมาชิก