- TOP
- ปรับแต่งรายการผลการค้นหา
- Sushi no Midori Umegaoka ร้านซูชิแสนอร่อยและราคาถูกที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปโตเกียว
บทความ
Sushi no Midori Umegaoka ร้านซูชิแสนอร่อยและราคาถูกที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปโตเกียว
เมื่อพูดถึงทริปญี่ปุ่นก็ต้องนึกถึงซูชิ มาถึงถิ่นทั้งทีต้องไม่พลาดร้านซูชิแบบที่พ่อครัวปั้นเสิร์ฟกันสดๆเลย วันนี้เราจะพาไปร้านชื่อดังที่ราคาสมเหตุสมผล เดินทางง่าย และที่สำคัญที่สุดอร่อยด้วยอย่างร้าน Sushi no Midori Umegaoka มีแนะนำเมนูเด็ดๆเพียบเลย
ร้าน Sushi no Midori Umegaoka มีอาหารที่สดใหม่ ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นคาวใดๆ เพราะวัตถุดิบสดๆในตู้โชว์นั้นจะถูกหั่นและปั้นกันให้เห็น ยิ่งนั่งตรงบริเวณเคาน์เตอร์จะได้เห็นใกล้ๆเลย ร้าน Sushi no Midori มีหลายสาขา แบบซูชิจานหมุนก็มีเช่นกัน แต่วันนี้เราจะไปลองซูชิกันที่ที่นั่งเคาน์เตอร์ ณ สาขา Umegaoka
จิบชาร้อนไปพลางๆกับการกินซูชิช่างวิเศษสุดๆ
ถ้าอยากได้เป็นชาเย็นก็บอกกับพนักงานร้านได้เลย
เมื่อได้ที่นั่งก็จะมีชามาเสิร์ฟ ฟรีและดื่มได้ไม่อั้น หรือถ้าอยากดื่มอย่างอื่นนอกจากชาก็สามารถสั่งโดยจ่ายเพิ่มได้ มีทั้งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และที่ไม่มีแอลกอฮอล์ผสมด้วย
บนโต๊ะมีถ้วยเล็กๆไว้สำหรับใส่ขิงดอง เป็นขิงที่หั่นบางและดองด้วยน้ำส้มสายชูหวาน ด้วยรสเปรี้ยวหวานของน้ำส้มสายชูที่ตามด้วยรสเผ็ดของขิงจะทำให้รู้สึกสดชื่น สามารถตักได้เองตามใจชอบและฟรี มาทานขิงดองโดยแบ่งใส่ถ้วยเล็กๆกัน
ขิงดองช่วยกำจัดกลิ่นของปลาและมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรค หลังทานซูชิหนึ่งชิ้นควรตามด้วยขิงดองเพื่อล้างปาก เมื่อทานซูชิชิ้นต่อไปจะยิ่งอร่อยขึ้น
สามารถสั่งเป็นชิ้นๆตามที่ชอบก็ได้ แต่มีเมนูพิเศษในช่วงเวลาอาหารกลางวันของวันธรรมดาอยู่ ซึ่งประกอบด้วยซูชิหลากหลายชนิดให้รับประทานเปรียบเทียบกัน
Tairyo lunch 918 เยน (ราคารวมภาษี) ※ชนิดของของสดอาจเปลี่ยนแปลงตามของในสต็อก
Ume toku lunch 1,728 เยน (ราคารวมภาษี) ※ชนิดของของสดอาจเปลี่ยนแปลงตามของในสต็อก
ในช่วงเวลาอาหารกลางวันมีสลัดและไข่ตุ๋นให้ด้วย ไข่ตุ๋นนี้ใส่เครื่องและมีรสชาติอ่อนๆของน้ำซุป ด้านในมีทั้งเนื้อไก่ เมล็ดแปะก๊วย เห็ดชิตาเกะ และผักมิสึบะที่คล้ายผักชี
เมื่อไปทานซูชิ หากกังวลว่าใส่โชยุในถ้วยเล็กแล้วทำอย่างไรต่อดี เรามาบอกวิธีทานซูชิกันที่นี่เลย ให้เอียงซูชิเล็กน้อยแล้วแตะส่วนหน้ากับโชยุ หากแตะด้วยส่วนที่เป็นข้าว ข้าวจะดูดซึมโชยุและทำให้เค็มเกินไป หากใครไม่ถนัดใช้ตะเกียบสามารถใช้มือแทนได้ โดยจับซูชิในลักษณะบนล่างที่ส่วนหน้าและข้าว จะทำให้ไม่แตกออกจากกัน
เมื่อใช้ตะเกียบให้คีบตรงกลางจะทำให้ถือง่าย
เมื่อใช้ตะเกียบให้คีบตรงกลางจะทำให้ถือง่าย
เมื่อใช้มือให้จับโดยกดเล็กน้อยแล้วแตะกับโชยุ
ซูชิไข่ปลาแซลมอนหรือไข่หอยเม่นตามรูปด้านล่างนั้นเรียกว่าแบบ "กุนคัน (軍艦)" เป็นซูชิที่แตกง่าย ดังนั้นใช้ขิงดองแตะที่โชยุและนำมาป้ายบนหน้าก่อนรับประทานจึงเป็นวิธีสำหรับซูชิแบบนี้
สำหรับคนที่ไม่ชอบวาซาบิสามารถบอกพนักงานร้านก่อนสั่งอาหารได้ว่า "ขอไม่ใส่วาซาบิ" ซึ่งเป็นคำเรียกว่า "ซาบินุกิ (サビ抜き)"
หากอยากสั่งอาหารเพิ่ม จะใช้การชี้ของในตู้โชว์ หรือจะสั่งจากเมนูที่มีรูปประกอบก็ได้ เมนูของร้าน Sushi no Midori สาขานี้มีภาษาอังกฤษด้วย สามารถดูเมนูแล้วเลือกก็ได้เช่นกัน
ใช้การชี้รูปเพื่อสั่งได้เมื่อไม่แน่ใจ
เนื้อแซลมอนถูกทาด้วยมายองเนสและด้านบนนั้นถูกย่างเล็กน้อยด้วยเบิร์นเนอร์ให้มีสีน้ำตาล เนื่องจากด้านนอกนั้นมีความกรอบนิดๆพร้อมด้วยกลิ่นหอม ทำให้ซูชินี้เต็มเปี่ยมไปด้วยรสสัมผัส
ทามายองเนสที่แซลมอนและย่างด้านบนนั้น
แซลมอนยอดฮิตก็มี 3 แบบ พอลองรับประทานเปรียบเทียบกันแล้ว ไม่ว่าแบบไหนก็อร่อยทั้งนั้น!
※แซลมอน 3 แบบ จากด้านซ้ายคือแซลมอนย่าง ถัดมาเป็นแซลมอนสด และแซลมอนหมักตามลำดับ ราคาชิ้นละ 216 เยน (ราคารวมภาษี)
สลัดทะเลเป็นโรลห่อด้วยฟองเต้าหู้ ไส้เป็นปลาหมึก ไข่ แซลมอน แตงกวา กุ้งและอื่นๆ ราดด้วยน้ำสลัดขิงดอง อร่อยและให้ความรู้สึกสดชื่นหลังรับประทานมากๆเลย ※สลัดทะเลห่อด้วยฟองเต้าหู้ 832 เยน (ราคารวมภาษี)
ในช่วงเวลาอาหารกลางวันมีซุปมิโซะใส่สาหร่ายวากาเมะให้ด้วย เติมได้ไม่อั้น ส่วนซุบชนิดอื่นที่ต้องจ่ายเพิ่ม เช่น ซุปสาหร่ายโนริและซุปหอยลาย ก็เป็นที่แนะนำ
ซุปมิโซะใส่สาหร่ายวากาเมะที่เติมได้ไม่อั้น
อาหารจานเล็กๆก็เป็นที่นิยม แนะนำอาหารทะเลคลุกกับน้ำส้มสายชูที่มีรสเปรี้ยว ให้ความรู้สึกสดชื่น
คิวหน้าร้านในช่วงเวลาอาหารกลางวัน
ด้านหน้าร้านมีป้ายขนาดใหญ่อยู่ สังเกตง่าย
เมื่อกรอกข้อมูลครบก็จะได้กระดาษพร้อมเลขลำดับคิวมา
ที่อยู่: 1-20-7 Umegaoka, Setagaya, Tokyo
เวลาเปิด: วันจันทร์-ศุกร์ 11.00-22.00 น. (L.O. 21.45)
วันเสาร์ 11.00 - 22.00 น. (L.O. 21.45)
วันอาทิตย์และวันหยุดตามปฏิทิน 11.00 - 21.00(L.O. 20.45)
วันหยุด: 31 ธันวาคมและ 1 มกราคม
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น): คลิ๊กที่นี่
เพลิดเพลินกับรสชาติไปพร้อมกับดูพ่อครัวซูชิที่ Sushi no Midori

ร้าน Sushi no Midori Umegaoka มีอาหารที่สดใหม่ ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นคาวใดๆ เพราะวัตถุดิบสดๆในตู้โชว์นั้นจะถูกหั่นและปั้นกันให้เห็น ยิ่งนั่งตรงบริเวณเคาน์เตอร์จะได้เห็นใกล้ๆเลย ร้าน Sushi no Midori มีหลายสาขา แบบซูชิจานหมุนก็มีเช่นกัน แต่วันนี้เราจะไปลองซูชิกันที่ที่นั่งเคาน์เตอร์ ณ สาขา Umegaoka

จิบชาร้อนไปพลางๆกับการกินซูชิช่างวิเศษสุดๆ

ถ้าอยากได้เป็นชาเย็นก็บอกกับพนักงานร้านได้เลย

เมื่อได้ที่นั่งก็จะมีชามาเสิร์ฟ ฟรีและดื่มได้ไม่อั้น หรือถ้าอยากดื่มอย่างอื่นนอกจากชาก็สามารถสั่งโดยจ่ายเพิ่มได้ มีทั้งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และที่ไม่มีแอลกอฮอล์ผสมด้วย
บนโต๊ะมีถ้วยเล็กๆไว้สำหรับใส่ขิงดอง เป็นขิงที่หั่นบางและดองด้วยน้ำส้มสายชูหวาน ด้วยรสเปรี้ยวหวานของน้ำส้มสายชูที่ตามด้วยรสเผ็ดของขิงจะทำให้รู้สึกสดชื่น สามารถตักได้เองตามใจชอบและฟรี มาทานขิงดองโดยแบ่งใส่ถ้วยเล็กๆกัน

ขิงดองช่วยกำจัดกลิ่นของปลาและมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรค หลังทานซูชิหนึ่งชิ้นควรตามด้วยขิงดองเพื่อล้างปาก เมื่อทานซูชิชิ้นต่อไปจะยิ่งอร่อยขึ้น
ชุดซูชิราคาต่ำกว่า 1000 เยน! ห้ามพลาดราคาแสนถูกในช่วงเวลาอาหารกลางวัน

สามารถสั่งเป็นชิ้นๆตามที่ชอบก็ได้ แต่มีเมนูพิเศษในช่วงเวลาอาหารกลางวันของวันธรรมดาอยู่ ซึ่งประกอบด้วยซูชิหลากหลายชนิดให้รับประทานเปรียบเทียบกัน
Tairyo lunch 918 เยน (ราคารวมภาษี) ※ชนิดของของสดอาจเปลี่ยนแปลงตามของในสต็อก

Ume toku lunch 1,728 เยน (ราคารวมภาษี) ※ชนิดของของสดอาจเปลี่ยนแปลงตามของในสต็อก

ในช่วงเวลาอาหารกลางวันมีสลัดและไข่ตุ๋นให้ด้วย ไข่ตุ๋นนี้ใส่เครื่องและมีรสชาติอ่อนๆของน้ำซุป ด้านในมีทั้งเนื้อไก่ เมล็ดแปะก๊วย เห็ดชิตาเกะ และผักมิสึบะที่คล้ายผักชี

ทำอย่างไรกับวาซาบิดี? สั่งเพิ่มยังไง? มาดู How To ร้านซูชิกัน
เมื่อไปทานซูชิ หากกังวลว่าใส่โชยุในถ้วยเล็กแล้วทำอย่างไรต่อดี เรามาบอกวิธีทานซูชิกันที่นี่เลย ให้เอียงซูชิเล็กน้อยแล้วแตะส่วนหน้ากับโชยุ หากแตะด้วยส่วนที่เป็นข้าว ข้าวจะดูดซึมโชยุและทำให้เค็มเกินไป หากใครไม่ถนัดใช้ตะเกียบสามารถใช้มือแทนได้ โดยจับซูชิในลักษณะบนล่างที่ส่วนหน้าและข้าว จะทำให้ไม่แตกออกจากกัน
เมื่อใช้ตะเกียบให้คีบตรงกลางจะทำให้ถือง่าย

เมื่อใช้ตะเกียบให้คีบตรงกลางจะทำให้ถือง่าย

เมื่อใช้มือให้จับโดยกดเล็กน้อยแล้วแตะกับโชยุ

ซูชิไข่ปลาแซลมอนหรือไข่หอยเม่นตามรูปด้านล่างนั้นเรียกว่าแบบ "กุนคัน (軍艦)" เป็นซูชิที่แตกง่าย ดังนั้นใช้ขิงดองแตะที่โชยุและนำมาป้ายบนหน้าก่อนรับประทานจึงเป็นวิธีสำหรับซูชิแบบนี้
สำหรับคนที่ไม่ชอบวาซาบิสามารถบอกพนักงานร้านก่อนสั่งอาหารได้ว่า "ขอไม่ใส่วาซาบิ" ซึ่งเป็นคำเรียกว่า "ซาบินุกิ (サビ抜き)"
หากอยากสั่งอาหารเพิ่ม จะใช้การชี้ของในตู้โชว์ หรือจะสั่งจากเมนูที่มีรูปประกอบก็ได้ เมนูของร้าน Sushi no Midori สาขานี้มีภาษาอังกฤษด้วย สามารถดูเมนูแล้วเลือกก็ได้เช่นกัน
ใช้การชี้รูปเพื่อสั่งได้เมื่อไม่แน่ใจ

จานเด็ดของ Sushi no Midori! ลองเมนูพิเศษกันเถอะ
อะบุริ (炙り)หรือแบบย่าง เป็นซูชิที่แตกต่างไปจากปกติเล็กน้อย คราวนี้ได้ลองสั่งอะบุริแซลมอนมาเนื้อแซลมอนถูกทาด้วยมายองเนสและด้านบนนั้นถูกย่างเล็กน้อยด้วยเบิร์นเนอร์ให้มีสีน้ำตาล เนื่องจากด้านนอกนั้นมีความกรอบนิดๆพร้อมด้วยกลิ่นหอม ทำให้ซูชินี้เต็มเปี่ยมไปด้วยรสสัมผัส

ทามายองเนสที่แซลมอนและย่างด้านบนนั้น
แซลมอนยอดฮิตก็มี 3 แบบ พอลองรับประทานเปรียบเทียบกันแล้ว ไม่ว่าแบบไหนก็อร่อยทั้งนั้น!
※แซลมอน 3 แบบ จากด้านซ้ายคือแซลมอนย่าง ถัดมาเป็นแซลมอนสด และแซลมอนหมักตามลำดับ ราคาชิ้นละ 216 เยน (ราคารวมภาษี)


ในช่วงเวลาอาหารกลางวันมีซุปมิโซะใส่สาหร่ายวากาเมะให้ด้วย เติมได้ไม่อั้น ส่วนซุบชนิดอื่นที่ต้องจ่ายเพิ่ม เช่น ซุปสาหร่ายโนริและซุปหอยลาย ก็เป็นที่แนะนำ
ซุปมิโซะใส่สาหร่ายวากาเมะที่เติมได้ไม่อั้น

อาหารจานเล็กๆก็เป็นที่นิยม แนะนำอาหารทะเลคลุกกับน้ำส้มสายชูที่มีรสเปรี้ยว ให้ความรู้สึกสดชื่น

ใกล้สถานีอุเมกาโอกะ รถไฟสายโอดะคิว ทางไปร้านง่ายมาก
ทางไปร้าน Sushi no Midori Umegaoka ใช้เวลาเพียง 1 นาทีจากทางออกทิศใต้ของสถานีอุเมกาโอกะ (umegaoka) รถไฟโอดะคิว (odakyu) สายโอดะวะระ (odawara) เมื่อเข้าสู่ถนนร้านค้าก็จะเห็นคิวหน้าร้านทันที สถานีอุเมกาโอกะ (umegaoka) ใช้เวลาเพียง 15 นาทีจากสถานีชินจุกุด้วยรถไฟธรรมดาของโอดะคิว (odakyu) ที่มุ่งหน้าไปยังฮอน-อัตสึกิ (Hon-Atsugi) เดินทางง่ายมากๆคิวหน้าร้านในช่วงเวลาอาหารกลางวัน

ด้านหน้าร้านมีป้ายขนาดใหญ่อยู่ สังเกตง่าย

เครื่องกดบัตรคิวอยู่บริเวณหน้าร้าน คนค่อนข้างเยอะในช่วงเวลาอาหารกลางวันจึงแนะนำให้รีบกดบัตรคิวเมื่อไปถึงทันที มีหน้าจอภาษาอังกฤษด้วย กดคิวตามนั้นได้เลย
เครื่องกดบัตรคิวแบบหน้าจอสัมผัสที่ทางเข้าร้าน
เครื่องกดบัตรคิวแบบหน้าจอสัมผัสที่ทางเข้าร้าน

เมื่อกรอกข้อมูลครบก็จะได้กระดาษพร้อมเลขลำดับคิวมา

ว่าแล้วก็ไป Sushi no Midori Umegaoka กันเถอะ
ร้าน Sushi no Midori Umegaoka มีจุดเด่นด้วยความอร่อยและราคาย่อมเยา แวะไปลองกันได้ไม่ว่าจะก่อนหรือหลังช้อปปิ้งและท่องเที่ยวที่ชินจุกุ โดยเฉพาะช่วงเวลาอาหารกลางวันที่แนะนำอย่างยิ่ง ห้ามพลาดร้านซูชิแบบต้นตำรับแท้ๆที่สดอร่อยเช่นนี้รายละเอียด
Midori-Sushi Umegaokaที่อยู่: 1-20-7 Umegaoka, Setagaya, Tokyo
เวลาเปิด: วันจันทร์-ศุกร์ 11.00-22.00 น. (L.O. 21.45)
วันเสาร์ 11.00 - 22.00 น. (L.O. 21.45)
วันอาทิตย์และวันหยุดตามปฏิทิน 11.00 - 21.00(L.O. 20.45)
วันหยุด: 31 ธันวาคมและ 1 มกราคม
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น): คลิ๊กที่นี่
ถ้าชอบบทความนี้ กดถูกใจให้ด้วยนะ
บทความนี้เขียนขึ้นเมื่อ 30/11/2018 เรื่องโดย:กองบรรณาธิการ DiGJAPAN!
ความคิดเห็นล่าสุด | 0ความคิดเห็น
หากเป็นสมาชิก DiGJAPAN!
จะสามารถโพสต์คอมเม้นท์ได้
สมัครสมาชิก