- TOP
- ปรับแต่งรายการผลการค้นหา
- เปิดใหม่! DIGITAL ART MUSEUM "teamLab Borderless" ณ โตเกียว
บทความ
เปิดใหม่! พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ไม่เหมือนใครในโลก DIGITAL ART MUSEUM "teamLab Borderless" ณ โตเกียว
teamLab (ทีมแล็บ) กลุ่มที่สร้างสรรค์ผลงานศิลปะชื่อดังในแนวผสมผสานกับเทคโนโลยีมาตลอด จะเปิดพิพิธภัณฑ์ศิลปะดิจิทัลชื่อว่า "โมริ บิลดิ้ง ดิจิทัล อาร์ท มิวเซียม: ทีมแล็บ บอร์เดอร์เลส" (MORI Building DIGITAL ART MUSEUM: teamLab Borderless) ในเดือนมิถุนายน 2018 นี้ที่โอไดบะ กรุงโตเกียว
พิพิธภัณฑ์ศิลปะดิจิทัลถาวรแห่งแรกของทีมแล็บนี้เปิดโอกาสให้เราได้สัมผัสกับการผสมผสานของเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของดิจิทัลและงานศิลปะ ถือเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในโตเกียวเลยทีเดียว ถ้าไม่รู้จักเรียกว่าพลาดได้เลย ไปดูความเจ๋งของงานนี้พร้อมๆกับ DiGJAPAN! กัน
นอกจากการไร้เส้นกั้นระหว่างผลงานศิลปะด้วยกันเองแล้ว กับผู้เข้าชมก็เช่นเดียวกัน หมายความว่ายังไงกันนะ? ใช่แล้ว! หากเอามือไปสัมผัส ดอกไม้ก็จะบานเป็นต้น มีการเปลี่ยนแปลงหลากหลายรูปแบบเลย ได้ทั้งการเดินหางานศิลปะอย่างอิสระ และประสบการณ์ใหม่อีกด้วย
ตอนนี้คงอยากรู้กันแล้วใช่มั้ยว่าเป็นแบบไหนกันนะ? ตัวอย่างเช่น แนวกระโดดของ Multi Jumping Universe หรือ Light Forest Three-dimensional Bouldering จำนวนผู้เข้าชมหรือลักษณะการเคลื่อนไหวของแต่ละชิ้นงานก็แตกต่างกันออกไป ถือเป็นศิลปะที่ใช้ร่างกายในการสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ไม่เพียงแค่เด็กเท่านั้น ผู้ใหญ่ก็สนุกไปด้วยแน่นอน
และไม่เพียงแต่ความสนุกอย่างเดียว ชิ้นงานต่างๆล้วนเสริมสร้างจินตนาการและทักษะการร่วมกันสร้างสรรค์ หนึ่งในนั้นคือมุมวาดรูปที่น่าสนใจมากๆ ดูเผินๆอาจเหมือนการวาดรูปทั่วไป แต่เมื่อวาดเสร็จและส่งให้พนักงานเพื่อนำไปสแกนแล้วจะกลายเป็นภาพเคลื่อนไหวไปตามผนังหรือพื้นของพิพิธภัณฑ์ ภาพวาดฝีมือเรากลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่เคลื่อนไหวไปทั่ว ช่างน่าตื่นเต้นจริงๆ!
ป่าแห่งโคมไฟ คือห้องที่เต็มไปด้วยโคมไฟห้อยระย้า เมื่อผู้เข้าชมหยุดยืนอยู่พักหนึ่ง โคมไฟที่ใกล้ที่สุดจะส่องสว่างเป็นสีขึ้นมา จากนั้นแสงดังกล่าวจะสื่อสารไปยังโคมไฟที่อยู่ถัดไปและต่อๆไป ทำให้เราถูกล้อมรอบไปด้วยโคมไฟที่เปลี่ยนแสงสี ราวกับอยู่ในโลกพิศวงทีเดียว
ป่าแห่งโคมไฟที่แสนตระการตานี้มีพื้นที่ค่อนข้างจำกัด ทำให้มีการกำหนดจำนวนผู้เข้าชมและระยะเวลาการเข้าชมในแต่ละรอบ สำหรับท่านที่มาเยี่ยมชมทีมแล็บ บอร์เดอร์เลสเพียงช่วงสั้นๆ แนะนำให้ไปป่าแห่งโคมไฟนี้เป็นที่แรก แม้ว่าอาจจะต้องมีการต่อคิวและเวลาในการรอจะแตกต่างไปตามความแน่นของผู้เข้าชม แต่นี่เป็นชิ้นงานที่อยากให้ลองชมจริงๆ
ลักษณะเด่นและความหวานของชาทั้ง 4 ชนิดมีคำอธิบายภาษาอังกฤษอยู่ในเมนู เมื่อแจ้งชนิดชาที่ต้องการกับพนักงานที่ทางเข้าคาเฟ่แล้ว จะได้รับกล่องใส่ใบชามา
เมื่อพนักงานพาไปยังที่นั่งแล้ว ก็สามารถยื่นใบชาให้กับพนักงานเพื่อให้ชงให้เราได้ 1 แก้วมีราคา 500 เยน (ราคารวมภาษี)
ดอกไม้ที่เบ่งบานในถ้วยชาอย่างต่อเนื่องช่างสวยงามจริงๆ จนไม่อยากดื่มให้หมดเลย
เนื่องจากไม่สามารถนำสัมภาระที่ขนาดค่อนข้างใหญ่เข้าไปด้วยได้ กรุณาฝากฟรีที่ล็อกเกอร์หยอดเหรียญใกล้ทางเข้า มีค่ามัดจำ 100 เยนในตอนฝากซึ่งจะได้คืนเมื่อนำสัมภาระออก สำหรับของชิ้นใหญ่ เช่น รถเข็นเด็ก สามารถฝากไว้ที่ริมผนังโดยคาดสายคล้องไว้ สำหรับกระเป๋าเดินทาง กรุณาฝากที่สถานีใกล้เคียงหรืออื่นๆเนื่องจากไม่มีล็อกเกอร์สำหรับกระเป๋าเดินทางในพิพิธภัณฑ์
ผลงานหลายชิ้นในพิพิธภัณฑ์มีส่วนของพื้นเป็นกระจก ดังนั้นควรเลี่ยงการใส่กระโปรง นอกจากนี้แนะนำให้ใช้รองเท้าที่เดินสะดวก เช่น รองเท้าผ้าใบ หากมาด้วยรองเท้าส้นสูงหรือรองเท้าแตะ กรุณาใช้บริการยืมคืนรองเท้าฟรีด้านในพิพิธภัณฑ์ มีรองเท้าสำหรับผู้ใหญ่ 3 ขนาด คือ เอส เอ็ม และแอล ใช้ได้ทั้งชายและหญิง
ชั้นของพาเลททาวน์อาจทำให้เกิดความสับสนได้ง่ายจึงควรระมัดระวังการหลง ทางที่แนะนำสำหรับคนที่ไปโอไดบะครั้งแรกคือมุ่งหน้าจากชั้น 2 ของพาเลททาวน์ เมื่อผ่านทางเชื่อมเมกะ เว็บ (MEGA WEB) แล้ว จะเห็นทางเข้าทีมแล็บ บอร์เดอร์เลสทันที
ที่อยู่: Odaiba Palette Town,1-3-8 Aomi, Koto-ku, Tokyo
เวลาทำการ: วันจันทร์-วันพฤหัสบดี 11.00 - 19.00 (ช่วงขยายเวลาพิเศษ 21.00) วันศุกร์และวันก่อนวันหยุดตามปฏิทิน 11.00 - 21.00 (ช่วงขยายเวลาพิเศษ 22.00) วันเสาร์ 10.00 - 21.00 (ช่วงขยายเวลาพิเศษ 22.00) วันอาทิตย์และวันหยุดตามปฏิทิน 10.00 - 19.00 (ช่วงขยายเวลาพิเศษ 20.00)
※เวลาทำการอาจเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล
※สามารถเข้าชมรอบสุดท้ายคือ 1 ชั่วโมงก่อนเวลาปิดทำการ
※ กรุณาตรวจสอบเวลาทำการของ EN TEA HOUSE ที่เว็บไซต์ทางการ
วันหยุด: วันอังคารสัปดาห์ที่ 2 และสัปดาห์ที่ 4 ของเดือน
※วันหยุดช่วงนี้: วันที่ 25 มิถุนายน วันที่ 10 และ 24 กรกฏาคม 2018
ค่าเข้าพิพิธภัณฑ์: ผู้ใหญ่ (ตั้งแต่อายุ 15 ปีขึ้นไป) 3,200 เยน อายุ 4 ถึง 14 ปี 1,000 เยน
※ราคาพิเศษช่วงฉลองการเปิดทำการถึงวันที่ 31 กรกฏาคม 2018 คือ 2,400 เยน (ผู้ใหญ่)
※ราคาทั้งหมดรวมภาษีแล้ว
การเดินทาง: เดิน 5 นาทีจากสถานี Tokyo Teleport Station สาย Rinkai หรือสถานี Aomi สาย Yurikamome
เว็บไซต์ทางการ: MORI Building DIGITAL ART MUSEUM: EPSON teamLab Borderless
เว็บไซต์ทางการ: EN TEA HOUSE
※บทความนี้อ้างอิงจากการเก็บรวบรวมข้อมูลเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2018
บทความโดยแฟนเพจ DiGJAPAN!:
MIKI นักเขียนอิสระชาวมาเก๊าอาศัยอยู่ที่โตเกียวโดยอยู่ญี่ปุ่นมา 7 ปี งานอดิเรกคือการเดินทาง ชอบของหวานและดนตรีญี่ปุ่น จะนำเสนอข้อมูลท้องถิ่นที่น่าสนใจของญี่ปุ่น
ภาพโดย: DiGJAPAN! ภาพบางส่วนจากหน่วยงานทางการ

ผลงาน:Universe of Water Particles on a Rock
พิพิธภัณฑ์ศิลปะดิจิทัลถาวรแห่งแรกของทีมแล็บนี้เปิดโอกาสให้เราได้สัมผัสกับการผสมผสานของเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของดิจิทัลและงานศิลปะ ถือเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในโตเกียวเลยทีเดียว ถ้าไม่รู้จักเรียกว่าพลาดได้เลย ไปดูความเจ๋งของงานนี้พร้อมๆกับ DiGJAPAN! กัน

ผลงาน:Animals of Flowers, Symbiotic
พิพิธภัณฑ์ที่ผู้เข้าชมได้สนุกกับประสบการณ์ด้านศิลปะของทีมแล็บ
ถ้าพูดถึงพิพิธภัณฑ์ ส่วนใหญ่จะนึกถึงแกลเลอรีอันเงียบเชียบ หรือไม่ก็งานศิลปะที่แขวนอยู่ตามผนังกันใช่มั้ย? แต่ทีมแล็บ บอร์เดอร์เลสคือพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ไม่ซ้ำใครในโลก ผู้เข้าชมสามารถสนุกและได้ประสบการณ์กลับไปด้วย มีการจัดแสดงสุดยอดงานศิลปะราวๆ 50 ชิ้น ในพื้นที่ 10,000 ตารางเมตร
“โลกห้าใบ”กับความแตกต่างที่เป็นเอกลักษณ์!
ทีมแล็บ บอร์เดอร์เลสสร้างภายใต้แนวคิด “โลกห้าใบ” แต่ละใบมีความแตกต่างกันและเป็นเอกลักษณ์ ภายในพิพิธภัณฑ์ไม่มีการกำหนดเส้นทางการเดินชมซึ่งแตกต่างจากพิพิธภัณฑ์ทั่วไป แม้กระทั่งแผนที่ก็ไม่มี จะเลือกเดินไปทางขวาหรือเลี้ยวซ้ายก็เป็นประสบการณ์ที่เลือกได้เอง นอกจากนี้ยังมีเซอร์ไพรส์ในหลายๆรูปแบบรออยู่ตามจุดต่างๆอีกด้วย!
ผลงาน:Born From the Darkness a Loving, and Beautiful World
1. บอร์เดอร์เลส เวิลด์ (Borderless World) โลกที่ไม่มีเส้นกั้นระหว่างงานศิลปะ
เมื่อผ่านประตูไปจะเข้าสู่บอร์เดอร์เลส เวิลด์ (Borderless World) ผลงานศิลปะในโลกนี้จะเปลี่ยนไปหรือเผยด้านอื่นเรื่อยๆเมื่อเวลาผ่านไป และเนื่องจากเป็นโลกที่ไม่มีเส้นกั้นระหว่างงานศิลปะ ทำให้แต่ละชิ้นงานมีปฏิสัมพันธ์กัน ไม่ว่าจะเคลื่อนย้ายไปมุมห้อง หรือรวมกันกลายเป็นงานศิลปะใหม่ในบางที เป็นประสบการณ์ใหม่ที่ไม่เคยมีที่ไหนมาก่อน
ผลงาน:Flower Forest, Lost,Immersed and Reborn
ดอกไม้สีแดงสื่อถึงฤดูใบไม้ผลินั้นทั้งเบ่งบานและพัดปลิว เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ทั้งยังกลายเป็นดอกไม้สีเหลืองที่สื่อถึงฤดูร้อน เป็นงานที่ไม่ได้มีแค่ความสวยงาม แต่ยังทำให้เราได้สัมผัสถึงฤดูกาลด้วยผลงาน:Flower Forest, Lost,Immersed and Reborn
ผลงาน:Memory of Topography

ผลงาน:Flutter of Butterflies Beyond Borders in the Crystal World
2. ทีมแล็บ แอธเลติกส์ ฟอเรสต์ (teamLab Athletics Forest) ป่าของการเคลื่อนไหวอย่างสร้างสรรค์
ป่าของการเคลื่อนไหว คือ ป่าที่ใช้ร่างกายในการเที่ยวเล่น! ภายใต้แนวคิด "เข้าใจโลกผ่านร่างกายและคิดถึงโลกแบบ 3 มิติ" มีพื้นที่ที่ซับซ้อนในรูปแบบ 3 มิติอยู่มากมาย ทีมแล็บอธิบายว่าประสบการณ์แบบ 3 มิตินี้ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของสมองส่วนฮิปโปแคมปัสและฝึกฝนทักษะด้านมิติสัมพันธ์
ผลงาน:Multi Jumping Universe
ตอนนี้คงอยากรู้กันแล้วใช่มั้ยว่าเป็นแบบไหนกันนะ? ตัวอย่างเช่น แนวกระโดดของ Multi Jumping Universe หรือ Light Forest Three-dimensional Bouldering จำนวนผู้เข้าชมหรือลักษณะการเคลื่อนไหวของแต่ละชิ้นงานก็แตกต่างกันออกไป ถือเป็นศิลปะที่ใช้ร่างกายในการสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ไม่เพียงแค่เด็กเท่านั้น ผู้ใหญ่ก็สนุกไปด้วยแน่นอน
ผลงาน:Light Forest Three-dimensional Bouldering
ผลงาน:Weightless Forest of Resonating Life
3. ฟิวเจอร์ พาร์ค (Future Park) เหมาะสำหรับผู้ปกครองและเด็กในการเรียนรู้โลกอนาคต
"เรียนรู้! สวนสนุกของโลกอนาคต" เป็นโปรเจคการศึกษาภายใต้แนวคิดของการคิดสร้างสรรค์ร่วมกัน มีเกมหลากหลายชนิด เช่น การวาดรูปหรือบ้านตุ๊กตาจำลองที่ผสมผสานกับเทคโนโลยีของดิจิทัล เป็นต้นผลงาน:Sketch Aquarium
และไม่เพียงแต่ความสนุกอย่างเดียว ชิ้นงานต่างๆล้วนเสริมสร้างจินตนาการและทักษะการร่วมกันสร้างสรรค์ หนึ่งในนั้นคือมุมวาดรูปที่น่าสนใจมากๆ ดูเผินๆอาจเหมือนการวาดรูปทั่วไป แต่เมื่อวาดเสร็จและส่งให้พนักงานเพื่อนำไปสแกนแล้วจะกลายเป็นภาพเคลื่อนไหวไปตามผนังหรือพื้นของพิพิธภัณฑ์ ภาพวาดฝีมือเรากลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่เคลื่อนไหวไปทั่ว ช่างน่าตื่นเต้นจริงๆ!
ผลงาน:Graffiti Nature - High Mountains and Deep Valleys
4. ฟอเรสต์ ออฟ แลมป์ (Forest of Lamps) ป่าแห่งโคมไฟที่แสนตระการตา
ภายในพิพิธภัณฑ์มี "ป่าแห่งโคมไฟ" อยู่ แนะนำอย่างยิ่งสำหรับงานศิลปะอันตระการตานี้ ถ่ายรูปลงโซเชียลก็รับรองไม่ผิดหวัง
ผลงาน:Forest of Lamps
ป่าแห่งโคมไฟ คือห้องที่เต็มไปด้วยโคมไฟห้อยระย้า เมื่อผู้เข้าชมหยุดยืนอยู่พักหนึ่ง โคมไฟที่ใกล้ที่สุดจะส่องสว่างเป็นสีขึ้นมา จากนั้นแสงดังกล่าวจะสื่อสารไปยังโคมไฟที่อยู่ถัดไปและต่อๆไป ทำให้เราถูกล้อมรอบไปด้วยโคมไฟที่เปลี่ยนแสงสี ราวกับอยู่ในโลกพิศวงทีเดียว

ผลงาน:Forest of Resonating Lamps - One Stroke
ป่าแห่งโคมไฟที่แสนตระการตานี้มีพื้นที่ค่อนข้างจำกัด ทำให้มีการกำหนดจำนวนผู้เข้าชมและระยะเวลาการเข้าชมในแต่ละรอบ สำหรับท่านที่มาเยี่ยมชมทีมแล็บ บอร์เดอร์เลสเพียงช่วงสั้นๆ แนะนำให้ไปป่าแห่งโคมไฟนี้เป็นที่แรก แม้ว่าอาจจะต้องมีการต่อคิวและเวลาในการรอจะแตกต่างไปตามความแน่นของผู้เข้าชม แต่นี่เป็นชิ้นงานที่อยากให้ลองชมจริงๆ
5. อีเอ็น ที เฮาส์ (EN TEA HOUSE) งานศิลปะชาที่ดื่มได้
โลกใบที่ห้าคือคาเฟ่ชา "EN TEA HOUSE" ที่นี่ไม่เพียงแค่ได้ดื่มชาสไตล์ญี่ปุ่นเท่านั้น ยังได้สัมผัสรส กลิ่นและภาพ บนชามีดอกไม้หลากหลายผลัดกันผลิบานอย่างต่อเนื่อง ดอกไม้เหล่านี้จะบานไปเรื่อยๆตราบใดที่ยังมีชาอยู่ แน่นอนว่านี่คือคาเฟ่ชาที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับงานศิลปะชิ้นนี้และโลกไร้ขอบเขตในขณะที่ดื่มชาได้เมื่อพนักงานพาไปยังที่นั่งแล้ว ก็สามารถยื่นใบชาให้กับพนักงานเพื่อให้ชงให้เราได้ 1 แก้วมีราคา 500 เยน (ราคารวมภาษี)
มาสนุกให้เต็มที่กับทีมแล็บ บอร์เดอร์เลสกัน
พิพิธภัณฑ์ศิลปะดิจิทัลทีมแล็บ บอร์เดอร์เลสเป็นสถานที่ที่สามารถสนุกสนานไปกับงานศิลปะได้โดยผ่านร่างกายทั้งหมด กรุณาอ่านข้อควรระวังด้านล่างนี้เพื่อที่จะเพลิดเพลินได้อย่างเต็มที่เนื่องจากไม่สามารถนำสัมภาระที่ขนาดค่อนข้างใหญ่เข้าไปด้วยได้ กรุณาฝากฟรีที่ล็อกเกอร์หยอดเหรียญใกล้ทางเข้า มีค่ามัดจำ 100 เยนในตอนฝากซึ่งจะได้คืนเมื่อนำสัมภาระออก สำหรับของชิ้นใหญ่ เช่น รถเข็นเด็ก สามารถฝากไว้ที่ริมผนังโดยคาดสายคล้องไว้ สำหรับกระเป๋าเดินทาง กรุณาฝากที่สถานีใกล้เคียงหรืออื่นๆเนื่องจากไม่มีล็อกเกอร์สำหรับกระเป๋าเดินทางในพิพิธภัณฑ์

ผลงานหลายชิ้นในพิพิธภัณฑ์มีส่วนของพื้นเป็นกระจก ดังนั้นควรเลี่ยงการใส่กระโปรง นอกจากนี้แนะนำให้ใช้รองเท้าที่เดินสะดวก เช่น รองเท้าผ้าใบ หากมาด้วยรองเท้าส้นสูงหรือรองเท้าแตะ กรุณาใช้บริการยืมคืนรองเท้าฟรีด้านในพิพิธภัณฑ์ มีรองเท้าสำหรับผู้ใหญ่ 3 ขนาด คือ เอส เอ็ม และแอล ใช้ได้ทั้งชายและหญิง
พิพิธภัณฑ์ศิลปะดิจิทัลอยู่ใต้ชิงช้าสวรรค์โอไดบะ
ทีมแล็บ บอร์เดอร์เลสอยู่ในย่านท่องเที่ยวยอดฮิตอย่างโอไดบะ ใต้ชิงช้าสวรรค์ซึ่งอยู่ที่พาเลททาวน์เลย! สามารถใช้ชิงช้าสวรรค์เป็นจุดในการหาได้ง่ายๆเลยทีเดียวประสบการณ์หนึ่งเดียวในโลกผ่านงานศิลปะ
「MORI Building DIGITAL ART MUSEUM: EPSON teamLab Borderless」พิพิธภัณฑ์ศิลปะดิจิทัลแสนพิเศษอยู่ที่โอไดบะ กรุงโตเกียว ใช้เวลาอย่างต่ำ 2 ชั่วโมงในการชม (เยี่ยมชมนานกว่านี้ก็ยิ่งสนุก) วางแผนไปสนุกกับงานศิลปะที่เป็นเอกลักษณ์ของ teamLab กันเถอะ
รายละเอียด
MORI Building DIGITAL ART MUSEUM: EPSON teamLab Borderlessที่อยู่: Odaiba Palette Town,1-3-8 Aomi, Koto-ku, Tokyo
เวลาทำการ: วันจันทร์-วันพฤหัสบดี 11.00 - 19.00 (ช่วงขยายเวลาพิเศษ 21.00) วันศุกร์และวันก่อนวันหยุดตามปฏิทิน 11.00 - 21.00 (ช่วงขยายเวลาพิเศษ 22.00) วันเสาร์ 10.00 - 21.00 (ช่วงขยายเวลาพิเศษ 22.00) วันอาทิตย์และวันหยุดตามปฏิทิน 10.00 - 19.00 (ช่วงขยายเวลาพิเศษ 20.00)
※เวลาทำการอาจเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล
※สามารถเข้าชมรอบสุดท้ายคือ 1 ชั่วโมงก่อนเวลาปิดทำการ
※ กรุณาตรวจสอบเวลาทำการของ EN TEA HOUSE ที่เว็บไซต์ทางการ
วันหยุด: วันอังคารสัปดาห์ที่ 2 และสัปดาห์ที่ 4 ของเดือน
※วันหยุดช่วงนี้: วันที่ 25 มิถุนายน วันที่ 10 และ 24 กรกฏาคม 2018
ค่าเข้าพิพิธภัณฑ์: ผู้ใหญ่ (ตั้งแต่อายุ 15 ปีขึ้นไป) 3,200 เยน อายุ 4 ถึง 14 ปี 1,000 เยน
※ราคาพิเศษช่วงฉลองการเปิดทำการถึงวันที่ 31 กรกฏาคม 2018 คือ 2,400 เยน (ผู้ใหญ่)
※ราคาทั้งหมดรวมภาษีแล้ว
การเดินทาง: เดิน 5 นาทีจากสถานี Tokyo Teleport Station สาย Rinkai หรือสถานี Aomi สาย Yurikamome
เว็บไซต์ทางการ: MORI Building DIGITAL ART MUSEUM: EPSON teamLab Borderless
เว็บไซต์ทางการ: EN TEA HOUSE
※บทความนี้อ้างอิงจากการเก็บรวบรวมข้อมูลเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2018
บทความโดยแฟนเพจ DiGJAPAN!:
MIKI นักเขียนอิสระชาวมาเก๊าอาศัยอยู่ที่โตเกียวโดยอยู่ญี่ปุ่นมา 7 ปี งานอดิเรกคือการเดินทาง ชอบของหวานและดนตรีญี่ปุ่น จะนำเสนอข้อมูลท้องถิ่นที่น่าสนใจของญี่ปุ่น
ภาพโดย: DiGJAPAN! ภาพบางส่วนจากหน่วยงานทางการ
ถ้าชอบบทความนี้ กดถูกใจให้ด้วยนะ
บทความนี้เขียนขึ้นเมื่อ 29/06/2018 เรื่องโดย:กองบรรณาธิการ DiGJAPAN!
ความคิดเห็นล่าสุด | 0ความคิดเห็น
หากเป็นสมาชิก DiGJAPAN!
จะสามารถโพสต์คอมเม้นท์ได้
สมัครสมาชิก