- TOP
- ปรับแต่งรายการผลการค้นหา
- เที่ยวละไม ชมดอกอะจิไซที่คามาคุระ
บทความ
เที่ยวละไม ชมดอกอะจิไซที่คามาคุระ
วันนี้ DiGJAPAN! พาเที่ยวคามาคุระ เมืองเก่าแก่ยอดนิยมกัน ที่นี่นอกจากพระใหญ่ไดบุทสึแล้ว ยังขึ้นชื่อเรื่องทริปเที่ยวชมดอก "ไฮเดรนเยีย" หรือ "อะจิไซ" อีกด้วยนะ!
อะจิไซ เรียกได้ว่าเป็นดอกไม้ตัวแทนของฤดูฝนเลย เพราะถึงแม้ในญี่ปุ่นเดือนมิถุนายนจะเป็นฤดูฝน ดอกไม้อื่นอาจจะเฉา แต่ดอกอะจิไซกลับบานสวยท่ามกลางสายฝนอันชุ่มช่ำ...
เริ่มทริปด้วยการนั่งรถไฟสาย Yokosuka line จากสถานี Tokyo หรือ Shinagawa หรือ Yokohama (และสถานีอื่นๆบนสายรถไฟนี้) ไปยังสถานี Kita-Kamakura กัน~
รายละเอียดวิธีเดินทาง ที่นี่
เมื่อถึงสถานี Kita-Kamakura ก็เดินตามป้ายบอกทางมาจนถึงวัดที่ขึ้นชื่อเรื่องดอกอะจิไซมากที่สุดในคามาคุระ "วัดเมเกตสึอิน (Meigetsu-in Temple)" วัดที่จะเต็มไปด้วยดอกอะจิไซสีฟ้า, ชมพู และม่วงสวยๆกว่า 2,500 ต้น แข่งกันเบ่งบานในช่วงเดือนมิถุนายน จนได้สมญานามว่า "วัดอะจิไซ"
ภายในนอกจากจะสามารถเพลิดเพลินกับดอกอะจิไซได้แล้ว ยังมีสวนญี่ปุ่นสวยๆ ที่สามารถมองลอดผ่านจากหน้าต่างทรงกลมได้อีกด้วย สวยงามในทุกฤดูเลย
ทางเดินก่อนถึงตัววัด ก็มีอะจิไซพุ่มใหญ่มากๆอยู่นะ!
วัดเมเกตสึอิน (Meigetsu-in Temple)
เวลาทำการ: 9.00 - 16.00 น. (ประตูปิด) ※ช่วงเดือนมิ.ย. 8.30 - 17.00 น.
ค่าใช้จ่าย: ค่าเข้าชม 300 เยน (เดือนมิ.ย. 500 เยน)/ ค่าเข้าสวนญี่ปุ่นในเดือนมิ.ย.., ธ.ค. 500 เยน
รายละเอียด: https://digjapan.travel/th/spot/id=7554
2. วัดโทเคจิ
ยังอยู่กันที่สถานี Kita-Kamakura ไม่ไกลจากวัดเมเกตสึอิน เราก็เดินมากันที่ "วัดโทเคจิ (Tokeji Temple)" เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเนินเขา ทางประตูเข้าวัดมีอะจิไซสีหลากสีเรียงตัวตามบันไดหินยาวขึ้นไป เป็นวิวที่ดูแล้วสงบและสบายใจมากเลย
นอกจากอะจิไซแล้วช่วงหน้าฝนนี้ก็ยังสามารถชื่นชมดอกฮานะโชบุ หรือ ไอริสญี่ปุ่น ได้ด้วยนะ พอเข้ามาภายในวัด ก็จะพบกับบบรรยากาศที่ร่มรื่น มีทั้งดอกไม้และอาราม สมบัติทางประวัติศาสตร์ให้เข้าชมมากมาย (เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม)
วัดโทเคจิ (Tokeji Temple)
เวลาทำการ: เดือนมี.ค.-ต.ค.: 8:30 - 17.00 น. / เดือนพ.ย.-ก.พ.: 8.30 - 16.00 น. (ประตูปิด)
ค่าใช้จ่าย: ค่าเข้า 200 เยน
รายละเอียด: https://digjapan.travel/th/spot/id=7553
3. วัดซึรุกาโอกะ ฮาจิมังกู
นั่งรถไฟต่อมายังสถานี Kamakura ออกทางประตูทิศตะวันออก จะเจอถนนคนเดินโคมาจิโดริ (Komachi-dori Street) ด้วย ร้านค้าร้านอาหารเยอะเลย แวะทานข้าวที่นี่ก็สบาย
หลังจากท้องอิ่มก็เดินต่อไปยัง "ศาลเจ้าซึรุกาโอกะ ฮาจิมังกู (Tsurugaoka Hachimangu Shrine)" กัน ศาลเจ้าแห่งนี้เก่าแก่และมีพื้นที่กว้างขวางมากเลยล่ะ
ภายในมีศาลเจ้าอีกหลายแห่งตั้งอยู่ด้วย อารามหลักอยู่บนเนิน ต้องออกแรงเดินขึ้นบันไดสูงกันหน่อยนะ และที่นี่ก็อาจจะมีอะจิไซบานให้ชมกันอยู่บ้าง แต่เรามาศาลเจ้าในครั้งนี้เพื่อตามหา "เครื่องราง" สุดฟรุ้งฟริ้งที่มีดอกอะจิไซและแมวเหมี่ยวคิตตี้กันล่ะ
ศาลเจ้าซึรุกาโอกะ ฮาจิมังกู (Tsurugaoka Hachimangu Shrine)
เวลาทำการ: 8.00 - 21.00 น. (ประตูปิด 21.00 น.) ※เดือนเม.ย.-ก.ย. 5.00 - 20.30 น.
รายละเอียด: https://digjapan.travel/th/spot/id=7560
4. วัดฮาเสเดระ
จากนั้นเราก็กลับไปสถานี Kamakura แล้วเปลี่ยนไปนั่งรถไฟสาย Enoshima Electric Railway หรือเรียกสั้นๆว่า "เอโนะเด็น (Enoden)" เป็นรถไฟเลียบทะเลล่ะ เรากำลังจะไปชมดอกไม้กันต่อที่ "วัดฮาเสเดระ (Hasedera Temple)" ที่สถานี Hasedera กัน
วัดฮาเสเดระ เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงและมีชื่อเสียงโด่งดังมากอีกแห่งในคามาคุระเลยนะ เพราะเราสามารถชื่นชมเจ้าแม่กวนอิมและพระพุทธรูปทองคำสวยงามองค์ใหญ่ เพลิดเพลินกับวิวทะเลและเมืองคามาคุระได้ด้วย ยิ่งในช่วงหน้าฝน ดอกอะจิไซจะเบ่งบานเต็มหุบเขามากกว่า 3,000 ต้นเลยทีเดียว สวยงามอลังการสุดๆ
ที่นี่อยู่ไม่ไกลจากวัดโคโตกุอิน (Kotoku-in Temple) หรือ "วัดพระใหญ่ไดบุทสึ" ดังนั้นใครจะไปเที่ยวทั้ง 2 แห่งเลยก็ได้ แต่แนะนำให้ไปรับ "บัตรคิวชมดอกอะจิไซ" ที่วัดฮาเสเดระกันก่อนนะ
หลังจากซื้อบัตรเข้าชม และรับบัตรคิวชมดอกอะจิไซแล้ว เราก็เดินขึ้นบันไดไปเช็คคิวหน้าอารามหลักกันนิดนึงว่าใช้เวลาอีกนานเท่าไหร่ ถ้ามีเวลาเหลือเราก็ออกไปเดินเล่นข้างนอก แล้วกลับมาต่อคิวชมอะจิไซกันได้
วัดฮาเสเดระ (Hasedera Temple)
เวลาทำการ: เดือนมี.ค.-ก.ย. 8:00 - 17.00 น. (ประตูปิด 17.30 น.), เดือนต.ค.-ก.พ. 8:00 - 16.30 น. (ประตูปิด 17.00 น.)
รายละเอียด: https://digjapan.travel/th/spot/id=7546
5. รถไฟสายเอโนะเด็น
เที่ยววัดวาอารามชมอะจิไซกันจนอิ่มใจ เราก็เปลี่ยนแนวมานั่งรถไฟชมดอกไม้บ้าง ถ้าพูดถึงรถไฟของคามาคุระแล้วละก็ต้องนึกถึง "เอโนะเด็น (Enoden)" ที่วิ่งเรียบทะเลแน่นอน นอกจากจะได้ชมทะเลสวยๆแล้ว เดือนมิถุนายนก็สามารถชมดอกไม้ริมทางรถไฟได้ด้วยนะ
ใครอยากมาเที่ยวด้วยรถไฟขบวนนี้ เขาก็มีบัตร Free Pass ดีๆอยู่ล่ะ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ที่นี่
Enoshima Electric Railway (Enoden)
เส้นทางเดินรถ: สถานี Kamakura - Fujisawa
เว็บไซต์: Enoden
แต่ช่วงต้นถึงกลางมิถุนายน เป็นช่วงเวลาที่อะจิไซจะบานสวยที่สุด ผู้คนมากมายต่างหลั่งไหลไปเที่ยวกัน ดังนั้นใครจะไปในช่วงนี้ เตรียมวางแผนและเผื่อเวลากันดีๆนะคะ
อะจิไซ เรียกได้ว่าเป็นดอกไม้ตัวแทนของฤดูฝนเลย เพราะถึงแม้ในญี่ปุ่นเดือนมิถุนายนจะเป็นฤดูฝน ดอกไม้อื่นอาจจะเฉา แต่ดอกอะจิไซกลับบานสวยท่ามกลางสายฝนอันชุ่มช่ำ...
เริ่มทริปด้วยการนั่งรถไฟสาย Yokosuka line จากสถานี Tokyo หรือ Shinagawa หรือ Yokohama (และสถานีอื่นๆบนสายรถไฟนี้) ไปยังสถานี Kita-Kamakura กัน~
รายละเอียดวิธีเดินทาง ที่นี่
ทริปเที่ยวชมดอกอะจิไซ
1. วัดเมเกตสึอินเมื่อถึงสถานี Kita-Kamakura ก็เดินตามป้ายบอกทางมาจนถึงวัดที่ขึ้นชื่อเรื่องดอกอะจิไซมากที่สุดในคามาคุระ "วัดเมเกตสึอิน (Meigetsu-in Temple)" วัดที่จะเต็มไปด้วยดอกอะจิไซสีฟ้า, ชมพู และม่วงสวยๆกว่า 2,500 ต้น แข่งกันเบ่งบานในช่วงเดือนมิถุนายน จนได้สมญานามว่า "วัดอะจิไซ"
ภายในนอกจากจะสามารถเพลิดเพลินกับดอกอะจิไซได้แล้ว ยังมีสวนญี่ปุ่นสวยๆ ที่สามารถมองลอดผ่านจากหน้าต่างทรงกลมได้อีกด้วย สวยงามในทุกฤดูเลย
สีของอะจิไซมีหลากหลาย ขึ้นกับว่าดินมีความเป็นกรดด่างมากแค่ไหน
มุมนี้ก็ห้ามพลาด! อะจิไซสวยๆอยู่ทุกที่เลย
ทางเดินก่อนถึงตัววัด ก็มีอะจิไซพุ่มใหญ่มากๆอยู่นะ!
วัดเมเกตสึอิน (Meigetsu-in Temple)
เวลาทำการ: 9.00 - 16.00 น. (ประตูปิด) ※ช่วงเดือนมิ.ย. 8.30 - 17.00 น.
ค่าใช้จ่าย: ค่าเข้าชม 300 เยน (เดือนมิ.ย. 500 เยน)/ ค่าเข้าสวนญี่ปุ่นในเดือนมิ.ย.., ธ.ค. 500 เยน
รายละเอียด: https://digjapan.travel/th/spot/id=7554
2. วัดโทเคจิ
ยังอยู่กันที่สถานี Kita-Kamakura ไม่ไกลจากวัดเมเกตสึอิน เราก็เดินมากันที่ "วัดโทเคจิ (Tokeji Temple)" เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเนินเขา ทางประตูเข้าวัดมีอะจิไซสีหลากสีเรียงตัวตามบันไดหินยาวขึ้นไป เป็นวิวที่ดูแล้วสงบและสบายใจมากเลย
นอกจากอะจิไซแล้วช่วงหน้าฝนนี้ก็ยังสามารถชื่นชมดอกฮานะโชบุ หรือ ไอริสญี่ปุ่น ได้ด้วยนะ พอเข้ามาภายในวัด ก็จะพบกับบบรรยากาศที่ร่มรื่น มีทั้งดอกไม้และอาราม สมบัติทางประวัติศาสตร์ให้เข้าชมมากมาย (เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม)
องค์พระพุทธรูปรายล้อมด้วยดอกไม้สีสวย
ดอกไม้อื่นๆก็บานสะพรั่ง สวยงามไม่แพ้อะจิไซเลย
วัดโทเคจิ (Tokeji Temple)
เวลาทำการ: เดือนมี.ค.-ต.ค.: 8:30 - 17.00 น. / เดือนพ.ย.-ก.พ.: 8.30 - 16.00 น. (ประตูปิด)
ค่าใช้จ่าย: ค่าเข้า 200 เยน
รายละเอียด: https://digjapan.travel/th/spot/id=7553
3. วัดซึรุกาโอกะ ฮาจิมังกู
นั่งรถไฟต่อมายังสถานี Kamakura ออกทางประตูทิศตะวันออก จะเจอถนนคนเดินโคมาจิโดริ (Komachi-dori Street) ด้วย ร้านค้าร้านอาหารเยอะเลย แวะทานข้าวที่นี่ก็สบาย
หลังจากท้องอิ่มก็เดินต่อไปยัง "ศาลเจ้าซึรุกาโอกะ ฮาจิมังกู (Tsurugaoka Hachimangu Shrine)" กัน ศาลเจ้าแห่งนี้เก่าแก่และมีพื้นที่กว้างขวางมากเลยล่ะ
ภายในมีศาลเจ้าอีกหลายแห่งตั้งอยู่ด้วย อารามหลักอยู่บนเนิน ต้องออกแรงเดินขึ้นบันไดสูงกันหน่อยนะ และที่นี่ก็อาจจะมีอะจิไซบานให้ชมกันอยู่บ้าง แต่เรามาศาลเจ้าในครั้งนี้เพื่อตามหา "เครื่องราง" สุดฟรุ้งฟริ้งที่มีดอกอะจิไซและแมวเหมี่ยวคิตตี้กันล่ะ
เครื่องราง Hello Kitty คุ้มครองด้านสุขภาพ ลายเปลี่ยนตามฤดูกาลทั้งสี่ ราคา 800 เยน (ลายดอกอะจิไซมีขายเพียงเฉพาะช่วงหน้าร้อนของญี่ปุ่น หรือ ประมาณช่วงมิถุนายน - สิงหาคม)
ศาลเจ้าซึรุกาโอกะ ฮาจิมังกู (Tsurugaoka Hachimangu Shrine)
เวลาทำการ: 8.00 - 21.00 น. (ประตูปิด 21.00 น.) ※เดือนเม.ย.-ก.ย. 5.00 - 20.30 น.
รายละเอียด: https://digjapan.travel/th/spot/id=7560
4. วัดฮาเสเดระ
จากนั้นเราก็กลับไปสถานี Kamakura แล้วเปลี่ยนไปนั่งรถไฟสาย Enoshima Electric Railway หรือเรียกสั้นๆว่า "เอโนะเด็น (Enoden)" เป็นรถไฟเลียบทะเลล่ะ เรากำลังจะไปชมดอกไม้กันต่อที่ "วัดฮาเสเดระ (Hasedera Temple)" ที่สถานี Hasedera กัน
วัดฮาเสเดระ เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงและมีชื่อเสียงโด่งดังมากอีกแห่งในคามาคุระเลยนะ เพราะเราสามารถชื่นชมเจ้าแม่กวนอิมและพระพุทธรูปทองคำสวยงามองค์ใหญ่ เพลิดเพลินกับวิวทะเลและเมืองคามาคุระได้ด้วย ยิ่งในช่วงหน้าฝน ดอกอะจิไซจะเบ่งบานเต็มหุบเขามากกว่า 3,000 ต้นเลยทีเดียว สวยงามอลังการสุดๆ
ที่นี่อยู่ไม่ไกลจากวัดโคโตกุอิน (Kotoku-in Temple) หรือ "วัดพระใหญ่ไดบุทสึ" ดังนั้นใครจะไปเที่ยวทั้ง 2 แห่งเลยก็ได้ แต่แนะนำให้ไปรับ "บัตรคิวชมดอกอะจิไซ" ที่วัดฮาเสเดระกันก่อนนะ
หลังจากซื้อบัตรเข้าชม และรับบัตรคิวชมดอกอะจิไซแล้ว เราก็เดินขึ้นบันไดไปเช็คคิวหน้าอารามหลักกันนิดนึงว่าใช้เวลาอีกนานเท่าไหร่ ถ้ามีเวลาเหลือเราก็ออกไปเดินเล่นข้างนอก แล้วกลับมาต่อคิวชมอะจิไซกันได้
มุมประทับใจ ดอกอะจิไซและวิวเมืองคามาคุระ
นอกจากนั้นภายในวัดมีมุมสวยๆที่ไม่ควรพลาดเยอะเลย
วัดฮาเสเดระ (Hasedera Temple)
เวลาทำการ: เดือนมี.ค.-ก.ย. 8:00 - 17.00 น. (ประตูปิด 17.30 น.), เดือนต.ค.-ก.พ. 8:00 - 16.30 น. (ประตูปิด 17.00 น.)
รายละเอียด: https://digjapan.travel/th/spot/id=7546
5. รถไฟสายเอโนะเด็น
เที่ยววัดวาอารามชมอะจิไซกันจนอิ่มใจ เราก็เปลี่ยนแนวมานั่งรถไฟชมดอกไม้บ้าง ถ้าพูดถึงรถไฟของคามาคุระแล้วละก็ต้องนึกถึง "เอโนะเด็น (Enoden)" ที่วิ่งเรียบทะเลแน่นอน นอกจากจะได้ชมทะเลสวยๆแล้ว เดือนมิถุนายนก็สามารถชมดอกไม้ริมทางรถไฟได้ด้วยนะ
ใครอยากมาเที่ยวด้วยรถไฟขบวนนี้ เขาก็มีบัตร Free Pass ดีๆอยู่ล่ะ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ที่นี่
ที่หัวขบวนรถไฟยังมีรูปอะจิไซเลย น่ารักมากๆ
มองจากมุมนี้ก็สวย
รถไฟวิ่งผ่านแนวดอกอะจิไซหลากหลายสีเลย
Enoshima Electric Railway (Enoden)
เส้นทางเดินรถ: สถานี Kamakura - Fujisawa
เว็บไซต์: Enoden
เตรียมแพ็คกระเป๋ากันเลยกดีกว่า!
ถึงจะหมดหน้าซากุระไปแล้ว แต่ญี่ปุ่นในเดือนมิถุนายนก็สวยงามไม่แพ้ฤดูไหนๆ ยิ่งได้เห็นดอกอะจิไซสีฟ้า สีม่วง สีขาวช่อใหญ่ๆ เบ่งบานท่ามกลางเมืองเก่าอันมีเสน่ห์อย่างคามาคุระด้วยละก็ ช่างเป็นทริปดีๆที่ลืมไม่ลงเลยจริงๆแต่ช่วงต้นถึงกลางมิถุนายน เป็นช่วงเวลาที่อะจิไซจะบานสวยที่สุด ผู้คนมากมายต่างหลั่งไหลไปเที่ยวกัน ดังนั้นใครจะไปในช่วงนี้ เตรียมวางแผนและเผื่อเวลากันดีๆนะคะ
แผนที่ทริป
ถ้าชอบบทความนี้ กดถูกใจให้ด้วยนะ
บทความนี้เขียนขึ้นเมื่อ 30/05/2016 เรื่องโดย:Farng
ความคิดเห็นล่าสุด | 0ความคิดเห็น
หากเป็นสมาชิก DiGJAPAN!
จะสามารถโพสต์คอมเม้นท์ได้
สมัครสมาชิก