tr?id=1543387775907290&ev=PageView&noscript=1

ตะลุยแหล่งร้านกินดื่มยอดฮิตกลางชินจุกุ

บทความ

 

ตะลุยแหล่งร้านกินดื่มยอดฮิตกลางชินจุกุ "ชินจุกุโกลเด้นไก"

 

 
 
ในบริเวณฝั่งตะวันออกของสถานีชินจุกุ เมืองแห่งแสงสีอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น ท่ามกลางตึกรามบ้านช่องสมัยใหม่ ยังมีร้านเก่าแก่กว่า 200 ร้านอัดแน่นอยู่ในย่านกินดื่มที่ยังคงขึ้นชื่อมาตั้งแต่สมัยโชวะ  
 
ทางเข้าชินจุกุโกลเด้นไก

ร้านเหล่านี้เริ่มรวมตัวกันตั้งแต่ปี 1950 แม้ว่าเวลาจะผ่านไปกว่าครึ่งศตวรรษ ตึกไม้เก่าๆ และซอยแคบๆ ที่คราครั่งไปด้วยร้านขนาดแค่ 4 เสื่อ กลับยังคงให้บรรยากาศราวกับได้เดินหลงเข้ามาในสมัยโชวะของญี่ปุ่น บรรยากาศสุดขลังแบบนี้เองที่ดึงดูดเหล่านักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมเยียนไม่ขาดสาย
 
ทางเดินชินจุกุโกลเด้นไก

วันนี้เราจะแนะนำร้านน่านั่ง 3 ร้าน ในย่าน "ชินจุกุโกลเด้นไก"แบบครบสูตร ทั้งวิธีการดื่ม กิน และ หาเพื่อนใหม่ๆ ... ไปดูกันเลย
 

ร้านสาเกหายากและอาหารประเภทปลา totobar shinjuku

เรามาอุ่นเครื่องกันด้วยเหล้าสาเกและเมนูปลาเบาๆที่ร้านแรก "totobar shinjuku" (โตโต้บาร์ ชินจุกุ) ร้านนี้มีที่นั่งตรงเค้าท์เตอร์เพียง 10 ที่เท่านั้น นั่งชิลล์กินสาเกกันแบบไหล่ชนไหล่ (คนข้างๆ) กันเลยทีเดียว ฮ่าๆ
 
totobar shinjuku1
ถึงจะแคบไปนิด แต่นี่แหละสเน่ห์ของย่านนี้ล่ะ

ดริ๊งก์ละประมาณ 600 เยน ส่วนซอฟท์ดริ๊งก์ตกแก้วละประมาณ 300 เยน ถ้าใครเป็นคอสาเกญี่ปุ่น ต้องถูกใจแน่ๆเพราะ ที่นี่มีสาเกให้เลือกถึง 10-12 ชนิด โดยเมนูสาเกจะเปลี่ยนไปเรื่อยตามแต่ละวัน จุดเด่นของร้านนี้เลยก็คือ เจ้าของร้านเดินทางไปหาซื้อสาเกหายากพวกนี้จากแหล่งผลิตกันเลยทีเดียว

แก้วแรก แนะนำให้ดื่ม "Today's special ASK ME" อุ่นเครื่องกันก่อนครับ
 
totobar shinjuku2
ซ้ายบน) มีเมนูภาษาอังกฤษให้ด้วยนะ/ ขวาบน) สาเกจะถูกรินใส่แก้วในกล่องไม้จนแทบจะล้นกล่อง นี่คือวิธีการดื่มสาเกแบบญี่ปุ่นแท้ๆ ที่เรียกว่า Mokkiri (มกคิริ)/ ซ้ายล่าง) เริ่มจาก จิบโดยตรงจากแก้ว 1-2 ครั้ง โดยไม่ยกกล่องไม้/ ขวาล่าง) พอดื่มไปซักครึ่งแก้ว เราก็รินสาเกจากกล่องมาเติมได้ หรือใครอยากอินดี้ซดจากกล่องเลยก็ได้ไม่ว่ากัน

ทางร้านจะนำปลาสดๆตามฤดูกาลมาทำอาหาร ทั้งปลาย่าง ซาชิมิ และอื่นๆให้เลือกเกือบ 10 เมนู 
แหม... จิบสาเกไปเพลินๆ แกล้ม "ปลาซาบะย่างเกลือ" ไปพลางๆ รู้สึกเข้าถึงความเป็นญี่ปุ่นซะจริง
 
totobar shinjuku3
จานซ้ายล่างจะเป็น เมนูจำเป็น หรือ "โอโทฉิ" เป็นเหมือนค่าเซอร์วิสชาร์จของร้านกินดื่มแทบทุกร้านในญี่ปุ่นจ้า
 
totobar shinjuku4
totobar shinjuku
ที่ตั้ง: 2F, 1-1-93 bangai-dori, Kabuki-cho,  Shinjuku-ku, Tokyo
เวลาทำการ: 20:00 ~ 5:00 น.ของวันถัดไป (อาจมีการเปลี่ยนแปลง)
วันหยุด: ไม่มีแน่นอน
การเดินทาง: เดิน 5 นาทีจากสถานี JR shinjuku ทางออก East exit 
กฏระเบียบของร้าน:
-โอโทฉิ (กับแกล้มและค่าเซอร์วิสชาร์จ) 500 เยน
- อย่าดื่มมากเกินจนตกบันไดขากลับ (ร้านอยู่ชั้นสอง)
- ไม่รับเครดิตการ์ด
- สูบบุหรี่ได้​

 

กับแกล้มทอดๆต้องที่นี่เลย Kushiage Tongara Gasshan

เสร็จจากร้านแรกแล้วเรามาต่อกันด้วยร้าน Kushiage Tongara Gasshan (คุชิอาเกะ ทงการะ กัตชัง) ร้านขึ้นชื่อจากโอซาก้าร้านนี้ตั้งอยู่ตรงแถวๆทางเข้าซอยโกลเด้นไกเลย เรามาดูวิธีการกินคุชิอาเกะ (อาหารเสียบไม้ชุบแป้งทอด) แบบมือโปรกันเลยดีกว่า
 
Kushiage Tongara Gasshan1
หน้าร้านจะมีรูปปั้นเทพเจ้าแห่งความร่ำรวย ว่ากันว่าถ้าเอามือไปถูกับหลังเท้าของรูปปั้นจะได้โชคลาภล่ะ
 
Kushiage Tongara Gasshan2
ที่นั่งเคาน์เตอร์ 8 ที่ รวมกับนั่งโต๊ะอีก 15 ที่ จัดเป็นร้านที่ค่อนข้างใหญ่

คุชิอาเกะ เป็นอาหารญี่ปุ่นที่นำเนื้อสัตว์ ปลา หรือผัก มาเสียบไม้แล้วชุบแป้งทอดในน้ำมันที่ร้อนจัด เมนูนี้จะอร่อยฟินสุดๆถ้าได้กินแกล้มกับเบียร์หรือไฮบอล (เหล้าผสมโซดา)  ที่นี่มีวัตถุดิบให้เลือกมากมายถึง 40 ชนิด ไม่ว่าจะเป็น เนื้อวัว ไก่ ไข่นกกระทา ผัก หรือเบคอน ฯลฯ

ส่วนราคาอยู่ที่ไม้ละ 80 - 240 เยน และยังมีออพชั่นชุบแป้งงาดำ +20 เยน ที่ช่วยเพิ่มความหอมแบบสุดๆอีกด้วย
เมนูที่แนะนำคือ "karaage" (คาราอาเกะ) หรือไก่ปรุงรสชุบแป้งทอด ราคา 490 เยน แป้งรสชาติเยี่ยมกับความนุ่มของเนื้อไก่ทำให้ดื่มได้เรื่อยๆเลยล่ะ
 
Kushiage Tongara Gasshan3
คุชิอาเกะแต่ละชิ้นจะถูกหั่นมาให้พอดีคำ ทานง่าย
 
Kushiage Tongara Gasshan4
ทางร้านมีกะหล่ำปลีเสิร์ฟมาพร้อมกับคุชิอาเกะด้วย หวานกรอบอย่าบอกใคร
 
Kushiage Tongara Gasshan5
น้ำมันที่ใช้ทอดก็คัดมาอย่างดี ไม่ให้ความรู้สึกอมน้ำมัน
 
Kushiage Tongara Gasshan6
ร้านนี้สั่งอาหารง่ายมาก ด้วยการติ๊กเลือกเมนูที่อยากกินในใบสั่งแล้วส่งให้พนักงานก็เรียบร้อย

วิธีกินที่ถูกต้องคือนำคุชิอาเกะร้อนๆที่เพิ่งมาเสิร์ฟจุ่มลงในซอสให้ท่วมก่อนทาน แต่ที่ต้องระวังก็คือ จุ่มได้รอบเดียวต่อหนึ่งไม้เท่านั้น!!!
 
Kushiage Tongara Gasshan7
ซ้ายบน) หยิบคุชิอาเกะมาจุ่มซอสให้ท่วม/ ขวาบน) จุ่มซ้ำอีกรอบไม่ได้นะ/ ซ้ายล่าง)แต่ถ้ารู้สึกว่าจุ่มซอสไม่พอ ให้เอากะหล่ำปลีนี่แหละจุ่มซอสแล้วมาป้ายเพิ่ม/ ขวาล่าง) ทานเสร็จแล้วให้เอาไม้เปล่าใส่ในกระบอก
 
Kushiage Tongara Gasshan8
Kushiage Tongara Gasshan
ที่ตั้ง: 1F, 1-1-9, Maneki-dori, Kabuki-cho, Shinjuku-ku, Tokyo
เวลาทำการ: จันทร์~ศุกร์ 12:00 ~ 5:00 น.ของวันถัดไป (Last order 4:00 น.)/ วันเสาร์, อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 17:00 ~ 2:00 น.ของวันถัดไป (Last order 1:00 น.)
วันหยุด: ไม่มีกำหนดวันหยุดที่แน่นอน
การเดินทาง: เดิน 5 นาทีจากสถานี JR shinjuku ทางออกEast exit 
กฏระเบียบของร้าน:
- ไม่มีเซอร์วิสชาร์จ
- อย่างน้อย 1 ดริ๊งก์ต่อ 1 คน
- ห้ามจุ่มซอสเกินหนึ่งครั้งต่อไม้
- รับเครดิตการ์ด (3000 เยน ~)
- สูบบุหรี่ได้

 

ทิ้งท้ายความทรงจำของการเดินทางไว้ที่ bar araku

หลังจากอิ่มกันมาแล้วเราก็ไปต่อกับร้านที่ 3 ร้านสุดท้ายของวันนี้  "bar araku" (บาร์ อะราคุ) ที่นี่แต่เดิมเจ้าของร้านเป็นชาวออสเตรเลีย บาร์แห่งนี้จึงมักเป็นสถานที่ไว้พูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วยกัน ส่วนใหญ่ 70% จะเป็นชาวยุโรปและอเมริกา อีก 30% จะเป็นคนเอเชีย  ที่นี่ไม่คิดค่าเซอร์วิสชาร์จสำหรับนักท่องเที่ยวด้วยล่ะ
 
bar araku1
ที่นั่งเคาน์เตอร์ 6 ที่ โซฟาและโต๊ะอีก 20 ที่นั่ง

เครื่องดื่มที่แนะนำคือ Green tea Fizz ค็อกเทลสูตรพิเศษของทางร้านที่ผสมระหว่าง ชาเขียวมัทฉะ น้ำมะนาว และโซดา ให้ความสดชื่นในแบบฉบับญี่ปุ่น (800 เยน)
 
bar araku2
นั่งดูเค้าผสมค็อกเทลกันต่อหน้าแบบนี้เลย
 
bar araku3
ถึงเวลาของหวานแล้ว จัดไปด้วย "Ossie beef meat pie" พายเนื้อออสซี่ สนนราคา 950 เยน

ภายในร้านจะมีธนบัตรที่เต็มไปด้วยข้อความแปะอยู่ทั่วผนัง สิ่งเหล่านี้คือความทรงจำของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ทิ้งไว้ให้กับคนที่มาเยือนร้านนี้ในภายหลัง
 
bar araku4
จะแปะตรงไหนก็ได้ แต่บอกสตาฟฟ์ก่อนแปะนะ
 
bar araku5
บรรยากาศดี เฟรนด์ลี่สุดๆ บางทีเพื่อนใหม่ที่เพิ่งเจอกันในร้านอาจจะแนะนำที่เที่ยวในญี่ปุ่นให้ด้วยนะ
 
bar araku6
Bar araku
ที่ตั้ง: 2F, 1-1-9, Kabuki-cho, Shinjuku Goldengai G2-dori, Shinjuku-ku, Tokyo
เวลาทำการ: 20:00~4:00 น.ของวันถัดไป (Last order 3:30 น.)/ วันศุกร์, เสาร์ เปิดถึง 5:00 น.ของวันถัดไป (Last order 4:30 น.)
วันหยุด: ไม่มีกำหนดวันหยุดที่แน่นอน
การเดินทาง: เดิน 5 นาทีจากสถานี JR shinjuku ทางออก East exit
กฏระเบียบของร้าน:
- ไม่มีเซอร์วิสชาร์จ (เฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติ)
- เซอร์วิสชาร์จ 700 เยน (สำหรับคนญี่ปุ่น)
- อย่างน้อย 1 ดริ๊งก์ต่อ 1 คน
- ไม่รับเครดิตการ์ด
- สูบบุหรี่ได้

 

ชินจุกุฝั่งตะวันตก "Omoide Yokocho" ก็น่าแวะ

ซอย "Omoide Yokocho" (โอโมอิเดะ โยโคโช) นี้อบอวลไปด้วยบรรยากาศเก่าๆ และเป็นที่รู้จักของคนในพื้นที่จากการเป็นแหล่งรวมร้านกินดื่มราคาถูก หรือสวรรค์ของเหล่าพนักงานบริษัทนั่นเอง
 
ทางเข้าOmoide Yokocho
ฝั่งตะวันตกของสถานีชินจุกุก็มีย่านกินดื่มที่น่าสนใจ ลองแวะไปดูกัน
 
ซอยOmoide Yokocho
อื้อหือ ร้านเพียบ! มีตั้งแต่ไก่ย่าง ทะเลเผา หรือโซบะร้อนๆ ให้เลือกสรร 

Omoide Yokocho
ที่ตั้ง: ใกล้กับบริเวณ 7-13-12, Nishishinjuku, Shinjuku-ku, Tokyo
เวลาทำการและวันหยุด: ต่างกันไปตามแต่ละร้าน
การเดินทาง: เดินจากสถานี JR shinjuku ทางออก West exit 
 

ราตรีในญี่ปุ่นนี้อีกยาวไกล

สเน่ห์ของร้านเหล้าเล็กๆที่อาจจะดูวุ่นวายเหล่านี้ก็คือ การได้พูดคุยกับคนที่ไม่รู้จัก เรามาลองก้าวข้ามกำแพงภาษา หาเพื่อน เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ไปพร้อมกับอาหารที่ถูกปากและเหล้าที่ถูกใจกันเถอะ

 

ถ้าชอบบทความนี้ กดถูกใจให้ด้วยนะ

บทความนี้เขียนขึ้นเมื่อ 20/12/2016 เรื่องโดย:กองบรรณาธิการ DiGJAPAN!

 

ความคิดเห็นล่าสุด | 0ความคิดเห็น

    • ยังไม่มีความคิดเห็น
  • หากเป็นสมาชิก DiGJAPAN!
    จะสามารถโพสต์คอมเม้นท์ได้

    สมัครสมาชิก