- TOP
- ปรับแต่งรายการผลการค้นหา
- ท่องนิกโก้มุมใหม่กับบัตร NIKKO ALL AREA PASS บัตรเดียวคุ้มเกินคุ้ม!
บทความ
ท่องนิกโก้มุมใหม่กับบัตร NIKKO ALL AREA PASS บัตรเดียวคุ้มเกินคุ้ม!
เมื่อพูดถึงนิกโก้ เพื่อนๆก็นึกถึงมรดกโลกอย่างศาลเจ้านิกโกะโทโชกุ และรูปปั้นแมวหลับกันใช่ไหมคะ? แต่จริงๆแล้วนิกโก้ด้านในยังมีสถานที่เที่ยวน่าสนใจมากมาย เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2017 ที่ผ่านมาทางรถไฟ Tobu เริ่มเปิดตัวรถไฟหัวจักรไอน้ำ SL Taiju รถไฟที่สามารถพาทุกคนไปดื่มด่ำกับสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในนิกโก้ได้อย่างสะดวกสบาย และที่สำคัญทริปนี้เราใช้บัตร NIKKO ALL AREA PASS บัตรเดียวตลอดทั้งทริป ง่ายและคุ้มสุดๆไปเลย!
ครั้งนี้เราออกเดินทางกันตั้งแต่ 6.30 กันเลย โดยนั่งรถไฟด่วนพิเศษ Revaty ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อฤดูใบไม้ผลิปี 2017 ที่ผ่านมา รถไฟใหม่แกะกล่องขนาดนี้ แน่นอนว่าสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นปลั๊กสำหรับชาร์จแบตและ Wi-Fi ฟรี นั่งรถไปแชะภาพไป อัพลงโซเชียลได้เลยไม่มีหงุดหงิดแน่นอน
ครั้งนี้เราซื้อตั๋วแบบ NIKKO ALL AREA PASS ราคา 3,980 เยน ตั๋วไป-กลับระหว่างสถานีอาซากุสะและนิกโก้ ขึ้นลงได้ไม่จำกัดครั้งตั้งแต่สถานี Tobu Nikko ถึง สถานี Shimoimaichi รวมไปถึงบัสและรถไฟใต้ดินในเขตนิกโก้ เรียกได้ว่าคุ้มเกินคุ้ม !
【จุดเด่นของ NIKKO ALL AREA PASS】
- ตั๋วมีอายุ 4 วัน
- รวมการเดินทางไปกลับ 1 รอบระหว่างสถานี Asakusa ถึงสถานี Shimoimaichi
- รวมการโดยสารรถบัสและรถไฟภายในนิกโก้ไม่จำกัดจำนวน
- ถ้าหากซื้อตั๋ว NIKKO ALL AREA PASS พร้อมกับตั๋วรถไฟ Limited Express ทั้งแบบ Revaty และ Spacia จะได้รับส่วนลดอีก 20%
- สามารถใช้ร่วมกับตั๋วรถไฟ SL taiju ได้ (ไม่มีส่วนลด 20%)
- มีของสัมมนาคุณและสิทธิพิเศษภายในเมืองนิกโก้มากมาย
เว็บไซต์ภาษาไทย NIKKO ALL AREA PASS
ด้านหน้าสถานีรถไฟจะเจอกับป้ายรถบัส เลือกขึ้นคันที่ไปยัง Chuzenji onsen สามารถขึ้นได้ตั้งแต่ป้าย 2A ถึง 2C ซึ่งเรามีบัตร NIKKO ALL AREA PASS อยู่แล้ว จะขึ้นลงไปไหนก็สะดวกเลยจ้า
รายละเอียดเส้นทางรถบัส Tobu ที่เว็บไซต์: คลิ๊กที่นี่
กระเช้าลอยฟ้าจะพาเราไปยังจุดชมวิวที่มีความสูงถึง 1,373 เมตร ใช้เวลาประมาณ 3 นาทีก็ถึงด้านบน ระหว่างทางขึ้นไป ทุกคนก็จะสามารถสัมผัสบรรยากาศความงามท่ามกลางหุบเขา
ถึงจุดชมวิวกันแล้ว! จากจุดนี้สามารถมองเห็นทะเลสาบ Chuzenjiko และน้ำตก Kegon ซึ่งมีความสูงถึง 92 เมตร จากจุดนี้สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้อย่างเต็มตาเต็มใจไปเลย
ถ้าอยากถ่ายรูปต้องจุดนี้เลย! ว่าแล้วต้องเซลฟี่กันหน่อย
ช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีมุมนี้ก็เลิศสุดๆ ต้นไม้เปลี่ยนสีทั้งแดง ส้ม เหลืองสลับไปมา สวยมากๆ
ที่อยู่: 709-5 Fukasawa, Hosoomachi, Nikko-shi, Tochigi
ช่วงเวลาเปิดให้บริการ: ตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม ถึง ปลายเดือนกุมภาพันธ์ (ช่วงฤดูหนาวมีช่วงปิดให้บริการ)
เวลาให้บริการ: 9.00-16.00 น. (สถานที่ปิดเวลา 16.30 น. ทั้งนี้เวลาปรับเปลี่ยนตามช่วงเวลา)
วันหยุด: ไม่มี
ค่าบริการ: ผู้ใหญ่ 400 เยน เด็ก 200 เยน / ตั๋วไปกลับ ผู้ใหญ่ 750 เยน เด็ก 370 เยน แต่ถ้าซื้อร่วมกับตั๋ว NIKKO ALL AREA PASS ตั๋วแบบไปกลับ ผู้ใหญ่ เหลือ 660 เยน เด็ก 340 เยน
อ้างอิ: คลิ๊กที่นี่
ครั้งนี้เรามาสัมผัสบรรยากาศทะเลสาบกันเต็มๆโดยนั่งเรือท่องเที่ยวชมวิวที่มีชื่อว่า Kegon แต่ตั้งแต่เดือนสิงหาคมจะเปลี่ยนเป็นเรือลำใหม่ที่มีชื่อว่า Nantai ที่มีห้องสำหรับดูวิวได้โดย ไม่ว่าฝนจะตกหรือแดดจะร้อนเพียงใดก็ไม่หวั่น
ลมดีจังเลย~! มองวิวทะเลสาบจากมุมนี้ก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบ
ระยะเวลาการนั่งเรือประมาณ 20 นาที แล้วลงเรือกันที่ท่า Shoubugahama ลงมาปุ๊บก็จะเจอกับสะพานไม้ที่ทอดยาวพร้อมวิวทะเลสาบสีฟ้าใส ว่าแล้วไม่รอช้าต้องแวะเก็บภาพเป็นที่ระลึกตรงนี้สักหน่อย
ที่อยู่: 2478 Chugushi, Nikko-shi, Tochigi
ช่วงเวลาเปิดให้บริการ: ตั้งแต่กลางเดือนเมษายน ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน
เวลาให้บริการ: 9.00-17.00 น.
ค่าบริการ: ผู้ใหญ่ 1,250 เยน เด็ก 630 เยน แต่ถ้าซื้อร่วมกับตั๋ว NIKKO ALL AREA PASS ผู้ใหญ่ เหลือ 1,130 เยน เด็ก 570 เยน
อ้างอิ: คลิ๊กที่นี่
จานเด็ดของร้านนี้คือข้าวแกงกะหรี่สูตรพิเศษกว่า 100 ปี แกงกะหรี่สูตรพิเศษจากโรงแรม Kaneya ซึ่งเป็นโรงแรมที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น นำมาปรับปรุงและพัฒนาสูตรอีกครั้ง ขอรับรองว่าความอร่อยยังอยู่ครบแบบดั้งเดิม
บรรยากาศร้านสไตล์บ้านไม้ในหุบเขา อากาศดีๆแบบนี้แนะนำที่นั่งริมระเบียงด้านนอกเลย เพราะได้บรรยากาศสุดๆ ทานอาหารอร่อยๆไปรับลมเย็นๆพร้อมดูวิวทะเลสาบ ส่วนอาหารก็เลิศไม่แพ้กัน แกงกะหรี่สามารถเลือกท้อปปิ้งเป็นแบบเนื้อทอด ไก่ทอดและปลาเทราต์ทอด ครั้งนี้เราเลือกปลาและผักทอดมาทานคู่กับแกงกะหรี่สูตรเด็ดของที่นี่กันค่ะ
ที่อยู่: 2482 Chugushi, Nikko-shi, Tochigi
ช่วงเวลาเปิดให้บริการ: ตั้งแต่เดือนเมษายน ถึงกลางเดือนพฤศจิกายน
เวลาให้บริการ: 10.00-16.00 น. (ปิดร้านเวลา 16.30 น.)
วันหยุด: ทุกวันพุธ (เดือนสิงหาคมและตุลาคม ไม่มีวันหยุด)
เว็บไซต์: คลิ๊กที่นี่
ภายในอาคารเห็นทะเลสาบ Chuzenjiko บรรยากาศโอเพ่นแอร์รับลมเย็นๆจากทะเลสาบได้ตลอด 24 ชั่วโมง
บรรยากาศภายในสุดน่ารักและอบอุ่น
ด้านในยังมีคาเฟ่เล็กๆให้เราได้พักทานน้ำ ทานขนม พร้อมดื่มด่ำกับบรรยากาศธรรมชาติรอบตัว
อีกหนึ่งไฮไลท์คือด้านนอกสามารถเดินไปยังสะพานที่ยื่นไปในทะเลสาบ วิวตรงนี้สวยเหมือนกับภาพวาดเลยค่ะ ไม่ว่าจะถ่ายมุมไหนก็สวยสุดๆไปเลย!
นอกจากสถานทูตอิตาลีแล้ว บริเวณเดียวกันก็เป็นที่ตั้งของสถานทูตอังกฤษ สถานทูตอังกฤษแห่งนี้ได้รับการปรับปรุง และเพิ่งเปิดให้เข้าชมเมื่อปี 2016 ที่ผ่านมา ภายในตกแต่งแนวโมเดิร์น มาเยี่ยมชมที่นี่นอกจากสนุกแล้วยังได้รู้จักกับประวัติของประเทศอังกฤษและประวัติของทะเลสาบ Chuzenjiko ที่จัดแสดงไว้อีกด้วย
ภายในยังมีร้านกาแฟน่ารักสไตล์อังกฤษแท้ๆอีกด้วย โดยเฉพาะเซ็ตสโคน (พร้อมชาอังกฤษ) ราคา 1,500 เยน ที่ใครมาเป็นต้องสั่ง
ที่อยู่: 2482 Chugushi, Nikko-shi, Tochigi
ช่วงเวลาเปิดให้บริการ: ตั้งแต่เดือนเมษายน ถึงเดือนพฤศจิกายน
เวลาให้บริการ: 9.00-17.00 น. (วันที่ 1 พฤษภาคม ถึง วันที่ 10 พฤศจิกายน) 9.00-16.00 น. (เดือนเมษายนและพฤศจิกายน )
วันหยุด: ทุกวันจันทร์ ถ้าหากวันจันทร์เป็นวันหยุดวันหยุดนักขัตฤกษ์ วันอังคารจะเป็นวันหยุด (เดือนมิถุนายนถึงตุลาคม ไม่มีวันหยุด)
ค่าเข้า: ผู้ใหญ่ 200 เยน เด็กอายุ 4 ขวบถึงประถม 100 เยน ตั๋วเข้าชมทั้งสองที่ 300 เยน
การเดินทาง: นั่งรถบัสจากสถานีรถไฟ Tobu หรือรถไฟ JR สถานี Nikko ไปทางทะเลสาบ Chuzenjiko ขึ้นที่ป้ายรถบัส Chuzenjiko onsen นั่งไปประมาณ 48 นาที เปลี่ยนรถบัสเป็นรถ Chuzenji Skyline ที่มุ่งหน้าสู่ Hangetsuyama 5 นาที ลงที่หน้าทางเข้า Italy / British Embassy Villa Memorial Park เดินอีก 5 นาที
※ รถบัส Chuzenjiko Skyline เปิดให้บริการเฉพาะวันที่ 8 กรกฏาคม ถึงวันที่ 31 สิงหาคม และวันที่ 1 ตุลาคม ถึง 12 พฤศจิกายน
อ้างอิ(ภาษาญี่ปุ่น): คลิ๊กที่นี่
ที่อยู่: Kotoku Onsen, Nikko-shi, Tochigi
อ้างอิ: คลิ๊กที่นี่
เริ่มกันที่ไปลองชิมน้ำแข็งใสเจ้าเก่าแก่ของที่นี่ เรียกได้ว่าใครมาที่นี่แล้วไม่ได้ลองน้ำแข็งใส จะเป็นอะไรที่พลาดมาก ร้านน้ำแข็งใส Shogetsu himuro แห่งนี้เดินจากสถานี Shimoimaichi เพียง 10 นาทีเท่านั้น ที่พิเศษของร้านนี้คือใช้น้ำแข็งจากธรรมชาติในหุบเขาในเมืองนิกโก้แห่งนี้ และสามารถหาทานได้ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะฤดูใดก็ตาม รสสัมผัสและรสชาติน้ำแข็งใสช่างต่างกับที่อื่น อร่อยสุดๆ รับประกันได้จากแถวที่ต่อหน้าร้านได้เลยค่ะ
เมนูที่เราสั่งครั้งนี้คือเป็นเมนูยอดฮิตได้แก่ น้ำแข็งใสสตรอว์เบอร์รี (Fresh Strawberry Premium) ราคา 800 เยน สตรอว์เบอร์รีสดๆเต็มๆคำ กับครีมโยเกิร์ตหวานๆเปรี้ยวๆชื่นใจสุดๆ แถมยังราดด้วยซอสสตรอว์เบอร์รีและน้ำแข็งใสนุ่มๆอย่างดี ถ้วยเดียวก็ไม่พอ!
เมนูสุดครีเอตน้ำแข็งใสเมล่อน (Melomelo Mega Melon) เรียกได้ว่าเอาเมล่อนเกือบทั้งลูกมาเลย เพราะขนาดถ้วยยังทำมาจากเมล่อน เก๋และอร่อยชื่นใจสุดๆ
ที่อยู่: 379 Imaichi, Nikko-shi, Tochigi
ช่วงเวลาเปิดให้บริการ: ตลอดปี
เวลาให้บริการ: 11.00-18.00 น. (เวลาปิดอาจแตกต่างกัน)
วันหยุด: ทุกวันจันทร์ (หากวันจันทร์เป็นวันหยุดวันหยุดนักขัตฤกษ์ วันอังคารจะเป็นวันหยุดของร้าน)
อ้างอิ: คลิ๊กที่นี่
【รายละเอียดเกี่ยวกับตั๋วรถไฟ SL taiju 】
ตั๋วรถไฟ ผู้ใหญ่ 750 เยน เด็ก 380 เยน
รายละเอียดเพิ่มเติม
รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเดินรถไฟ ที่นี่ (SL Taiju) >>> คลิ๊กที่นี่(PDF)
อีกหนึ่งความสนุกของการนั่งรถไฟญี่ปุ่นคือารทานข้าวกล่องไปด้วย และข้าวกล่องของรถไฟ SL taiju แห่งนี้ก็มีดีไซน์เก๋ไก๋ บนข้าวโรยด้วยไข่ฝอยราวกับเป็นทอง เวลาทานก็ใช้ช้อนดีไซน์น่ารักตัก ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังขุดทองและหาสมบัติอยู่ทำให้สนุกกับการทานมากยื่งขึ้น สามารถซื้อข้าวกล่องสุดครีเอตนี้ได้ที่ร้าน ACCESS ภายในสถานีรถไฟและภายในรถไฟที่เรานั่งได้เลย ข้าวกล่อง SL Taiju Nikko maizo-kin ราคา 950 เยน
ครั้งนี้เรามาล่องเรือคลายร้อน สัมผัสบรรยากาศป่าเขาสองริมฝั่งน้ำ ระยะทางกว่า 6 กิโลเมตร ล่องเรือรับลมเย็นๆ น้ำใสๆ ชมก้อนหินทรงแปลกๆ พร้อมฟังเรื่องราวสนุกๆจากพี่คนพายเรือ สนุกจนลืมเวลาไปเลย
กิจกรรมหน้าร้อนก็ต้องล่องเรือคลายร้อนเลย
ที่อยู่: 1414 Ohara, Kinugawa Onsen, Nikko-shi, Tochigi
ช่วงเวลาเปิดให้บริการ: กลางเดือนเมษายน ถึง ปลายเดือนพฤศจิกายน
เวลาให้บริการ: 9.00-15.45 น. (1 วัน มีทั้งหมด 12 เที่ยว) เวลารับจอง 8.00-17.00 น.
วันหยุด: ไม่มี
ค่าบริการ: นักเรียนประถมขึ้นไป 2,700 เยน เด็ก (อายุ 4 ปีขึ้นไป) 1,200 เยน เด็ก (1 ปีขึ้นไป) ไม่เสียค่าบริการ
※วันธรรมดา รอบสุดท้าย เหลือครึ่งราคา (ไม่รวมช่วงวันหยุดยาวเดือนพฤษภาคมและเดือนสิงหาคม)
หากใช้ร่วมกับตั๋ว NIKKO ALL AREA PASS ผู้ใหญ่ 2,500 เยน เด็ก 1,200 เยน
เว็บไซต์(ภาษาญี่ปุ่น): คลิ๊กที่นี่
ที่อยู่: 19 Fujiwara, Kinugawa Onsen, Nikko-shi, Tochigi
เวลาให้บริการสำหรับผู้ที่ไม่ได้พักที่โรงแรม: 13.00-15.00 น.
เวลาให้บริการสำหรับผู้ที่เข้าพักที่โรงแรม: 14.00-24.00 น. และ 5.00-9.00 น.
เว็บไซต์(ภาษาญี่ปุ่น): คลิ๊กที่นี่
นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวที่เราแนะนำกันไปแล้ว บัตร NIKKO ALL AREA PASS ยังสามารถใช้กับสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆภายในนิกโก้ได้อีกด้วย เรียกได้ว่าจ่ายประมาณ 4,000 เยนแต่เที่ยวได้คุ้มเกินคุ้ม เอาเป็นว่าใครจะมาเที่ยวนิกโก้แล้วต้องรีบลิสต์บัตร NIKKO ALL AREA PASS เอาไว้ในทริปเลย!
รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ TOBU JAPAN TRIP ที่เว็บไซต์
>>> http://www.tobujapantrip.com/th/area/nikko_kinugawa/
【วันที่ 1】 ออกเดินทางจากอาซากุสะ รีบซื้อตั๋วแล้วไปสนุกที่นิกโก้กันเลย!
เริ่มออกเดินทางไปนิกโก้กันที่สถานีรถไฟ Tobu สถานี Asakusa กันเลยค่ะ!ครั้งนี้เราออกเดินทางกันตั้งแต่ 6.30 กันเลย โดยนั่งรถไฟด่วนพิเศษ Revaty ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อฤดูใบไม้ผลิปี 2017 ที่ผ่านมา รถไฟใหม่แกะกล่องขนาดนี้ แน่นอนว่าสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นปลั๊กสำหรับชาร์จแบตและ Wi-Fi ฟรี นั่งรถไปแชะภาพไป อัพลงโซเชียลได้เลยไม่มีหงุดหงิดแน่นอน
【จุดเด่นของ NIKKO ALL AREA PASS】
- ตั๋วมีอายุ 4 วัน
- รวมการเดินทางไปกลับ 1 รอบระหว่างสถานี Asakusa ถึงสถานี Shimoimaichi
- รวมการโดยสารรถบัสและรถไฟภายในนิกโก้ไม่จำกัดจำนวน
- ถ้าหากซื้อตั๋ว NIKKO ALL AREA PASS พร้อมกับตั๋วรถไฟ Limited Express ทั้งแบบ Revaty และ Spacia จะได้รับส่วนลดอีก 20%
- สามารถใช้ร่วมกับตั๋วรถไฟ SL taiju ได้ (ไม่มีส่วนลด 20%)
- มีของสัมมนาคุณและสิทธิพิเศษภายในเมืองนิกโก้มากมาย
เว็บไซต์ภาษาไทย NIKKO ALL AREA PASS
ขึ้นรถบัสฝั่งตรงข้ามสถานี Tobu Nikko พร้อมออกเดินทางกันต่อ!
ถ้าซื้อรถไฟแบบด่วนพิเศษจากสถานี Asakusa จะใช้เวลาเพียง 110 นาที ไม่ถึงสองชั่วโมงก็ถึงที่นิกโก้กันแล้ว!ด้านหน้าสถานีรถไฟจะเจอกับป้ายรถบัส เลือกขึ้นคันที่ไปยัง Chuzenji onsen สามารถขึ้นได้ตั้งแต่ป้าย 2A ถึง 2C ซึ่งเรามีบัตร NIKKO ALL AREA PASS อยู่แล้ว จะขึ้นลงไปไหนก็สะดวกเลยจ้า
รายละเอียดเส้นทางรถบัส Tobu ที่เว็บไซต์: คลิ๊กที่นี่
วิวสุดประทับใจ! กับกระเช้าลอยฟ้ามุ่งตรงสู่จุดชมวิวบนภูเขา
เรานั่งรถบัสจากสถานีรถไฟ Tobu สถานี Nikko ประมาณ 35 นาที ผ่านเนินเขา Iroha แล้วก็จะเจอป้าย Akechidaira และกระเช้าสีแดงที่จะพาเราขึ้นไปยังจุดชมวิวบนภูเขากันค่ะ ตื่นเต้นสุดๆกระเช้าลอยฟ้าจะพาเราไปยังจุดชมวิวที่มีความสูงถึง 1,373 เมตร ใช้เวลาประมาณ 3 นาทีก็ถึงด้านบน ระหว่างทางขึ้นไป ทุกคนก็จะสามารถสัมผัสบรรยากาศความงามท่ามกลางหุบเขา
ถึงจุดชมวิวกันแล้ว! จากจุดนี้สามารถมองเห็นทะเลสาบ Chuzenjiko และน้ำตก Kegon ซึ่งมีความสูงถึง 92 เมตร จากจุดนี้สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้อย่างเต็มตาเต็มใจไปเลย
ถ้าอยากถ่ายรูปต้องจุดนี้เลย! ว่าแล้วต้องเซลฟี่กันหน่อย
รายละเอียด
กระเช้าลอยฟ้า Akechidairaที่อยู่: 709-5 Fukasawa, Hosoomachi, Nikko-shi, Tochigi
ช่วงเวลาเปิดให้บริการ: ตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม ถึง ปลายเดือนกุมภาพันธ์ (ช่วงฤดูหนาวมีช่วงปิดให้บริการ)
เวลาให้บริการ: 9.00-16.00 น. (สถานที่ปิดเวลา 16.30 น. ทั้งนี้เวลาปรับเปลี่ยนตามช่วงเวลา)
วันหยุด: ไม่มี
ค่าบริการ: ผู้ใหญ่ 400 เยน เด็ก 200 เยน / ตั๋วไปกลับ ผู้ใหญ่ 750 เยน เด็ก 370 เยน แต่ถ้าซื้อร่วมกับตั๋ว NIKKO ALL AREA PASS ตั๋วแบบไปกลับ ผู้ใหญ่ เหลือ 660 เยน เด็ก 340 เยน
อ้างอิ: คลิ๊กที่นี่
มาเดินเล่นรอบๆทะเลสาบที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นกันเถอะ!
จากกระเช้าลอยฟ้าที่เราขึ้น นั่งรถบัสมาอีก 10 นาที ก็จะถึงทะเลสาบ Chuzenjiko ทะเลสาบแห่งนี้พิเศษกว่าที่อื่นเพราะได้ชื่อว่าเป็นทะเลสาบที่สูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ด้วยระดับความสูงกว่า 1,269 เมตร และบริเวณนั้นยังมีประตูสีแดงขนาดใหญ่ข้างทะเลสาบที่น่าไปถ่ายรูปอีกด้วยครั้งนี้เรามาสัมผัสบรรยากาศทะเลสาบกันเต็มๆโดยนั่งเรือท่องเที่ยวชมวิวที่มีชื่อว่า Kegon แต่ตั้งแต่เดือนสิงหาคมจะเปลี่ยนเป็นเรือลำใหม่ที่มีชื่อว่า Nantai ที่มีห้องสำหรับดูวิวได้โดย ไม่ว่าฝนจะตกหรือแดดจะร้อนเพียงใดก็ไม่หวั่น
ลมดีจังเลย~! มองวิวทะเลสาบจากมุมนี้ก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบ
ระยะเวลาการนั่งเรือประมาณ 20 นาที แล้วลงเรือกันที่ท่า Shoubugahama ลงมาปุ๊บก็จะเจอกับสะพานไม้ที่ทอดยาวพร้อมวิวทะเลสาบสีฟ้าใส ว่าแล้วไม่รอช้าต้องแวะเก็บภาพเป็นที่ระลึกตรงนี้สักหน่อย
รายละเอียด
เรือท่องเที่ยว Chuzenjikoที่อยู่: 2478 Chugushi, Nikko-shi, Tochigi
ช่วงเวลาเปิดให้บริการ: ตั้งแต่กลางเดือนเมษายน ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน
เวลาให้บริการ: 9.00-17.00 น.
ค่าบริการ: ผู้ใหญ่ 1,250 เยน เด็ก 630 เยน แต่ถ้าซื้อร่วมกับตั๋ว NIKKO ALL AREA PASS ผู้ใหญ่ เหลือ 1,130 เยน เด็ก 570 เยน
อ้างอิ: คลิ๊กที่นี่
สุดยอดแกงกะหรี่ต้นตำหรับกว่า 100 ปีพร้อมดื่มด่ำธรรมชาติเขียวขจี
หลังจากนั่งเรือกันแล้วก็ต้องเติมพลังกันหน่อย จากท่า Shoubugahama ที่เราลงเรือกันมานั้น นั่งรถบัสประมาณ 10 นาทีหรือสามารถเดินประมาณ 20 นาที จะเจอกับร้านอาหาร Coffee House Yukon ร้านที่มีชื่อเสียงเรื่องแกงกะหรี่สูตรพิเศษและมีบรรยากาศร่มรื่นบรรยากาศร้านสไตล์บ้านไม้ในหุบเขา อากาศดีๆแบบนี้แนะนำที่นั่งริมระเบียงด้านนอกเลย เพราะได้บรรยากาศสุดๆ ทานอาหารอร่อยๆไปรับลมเย็นๆพร้อมดูวิวทะเลสาบ ส่วนอาหารก็เลิศไม่แพ้กัน แกงกะหรี่สามารถเลือกท้อปปิ้งเป็นแบบเนื้อทอด ไก่ทอดและปลาเทราต์ทอด ครั้งนี้เราเลือกปลาและผักทอดมาทานคู่กับแกงกะหรี่สูตรเด็ดของที่นี่กันค่ะ
รายละเอียด
Coffee House Yukonที่อยู่: 2482 Chugushi, Nikko-shi, Tochigi
ช่วงเวลาเปิดให้บริการ: ตั้งแต่เดือนเมษายน ถึงกลางเดือนพฤศจิกายน
เวลาให้บริการ: 10.00-16.00 น. (ปิดร้านเวลา 16.30 น.)
วันหยุด: ทุกวันพุธ (เดือนสิงหาคมและตุลาคม ไม่มีวันหยุด)
เว็บไซต์: คลิ๊กที่นี่
สัมผัสบรรยากาศสุดไฮคลาสกับที่พักตากอากาศของเหล่าท่านทูต
หลังจากอิ่มกันแล้ว ก็ออกเดินทางกันต่อไปยังสถานทูตประเทศอิตาลีและสถานทูตประเทศอังกฤษกันเลย■สถานทูตประเทศอิตาลี
บรรยากาศบ้านไม้ย้อนยุคผสมผสานกลิ่นอายแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมและแบบอิตาลีได้อย่างลงตัว บ้านทำจากต้นสนและต้นไผ่ซึ่งได้รับการปรับปรุงใหม่ เรือนไม้หลังนี้ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่มีอายุกว่า 80 ปี ได้บรรยากาศสไตล์คลาสสิคภายในอาคารเห็นทะเลสาบ Chuzenjiko บรรยากาศโอเพ่นแอร์รับลมเย็นๆจากทะเลสาบได้ตลอด 24 ชั่วโมง
บรรยากาศภายในสุดน่ารักและอบอุ่น
อีกหนึ่งไฮไลท์คือด้านนอกสามารถเดินไปยังสะพานที่ยื่นไปในทะเลสาบ วิวตรงนี้สวยเหมือนกับภาพวาดเลยค่ะ ไม่ว่าจะถ่ายมุมไหนก็สวยสุดๆไปเลย!
■สถานทูตอังกฤษ
นอกจากสถานทูตอิตาลีแล้ว บริเวณเดียวกันก็เป็นที่ตั้งของสถานทูตอังกฤษ สถานทูตอังกฤษแห่งนี้ได้รับการปรับปรุง และเพิ่งเปิดให้เข้าชมเมื่อปี 2016 ที่ผ่านมา ภายในตกแต่งแนวโมเดิร์น มาเยี่ยมชมที่นี่นอกจากสนุกแล้วยังได้รู้จักกับประวัติของประเทศอังกฤษและประวัติของทะเลสาบ Chuzenjiko ที่จัดแสดงไว้อีกด้วย ภายในยังมีร้านกาแฟน่ารักสไตล์อังกฤษแท้ๆอีกด้วย โดยเฉพาะเซ็ตสโคน (พร้อมชาอังกฤษ) ราคา 1,500 เยน ที่ใครมาเป็นต้องสั่ง
รายละเอียด
สถานทูตอิตาลี และ สถานทูตอังกฤษที่อยู่: 2482 Chugushi, Nikko-shi, Tochigi
ช่วงเวลาเปิดให้บริการ: ตั้งแต่เดือนเมษายน ถึงเดือนพฤศจิกายน
เวลาให้บริการ: 9.00-17.00 น. (วันที่ 1 พฤษภาคม ถึง วันที่ 10 พฤศจิกายน) 9.00-16.00 น. (เดือนเมษายนและพฤศจิกายน )
วันหยุด: ทุกวันจันทร์ ถ้าหากวันจันทร์เป็นวันหยุดวันหยุดนักขัตฤกษ์ วันอังคารจะเป็นวันหยุด (เดือนมิถุนายนถึงตุลาคม ไม่มีวันหยุด)
ค่าเข้า: ผู้ใหญ่ 200 เยน เด็กอายุ 4 ขวบถึงประถม 100 เยน ตั๋วเข้าชมทั้งสองที่ 300 เยน
การเดินทาง: นั่งรถบัสจากสถานีรถไฟ Tobu หรือรถไฟ JR สถานี Nikko ไปทางทะเลสาบ Chuzenjiko ขึ้นที่ป้ายรถบัส Chuzenjiko onsen นั่งไปประมาณ 48 นาที เปลี่ยนรถบัสเป็นรถ Chuzenji Skyline ที่มุ่งหน้าสู่ Hangetsuyama 5 นาที ลงที่หน้าทางเข้า Italy / British Embassy Villa Memorial Park เดินอีก 5 นาที
※ รถบัส Chuzenjiko Skyline เปิดให้บริการเฉพาะวันที่ 8 กรกฏาคม ถึงวันที่ 31 สิงหาคม และวันที่ 1 ตุลาคม ถึง 12 พฤศจิกายน
อ้างอิ(ภาษาญี่ปุ่น): คลิ๊กที่นี่
โรงแรม Nikko Astraea Hotel บรรยากาศสุดประทับใจท่ามกลางไออุ่นของขุนเขา
หลังจากเที่ยวกันมาเต็มที่ทั้งวัน เราก็มาพักเหนื่อยกันที่โรงแรม Nikko Astraea Hotel ที่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติและขุนเขา ประทับใจสุดๆไปเลยค่ะได้แช่ออนเซ็นจากบ่อธรรมชาติ ผ่อนคลายสุดๆ แช่น้ำเสร็จก็ออกไปดูดาว รับลมเย็นๆ
ท้องฟ้าหน้าร้อนนี่โปร่งจริงๆ ดาวตระการตามากค่ะ
รายละเอียด
โรงแรม Nikko Astraea Hotelที่อยู่: Kotoku Onsen, Nikko-shi, Tochigi
อ้างอิ: คลิ๊กที่นี่
【วันที่2】น้ำแข็งใสจากน้ำแข็งธรรมชาติ เดินทางก็สะดวก
เริ่มวันที่สองของเรา ก็เติมพลังกับอาหารเช้าที่โรงแรม และหลังจากนั้นก็ออกเดินทางไปยังสถานี Shimoimaichi วันนี้เราก็ยังใช้บัตร NIKKO ALL AREA PASS กันเช่นเดิน คุ้มสุดๆเริ่มกันที่ไปลองชิมน้ำแข็งใสเจ้าเก่าแก่ของที่นี่ เรียกได้ว่าใครมาที่นี่แล้วไม่ได้ลองน้ำแข็งใส จะเป็นอะไรที่พลาดมาก ร้านน้ำแข็งใส Shogetsu himuro แห่งนี้เดินจากสถานี Shimoimaichi เพียง 10 นาทีเท่านั้น ที่พิเศษของร้านนี้คือใช้น้ำแข็งจากธรรมชาติในหุบเขาในเมืองนิกโก้แห่งนี้ และสามารถหาทานได้ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะฤดูใดก็ตาม รสสัมผัสและรสชาติน้ำแข็งใสช่างต่างกับที่อื่น อร่อยสุดๆ รับประกันได้จากแถวที่ต่อหน้าร้านได้เลยค่ะ
เมนูที่เราสั่งครั้งนี้คือเป็นเมนูยอดฮิตได้แก่ น้ำแข็งใสสตรอว์เบอร์รี (Fresh Strawberry Premium) ราคา 800 เยน สตรอว์เบอร์รีสดๆเต็มๆคำ กับครีมโยเกิร์ตหวานๆเปรี้ยวๆชื่นใจสุดๆ แถมยังราดด้วยซอสสตรอว์เบอร์รีและน้ำแข็งใสนุ่มๆอย่างดี ถ้วยเดียวก็ไม่พอ!
เมนูสุดครีเอตน้ำแข็งใสเมล่อน (Melomelo Mega Melon) เรียกได้ว่าเอาเมล่อนเกือบทั้งลูกมาเลย เพราะขนาดถ้วยยังทำมาจากเมล่อน เก๋และอร่อยชื่นใจสุดๆ
ได้ลองน้ำแข็งใสจากน้ำแข็งธรรมชาติเป็นครั้งแรก อร่อยไม่รู้ลืมเลย!
รายละเอียด
Shogetsu Himuroที่อยู่: 379 Imaichi, Nikko-shi, Tochigi
ช่วงเวลาเปิดให้บริการ: ตลอดปี
เวลาให้บริการ: 11.00-18.00 น. (เวลาปิดอาจแตกต่างกัน)
วันหยุด: ทุกวันจันทร์ (หากวันจันทร์เป็นวันหยุดวันหยุดนักขัตฤกษ์ วันอังคารจะเป็นวันหยุดของร้าน)
อ้างอิ: คลิ๊กที่นี่
ความสนุกทวีคูณกับรถไฟหัวรถจักร SL Taiju มุ่งตรงสู่ออนเซ็น Kinugawaonsen
จากนั้นเรากลับมาที่สถานี Shimoimaichi ไฮไลท์ของวันนี้คือการนั่งรถไฟ SL taiju 「SL大樹」ซึ่งเริ่มเปิดตัวเมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2017 ที่ผ่านมานี้เอง ที่สำคัญ เรามีตั๋ว 「NIKKO ALL AREA PASS」อยู่แล้วจึงไม่ต้องกังวลเรืองการจองและซื้อตั๋วอีก สามารถใช้ร่วมกับบัตรนี้ได้เลย สะดวกสุดๆ จากสถานี Shimoimaichi ถึงออนเซ็น Kinugawaonsen ใช้เวลาประมาณ 35 นาที ว่าแล้วเริ่มออกเดินทางกันเลย!【รายละเอียดเกี่ยวกับตั๋วรถไฟ SL taiju 】
ตั๋วรถไฟ ผู้ใหญ่ 750 เยน เด็ก 380 เยน
รายละเอียดเพิ่มเติม
รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเดินรถไฟ ที่นี่ (SL Taiju) >>> คลิ๊กที่นี่(PDF)
อีกหนึ่งความสนุกของการนั่งรถไฟญี่ปุ่นคือารทานข้าวกล่องไปด้วย และข้าวกล่องของรถไฟ SL taiju แห่งนี้ก็มีดีไซน์เก๋ไก๋ บนข้าวโรยด้วยไข่ฝอยราวกับเป็นทอง เวลาทานก็ใช้ช้อนดีไซน์น่ารักตัก ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังขุดทองและหาสมบัติอยู่ทำให้สนุกกับการทานมากยื่งขึ้น สามารถซื้อข้าวกล่องสุดครีเอตนี้ได้ที่ร้าน ACCESS ภายในสถานีรถไฟและภายในรถไฟที่เรานั่งได้เลย ข้าวกล่อง SL Taiju Nikko maizo-kin ราคา 950 เยน
ล่องไปตามแม่น้ำ Kinugawa
หน้าร้อนแล้วก็ต้องหากิจกรรมคลายร้อนที่แม่น้ำกันสักหน่อย จากสถานี Kinugawa onsen ก็เดินประมาณ 5 นาที ก็จะถึงกับแม่น้ำ Kinugawaครั้งนี้เรามาล่องเรือคลายร้อน สัมผัสบรรยากาศป่าเขาสองริมฝั่งน้ำ ระยะทางกว่า 6 กิโลเมตร ล่องเรือรับลมเย็นๆ น้ำใสๆ ชมก้อนหินทรงแปลกๆ พร้อมฟังเรื่องราวสนุกๆจากพี่คนพายเรือ สนุกจนลืมเวลาไปเลย
กิจกรรมหน้าร้อนก็ต้องล่องเรือคลายร้อนเลย
รายละเอียด
ล่องเรือแม่น้ำ Kinugawaที่อยู่: 1414 Ohara, Kinugawa Onsen, Nikko-shi, Tochigi
ช่วงเวลาเปิดให้บริการ: กลางเดือนเมษายน ถึง ปลายเดือนพฤศจิกายน
เวลาให้บริการ: 9.00-15.45 น. (1 วัน มีทั้งหมด 12 เที่ยว) เวลารับจอง 8.00-17.00 น.
วันหยุด: ไม่มี
ค่าบริการ: นักเรียนประถมขึ้นไป 2,700 เยน เด็ก (อายุ 4 ปีขึ้นไป) 1,200 เยน เด็ก (1 ปีขึ้นไป) ไม่เสียค่าบริการ
※วันธรรมดา รอบสุดท้าย เหลือครึ่งราคา (ไม่รวมช่วงวันหยุดยาวเดือนพฤษภาคมและเดือนสิงหาคม)
หากใช้ร่วมกับตั๋ว NIKKO ALL AREA PASS ผู้ใหญ่ 2,500 เยน เด็ก 1,200 เยน
เว็บไซต์(ภาษาญี่ปุ่น): คลิ๊กที่นี่
มาแช่น้ำผ่อนคลายที่ออนเซ็น Kinugawa กันดีกว่า!
หลังจากที่สนุกสนานกับการล่องเรือกันแล้ว เราก็มาผ่อนคลายโดยการแช่ออนเซ็นกันต่อ บ่อออนเซ็นท่ามกลางป่าเขา ริมฝั่งแม่น้ำ แช่ออนเซ็นไปได้ยินเสียงน้ำไหลไปผ่อนคลายสุดๆ และที่สำคัญเขาว่ากันว่าออนเซ็นของที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องบำรุงผิว ดังนั้นสาวๆยิ่งพลาดไม่ได้เลยรายละเอียด
Hananoyado Matsuyaที่อยู่: 19 Fujiwara, Kinugawa Onsen, Nikko-shi, Tochigi
เวลาให้บริการสำหรับผู้ที่ไม่ได้พักที่โรงแรม: 13.00-15.00 น.
เวลาให้บริการสำหรับผู้ที่เข้าพักที่โรงแรม: 14.00-24.00 น. และ 5.00-9.00 น.
เว็บไซต์(ภาษาญี่ปุ่น): คลิ๊กที่นี่
นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวที่เราแนะนำกันไปแล้ว บัตร NIKKO ALL AREA PASS ยังสามารถใช้กับสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆภายในนิกโก้ได้อีกด้วย เรียกได้ว่าจ่ายประมาณ 4,000 เยนแต่เที่ยวได้คุ้มเกินคุ้ม เอาเป็นว่าใครจะมาเที่ยวนิกโก้แล้วต้องรีบลิสต์บัตร NIKKO ALL AREA PASS เอาไว้ในทริปเลย!
รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ TOBU JAPAN TRIP ที่เว็บไซต์
>>> http://www.tobujapantrip.com/th/area/nikko_kinugawa/
ถ้าชอบบทความนี้ กดถูกใจให้ด้วยนะ
บทความนี้เขียนขึ้นเมื่อ 10/08/2017 เรื่องโดย:กองบรรณาธิการ DiGJAPAN!
ความคิดเห็นล่าสุด | 0ความคิดเห็น
หากเป็นสมาชิก DiGJAPAN!
จะสามารถโพสต์คอมเม้นท์ได้
สมัครสมาชิก