ฮาราจูกุของคุณยายกับ 9 สิ่งห้ามพลาด! ชวนตะลุยย่านช้อปปิ้งซูกาโม่จิโซะโดริ

บทความ

ฮาราจูกุของคุณยายกับ 9 สิ่งห้ามพลาด! ชวนตะลุยย่านช้อปปิ้งซูกาโม่จิโซะโดริ

มีใครรู้จัก`ฮาราจูกุคุณยาย`ไหมคะ? ย่านช้อปปิ้งขนาดใหญ่บนถนน`ซูกาโม่จิโซะโดริ` มองผ่านๆอาจจะคิดว่าที่นี่คือฮาราจูกุ เพราะหันไปทางไหนก็เจอแต่แฟชั่นวัยผู้ใหญ่เต็มไปหมด ถนนสายนี้ยาวกกว่า 800 เมตรและมีร้านเก่าแก่กว่า 200 ร้าน ทุกร้านมีสินค้าและอาหารสำหรับวัยคุณตาคุณยายมากมาย จึงได้รับฉายาแสนน่ารักว่า`ฮาราจูกุคุณยาย`ไงละคะ วัยรุ่นอย่างเราก็ไปเที่ยวกันได้ โดยเฉพาะคนที่ชอบอะไรดั้งเดิมๆที่นี่มีเพียบ!

ทำไมคุณตาคุณยายหลายๆคนนิยมไปถนนซูกาโม่?

ถนนซูกาโม่

วันสุดแสนคึกคักบน`ถนนจิโซะโดริ`

ย่านแห่งนี้มีวัดที่โด่งดังมากคือ วัดโคกันจิ(Koganji temple)ซึ่งมีพระพุทธรูป`โทเกะนุคิจิโซะ` (Togenuki Jizo) ให้เราไปขอพรกัน พระพุทธรูปองค์นี้เด่นในเรื่องขอพรให้หายป่วยหรือปัดเป่าให้สิ่งร้ายๆในชีวิตหายไป ให้มีสิ่งดีๆเข้ามาแทน

แต่น่าแปลกที่วัดแห่งนี้ไม่ใช่เหตุผลที่คุณตาคุณยายนิยมมาที่นี่.. ..! ถนนพื้นที่กว้างขวาง พื้นไม่ลื่น สะดวกสำหรับการพกพาไม้เท้าและรถเข็นมา พนักงานตามร้านค้าก็ใจดี เหตุผลเหล่านี้ต่างหาก ที่ทำให้คุณตาคุณยายต่างเทใจให้

ร้านขายซุปถั่วแดงและลูกอมชุ่มคอจากหัวไชเท้า

ถนนซูกาโม่มีร้านอาหารเก่าแก่มากมาย สำหรับใครที่ชอบบรรยากาศเก่าๆ อยากได้กลิ่นอายในช่วง 40 ปีก่อน แนะนำให้มาลองเดินเล่นที่นี่ ใช้ชีวิตอย่างช้าๆกันค่ะ

เปิดประตูเข้าสู่...เกียวโตและเอโดะ

ในสมัยเอโดะช่วงปี 1603 ถึงปี 1868 ถนนนากะเซนโด(Nakasendo)เป็นถนนเชื่อมต่อระหว่างโตเกียว(เอโดะ)และเกียวโต
จุดแวะพักจุดแรกของช่วงถนนนี้คือ บริเวณถนนจิโซะโดริแห่งนี้นี่เอง ร้านอาหารต่างๆจึงค่อยเริ่มต้นขึ้นที่นี่ วัดโคกันจิก็ได้ถูกย้ายจากอุเอะโนะมาที่ซูกาโม่ในปี 1891 เป็นลำดับถัดมา หลังจากนั้นที่นี่ก็ค่อยๆมีผู้คนและร้านค้าเพิ่มมาขึ้นเรื่อยๆมาจนถึงปัจจุบัน

ทางเข้าถนนจิโซะโดริ

ควงแขนคุณยายไปเดินเที่ยวดีกว่า!

มาถึงซูกาโม่แล้ว.. เพื่อนๆจะได้เจอกับอาหารและบรรยากาศแบบญี่ปุ่นจริงๆ เตรียมตัวเตรียมใจพร้อมแล้วไปลุยกันเลย!

1. ไหว้พระขอพรที่วัดโคกันจิ (Koganji Temple)

เรียนรู้ความเป็นมาของถนนจิโซะโดริ ด้วยการเริ่มต้นสักการะขอพรพระโทเกะนุคิจิโซะ ที่วัดโคกันจิ

เครื่องรางรูปพระจิโซะ เรียกว่า โอมิคาเกะ (Omikage)

หลังจากไหว้พระขอพรเสร็จ เราเพิ่มความโชคดีด้วยการซื้อโอมิคาเกะ เครื่อรางในโบสถ์กลับไปด้วย เมื่อแกะเครื่องรางออกมาแล้วจะเจอกับรูปวาดพระพุทธรูป 5 ใบ โดยให้เรานำรูปแต่ละใบไปติดไว้บริเวณที่มีอาการเจ็บหรือปวดเมื่อย เชื่อกันว่าจะทำให้อาการป่วยนั้นหายไป เครื่องรางนี้ราคาเพียง 100 เยนเท่านั้น ราคาไม่แพงเลย ดีจริงๆ

ทุกวันมีผู้คนมากมายเดินทางมาสรงน้ำเจ้าแม่กวนอิม เริ่มต้นโดยการซื้อผ้าขนหนูผืนเล็กๆราคา 100 เยน แล้วไปสรงน้ำองค์เจ้าแม่กวนอิม สุดท้ายให้นำผ้าขนหนูมาเช็ดตามร่างกายที่รู้สึกเจ็บหรือบริเวณที่รู้สึกไม่ดีให้ดีขึ้นกว่าเดิม ^^

เช็ดๆถูกๆ!

ดูเหมือนคนในท้องถิ่นจะดูปลื้มใจที่เห็นชาวต่างชาติมาสรงน้ำองค์เจ้าแม่กวนอิมมากๆ และเมื่อได้ลองคุยกับคุณยายที่มาสรงน้ำด้วยกัน ก็ได้ทราบว่าคุณยายมาที่นี่แทบจะทุกเดือน แม้ว่าบ้านคุณยายจะอยู่ไกลมากก็ตาม

ดังโงะแห่งความสุข 1 ไม้ 100 เยน

ไหว้พระเสร็จปุ๊ป... หาดังโงะอร่อยๆแวะทานกันก่อนไปเดินต่อ ดังโงะย่างหอมๆราดด้วยโชยุหวานๆ ร้านขายดังโงะบรรยากาศโบราณแบบนี้ รสชาติจะดั้งเดิมขนาดนั้นต้องไปลองนะคะ

นั่งพักที่ม้านั่ง ในบริเวณวัดโคเก็นจิ

รายละเอียด

Koganji temple
ที่อยู่: 3-35-2 Sugamo, Toshima-ku, Tokyo

２. ตบก้นเป็ดน้อย แปะๆ

เป็ดน้อยน่ารัก สัญลักษณ์ของซูกาโม่มีที่ชื่อว่า `ซูกะมน` (Sugamon)

เราจะเห็นรูปซูกะมนได้ตามที่สถานที่ต่างๆมากมายในย่านซูกาโม่แห่งนี้

สัมผัสกับก้นน้อยของเป็ดซูกะมนได้ที่บริเวณทางเข้าถนนจิโซะโดริ สัมผสอย่างเบาๆโดยมีคำพูดเขียนไว้ว่า `ถ้าแตะแล้วจะได้แต่งงาน ถ้าแตะอย่างเบาๆจะได้ไม่ต้องมีคนมาดูแลยามแก่เฒ่า`

3. กางเกงในสีแดงที่มารุจิ

สัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของทีนี่คือ... กางเกงในสีแดง!!!! ว่ากันว่าคนญี่ปุ่นที่อายุย่างเข้า 60 แล้วจะใส่กางเกงในสีแดงเป็นประจำ ทั้งนี้ก็เชื่อว่าใส่แล้วจะทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง มีพละกำลังต่อไปเรื่อยๆนั่นเอง

นอกจากกางเกงในแล้ว ภายในร้านยังมีสินค้าสีแดงอื่นๆวางขายอยู่ด้วย โดยหน้าร้านจะคำว่า 日本一の赤パンツ แปลว่า กางเกงในสีแดงที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น !

เดินดูทั่วๆร้านแล้วจะเห็นว่ามีเครื่องหมายรูปกางเกงในสีแดงกำกับอยู่ด้วย ที่นี่ยังมีคิ้ตตี้ ซูกะมนและรูปสัตว์ 12 นักษัตรวางขายด้วย ... แท่น แทน แท๊น และแล้วเราหา`ปีกระต่าย`ปีเกิดของเราเจอแล้ว เย้!

รายละเอียด

Maruji
ที่อยู่: 4-22-7 Sugamo, Toshima-ku,Tokyo
เวลาให้บริการ: 10.00 - 18.45 น.
วันหยุด: หยุด 3 วันต่อปี(ยังไม่กำหนดวัน)
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น): คลิ๊กที่นี่

4. ลองชิม`ชิโอะไดฟุกุ`

กล่องชิโอะไดฟุกุมีรูปโทเกนุคิจิโซะอยู่ด้วย

ชิโอไดฟุกุ โดยคำว่า ชิโอะ ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่า เกลือ นั่นเองค่ะ เป็นการเปลี่ยนไดฟูกุธรรมดาๆ เพิ่มรสชาติเกลือเข้าไปให้ได้รสหน่อยๆ น่าลิ้มลองมากเลยนะคะ นับว่าต้นตำหรับจริงๆเพราะร้านมิซุโนะแห่งนี้เขาเปิดกิจการมายาวนานตั้งแต่ปี 1937 แล้วค่ะ

ชิโอะไดฟุกุ 130 เยน

ไดฟุกุยื๊ดยื~ด ภายในสอดไส้ด้วยถั่วแอง เดินไปกินไปเพลินๆ ยิ่งได้กินคู่กับชาเขียวแล้วยิ่งเข้ากันได้ดีค่ะ

รายละเอียด

มิซุโนะ (Mizuno)
ที่อยู่: 3 -33-3 Sugamo, Toshima-ku,Tokyo
เวลาให้บริการ: 9.00 - 18.30 น.
วัดหยุด: ไม่มีวันหยุด
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) : คลิ๊กที่นี่

5. เซบเบ้กรุบกรอบ

ถ้าได้กลิ่นหอมโชยุลอยมาแต่ไกลเลย.. แสดงว่าเรามาถึงร้านร้านไรจินโดแล้ว ร้านขายเซมเบ้กรุบกรอบ พร้อมกับพนักงานหน้าตาอารมณ์ดี เป็นกันเองมากๆ

โชว์ตั้งแต่การหักเซบเบ้ทีละชิ้นแล้วนำไปชุบซอสโชยุ

โชว์ให้เห็นกันไปเลย ตั้งแต่การหักเซบเบ้ทีละชิ้นแล้วนำไปชุบซอสโชยุ น่ากินมากๆ

รายละเอียด

Raijindo
ที่อยู่: 3-33-9 Sugamo, Toshima-ku,Tokyo
เวลาให้บริการ: 9.00 - 18.30 น.
วันหยุด: ไม่มี
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น): คลิ๊กที่นี่

６. ขนมในโลกนิทานโบราณ

ใครชอบทานลูกอมลูกอม เป็นต้องถูกใจร้านคินทาโร่(kintarou)นี้แน่ๆ ที่นี่เขามีลูกกวาดแฮนด์เมดหลากหลายรสชาติ ทั้งสีสันและรูปร่าก็แตกต่างกัน เลือกกันไม่ถูกเลยทีเดียว

ลูกอมคินทาโร่อาเมะ ถุงละ 350 เยน

เอกลักษณ์ของลูกอมคือมีการเพ้นรูปหน้าคินทาโร่ไว้บนลูกอมนี่เอง โอ้โห.. เห็นกันชัดๆแบบนี้ กินครั้งแรกจำหน้าคินทาโร่ได้เลยนะเนี่ย

ลูกอมเล็กแค่ไหนก็แพ้นหน้าได้จ้า

รายละเอียด

Sugamo Kintaroame
ที่อยู่: 3-18-16 Sugamo, Toshima-ku,Tokyo
เวลาให้บริการ: 9.00 - 18.00 น.
วันหยุด: ไม่มี

７. ร้าน`อะไรๆก็งา`?

อะไรๆก็งาหมายความว่า ทุกอย่างที่อยู่ในร้านนี้มีแต่ของที่ทำจากงาหรือมีงาเป็นส่วนผสมทั้งสิ้น โดยร้านนี้ชื่อว่า`โกมะฟุคุโด` ร้านที่ขายตั้งแต่น้ำสลัดไปจนถึงขนมหวาน มายองเนสงาก็มีด้วย งานนี้สายรักสุขภาพต้องไปเลยจ้า

ไอศกรีมงาดำ 380 เยน

ไอศกรีมงาดำทำจากนมถั่วเหลือง คุณประโยชน์ครบถ้วน แถมยังดีต่อสุขภาพมากๆเลย รสชาตินุ่มนิ่ม งาเนียนละเอียดจนไม่รู้สึกเลยว่ากำลังกินงาอยู่ กลมกล่อม อร่อยกำลังดี

งาลูกเต๋า 650 เยน

แนะนำสุดๆสำหรับร้านนี้คือ งาขาวและงาดำลูกเต๋า ของหวานที่สร้างเสริมสุขภาพ แถมยังอร่อยอีกด้วย!

รายละเอียด

Goma Fukudo
ที่อยู่: 3-19-13 Sugamo, Toshima-ku, Tokyo
เวลาให้บริการ: 10.00 - 18.00 น.
วันหยุด: ไม่มี

８. ผักดองจี๊ดจ๊าด

ใครทานอาหารญี่ปุ่นจะรู้เลยว่า คนญี่ปุ่นเขามีวัฒนธรรมกินผักดองคู่กับข้าว แล้วถ้าใครอยากลองซื้อผัดดองคุณภาพดีละก็.. ต้องร้านคาวะมุรายะค่ะ มีให้ชิมฟรีก่อนด้วยนะ

หอมแดงดอง 609 เยน

หอมแดงดองในไวน์แดง สีจึงแดงเป็นพิเศษ.. รสชาติหวานๆได้กลิ่นองุ่นบางๆ

รายละเอียด

Kawamuraya
ที่อยู่: 3-21-15 Sugamo, Toshima-ku,Tokyo
เวลาให้บริการ: 10.00 - 18.00 น.
วันหยุด: ไม่มี

９. วัดและศาลเจ้า

นอกจากวัดโคกันจิแล้วยะมี`วัดชินโชจิ` (Shinshoji Temple)ด้วย อยู่ใกล้ๆทางเข้าถนนจิโซะ เข้าไปแล้วจะเห็นพระพุทธรูปจิโซะสูง 3 เมตร 45 เซนเมตร ใหญ่มากๆ

รายละเอียด

Shinshoji Temple
ที่อยู่: 3 -21-21 Sugamo, Toshima-ku,Tokyo

เดินรอบๆถนนจิโซะ จะยังคงเจอศาลเจ้าอยู่เรื่อยๆเช่น บริเวณสถานีโกะชินสุคะ( Koshinzuka) สายToden Arakawa line มีศาลเจ้าชื่อว่า Sugamo Sarutahiko Koshindo ศาลเจ้าเล็กๆที่มีสิงโตหินหน้าโบสถ์ ทั้งยังเป็นศูนย์รวมของเหล่าลิงทั้งหลายด้วย

รายละเอียด

Sugamo Sarutahiko Koshindo Shrine
ที่อยู่: 4-35 Sugamo, Toshima-ku,Tokyo

สถานีโกะชินสุคะ (Koshinzuka station)

ไปวันที่ลงท้ายด้วยเลข 4 ดีกว่า!

วันโคกันจิมีเทศกาลทุกๆวันที่ 4, 14 และ 24 ใครอยากเห็นบรรยากาศร้านขายของตามงานวัด แนะนำให้มาตามวันนี้เลยนะคะ คึกคักและมีของกินอร่อยๆแน่นอน

บรรยากาศร้านขายของช่วงวันที่ลงท้ายด้วย 4

ถึงแม้ว่าย่านแห่งนี้จะถูกเรียกว่า ฮาราจูกุของคุณยาย แต่ความดั้งเดิม เก่าแก่ ทำให้ที่นี่ดูมีเสน่ห์มาก แม้แต่วัยรุ่นอย่างเราก็อยากลองเข้าไปสัมผัสบรรยากาศสักครั้งหนึ่งเหมือนกันใช่ไหมคะ? ทั้งยังได้สัมผัสและใกล้ชิดวัฒนธรรมญี่ปุ่นได้มากขึ้นด้วย

รายละเอียด

ถนนช้อปปิ้งซูกาโม่ จิโซะโดริ (Sugamo Jizo-dori Shopping Street)
การเดินทาง: เดิน 5 นาทีจากทางออกด้านหน้า Sugamo Station สาย Yamanote Line , เดิน 2 นาทีจากสถานี Koshinzuka Station สาย Arakawa Line
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) : คลิ๊กที่นี่

บทความโดยแฟนเพจ DiGJAPAN!:
Laura ชาวอิตาลีที่อาศัยอยู่ในโตเกียว รักการถ่ายรูปและออกเดินทางไปยังสถานที่ที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักเป็นชีวิตจิตใจ นอกจากนี้ยังชอบเล่นเครื่องดนตรีโบราณของญี่ปุ่นอย่าง Shamisen อีกด้วย

ถ้าชอบบทความนี้ กดถูกใจให้ด้วยนะ

บทความนี้เขียนขึ้นเมื่อ 27/12/2017 เรื่องโดย：กองบรรณาธิการ DiGJAPAN!