- TOP
- ปรับแต่งรายการผลการค้นหา
- ตื่นตาตื่นใจกับวิวภูเขาไฟฟูจิ! ได้ที่'พิพิธภัณฑ์ภูเขาไฟฟูจิ เวิร์ลเฮอร์ริเทจเซ็นเตอร์'
บทความ
ตื่นตาตื่นใจกับวิวภูเขาไฟฟูจิ! ได้ที่'พิพิธภัณฑ์ภูเขาไฟฟูจิ เวิร์ลเฮอร์ริเทจเซ็นเตอร์'
- SHIZUOKA
- Mt.FUJI
- FUJISAN
- ท่องเที่ยว
- SPECIAL
- มรดกโลก
- พิพิธภัณฑ์
- ของฝาก
- ทัวร์
- อินสตาแกรม
- ถ่ายรูป
เพิ่งเปิดใหม่สดๆร้อนๆในวันที่ 23 ธันวาคม 2017 ที่ผ่านมากับ 'พิพิธภัณฑ์ภูเขาไฟฟูจิ เวิร์ลเฮอร์ริเทจเซ็นเตอร์ (Mt. Fuji World Heritage Center)' ภูเขาไฟฟูจิเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นและยังได้รับการขึ้นเป็นมรดกโลกในปี 2013 จากหอชมวิวนี้สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้ชัดแจ๋วจนไม่ถ่ายลงโซเชียลไปอวดเพื่อนๆไม่ได้แล้ว! ครั้งนี้ DiGJAPAN! จะพาไปแนะนำว่าภายในจะมีโซนไหนที่น่าสนใจ ไปเที่ยวใช้งบเท่าไร ของที่จัดแสดงที่ไม่ควรพลาดมีอะไรบ้าง ไปชมกันเลย!
ตึกก็ไม่ธรรมดา เพราะเขาออกแบบมาตามรูปร่างภูเขาไฟฟูจิแต่ในรูปแบบกลับหัว และด้านหน้าก็ยังเป็นน้ำให้เห็นเงาสะท้อนคล้ายกับภูเขาไฟฟูจินั่นเอง เก๋เว่อร์
จากตึกนี้ก็สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิของจริงได้อีกด้วย โดยเฉพาะช่วงเช้าๆวันที่อากาศแจ่มใสจะได้เห็นวิวสวยๆจากมุมนี้แน่นอน
บริเวณเอเทรียมก็มีรูปทรงแปลกตาไม่แพ้กัน จนต้องเข้าไปดูใกล้ๆกันเลย
ที่ผนังของตึกทรงกรวยนี้มีความพิเศษไม่แพ้กัน มองเข้าไปใกล้ๆเหมือนไม้มาสานกันเกิดเป็นช่องกว่า 8,000 ช่อง
แต่ที่พิเศษกว่าคือไม้ที่เห็นนี้ทำมาจากไม้จากเชิงภูเขาไฟฟูจิหรือที่เรียกว่าไม้ฟูจิฮิโนกินั่นเอง สาเหตุที่ดูเหมือนตะกร้าสานเกิดจากการเลาะเปลือกไม้ออกเพื่อให้ได้รูปร่างโค้งมน ลื่นมือเมื่อสัมผัส
สามารถมองเห็นวิวภูเขาไฟฟูจิแบบมุมกว้างตั้งแต่เชิงเขาไฟจนถึงยอดเขาเลยทีเดียว
ที่ชั้นบนสุดของหอชมวิว มีที่นั่งให้ได้ชมวิวภูเขาไฟฟูจิได้อย่างเต็มตาสวยงามราวกับภาพวาด
วันที่อากาศดีๆละก็ สามารถออกไปชมวิวบริเวณระเบียงด้านนอกได้อีกด้วย นอกจากนี้หินสีชารอบๆระเบียงที่เห็นนั้นเป็นหินที่เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟซึ่งอาจพัดมาถึงที่นี่ก็เป็นได้
ด้านบนภูเขาไฟฟูจิมีปากกล่องภูเขาไฟมากมาย เช่นที่จุดเคนงะมิเนะ (Kengamine)ที่เป็นจุดสูงสุด เชื่อกันว่าภูเขาไฟฟูจิมีมาตั้งแต่สมัยโบราณนานแสนนาน เพราะปรากฏอยู่บนภาพวาดโบราณฟูจิมันดาราตามความเชื่อของเซนนั่นเอง
ภายในมีโซนที่จัดแสดงความสวยงามของภูเขาไฟฟูจิ ถ่ายทอดความงามผ่านหน้าจอขนาดใหญ่ซึ่งนำเสนอเอกลักษณ์ของภูเขาไฟฟูจิที่ปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน ความงามของภูเขาไฟฟูจินี้สามารถพบเห็นในบทกลอนหรือภาพวาดของญี่ปุ่นได้บ่อยซึ่งที่นี่ก็ได้จัดแสดงภาพวาดและบทกลอนเกี่ยวกับภูเขาไฟฟูจิขนาดเท่าของจริงบทหน้าจออีกด้วย
ฝนและหิมะที่ตกบนภูเขาไฟฟูจิ นานวันเข้าก็จะค่อยๆไหลลงไฟสู่ทะเล ซึ่งภายในนิทรรศการก็มีมุมที่จัดแสดงกระบวนการทางธรรมชาตินี้เช่นกัน
ในโซนนี้จัดแสดงหินลาวาที่ปะทุมาจากภูเขาไฟและน้ำใต้ดินชั้นหิน ซึ่งบริเวณนี้สร้างโดยช่างใหญ่อย่างคุณฮาซาโด ชูเฮ ซึ่งนำเทคนิคการสร้างบ้านญี่ปุ่นสมัยโบราณที่ใช้ดินก่อพื้นและผนังมาใช้
ภูเขาไฟฟูจิเป็นเหมือนศูนย์รวมจิตใจของชาวญี่ปุ่นและเป็นแรงบันดาลใจให้แก่งานศิลปะหลายๆอย่างแต่ภูเขาไฟฟูจิก็ยังถือเป็นภูเขาไฟที่ยังไม่ดับจึงยังมีโอกาสระเบิดได้เสมอ ดังนั้นในโซนนี้จึงเป็นพื้นที่ที่ให้ผู้เข้าชมนิทรรศการเขียนข้อความ คำอวยพรให้กับภูเขาไฟฟูจิอันเป็นที่รักนี้ลงบนกระดาษรูปทรงเดียวกับฟูจิซัง ใครมีโอกาสมาอีกครั้ง ก็ลองกลับมาดูข้อความของตัวเองกันนะ
บริเวณระเบียงมีก้อนหินที่เรียงตัวกันจนกลายเป็นภูเขาเล็กๆจนกลายเป็นสถูปหรือที่เรียกว่าฟูจิสึกะ เหมือนกับที่บนภูเขาไฟฟูจิของจริงที่ให้ผู้ที่ศรัทธาได้มาเคารพสักการะ
ภายในห้องจัดนิทรรศการ ยังมีการจัดแสดงภาพวาด ผลงานศิลปะอันล้ำค่าต่างๆที่ได้รับแรงบันดาลใจจากภูเขาไฟฟูจิ นอกจากนี้ยังมีจอขนาดใหญ่ถึง 265 นิ้ว ภาพคมชัดระดับ 4K ถ่ายทอดความงามของวัฒนธรรมและธรรมชาติต่างๆเกี่ยวกับภูเขาไฟฟูจิ ระยะเวลาในการฉายวิดีโอทั้งหมด 7 นาที ซึ่งใน 1 ชั่วโมงฉายทั้งหมด 4 ครั้ง
เมนูที่พลาดไม่ได้คือฮอตดอกไส้กรอกชุ่มช่ำ ที่พิเศษคือไส้กรอกหมูที่ทำนั้นทำมาจากหมูที่เลี้ยงโดยโยเกิร์ตบริเวณเชิงภูเขาไฟฟูจินั่นเอง ซอสสีชาที่เห็นนั้นเป็นของพิเศษเฉพาะจังหวัดชิซุโอะกะ รสชาติเข้มข้นและหอมสดชื่น อย่าลืมลองไปทานกัน
นอกจากนี้ยังมีไอศครีมรูปภูเขาไฟลาวา (ราคา 378 เยน) และซอฟต์ครีมรูปทรงภูเขาไฟฟูจิ (ราคา 399 เยน) อีกด้วย
ที่อยู่: 5-12 Miyamachou Fujinomiya, Shizuoka
เวลาเปิดบริการ: 9.00 - 17.00 น. (เดือนกรกฏาคมและสิงหาคมเปิดถึง 18.00 น.) ※สามารถเข้าได้ก่อนเวลาปิดบริการ 30 นาที
วันหยุด: วันอังคารที่ 3 ของเดือนหรือวันที่ปิดซ่อมบำรุง
ค่าเข้า: 【นิทรรศการถาวร】300 เยน เด็ก นักเรียน นักศึกษาและผู้ที่อายุมากกว่า 70 ปีเข้าฟรี 【นิทรรศการชั่วคราว】แล้วแต่นิทรรศการ
วิธีการเดินทาง:จากรถไฟ JR สาย Minobu สถานี Fujinomiya เดิน 8 นาที หรือนั่งรถบัสด่วนพิเศษที่มุ่งหน้าไปภูเขาไฟฟูจิลงที่สถานี Mt.fuji World Heritage Centre 36 นาทีจากรถไฟชิงกันเซ็งสาย Tokaido สถานี Shinfuji
※วันหยุดนักขัตฤกษ์ เสาร์และอาทิตย์ ตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม-3 มกราคม, 13-16 สิงหาคม มีรถบัสด่วนพิเศษที่มุ่งหน้าไปยังโรงแรมคิวคะมูระฟูจิให้บริการ
เว็บไซต์(ภาษาญี่ปุ่น) : คลิ๊กที่นี่
เดินเพียง 3 นาทีก็เข้ามาถึงศาลเจ้าฟูจิซังฮงกูเซ็นเก็นไทชะ โดยที่ศาลเจ้าแห่งนี้มีประวัติยาวนานกว่า 2000 ปี
ด้านในมีรูปปั้นจำลองการแข่งยิงธนูบนหลังม้าในเทศกาลยาบุซาเมซึ่งจะจัดประมาณวันที่ 4-6 พฤษภาคมของทุกปี โดยจะจัดการแข่งขันบริเวณด้านหน้าประตูทางเข้าใหญ่แห่งนี้
เข้ามาด้านในศาลเจ้า ก็จะพบกับอาคารหลักที่เรียกว่าเซ็นเก็งซึคุริ ซึ่งถือว่าเป็นมรดกล้ำค่าของประเทศ
ด้านในมีหินภูเขาไฟและหินAntarcticite ซึ่งถือว่าเป็นของที่หาชมได้ยากเช่นกัน
เดินไปด้านหลังของศาลเจ้า ก็จะพบกับสระน้ำวาคุทามะอิเคะซึ่งเกิดจากน้ำฝนและหิมะที่ตกบนภูเขาไฟฟูจิไหลมารวมกัน น้ำใสแจ๋วจนเห็นปลาและสาหร่ายชัดแจ๋วเลยทีเดียว
สมัยก่อนก่อนคนที่จะปีนขึ้นบนภูเขาไฟฟูจิก็มักจะมาชำระล้างร่างกายกันที่สระน้ำแห่งนี้กันก่อน อุณหภูมิของน้ำตลอดทั้งปีคงไว้ที่ 13 องศา ดังนั้นหากได้มาลองสัมผัสผิวน้ำดูจะรู้สึกว่าเป็นน้ำเย็นในฤดูร้อนและเป็นน้ำอุ่นในฤดูหนาวนั่นเอง
ด้านหลังสระน้ำแห่งนี้มีศาลเจ้ามิซุยาจินจะ สามารถมาดื่มน้ำจากสระน้ำวาคุทามะอิเคะและสามารถนำภาชนะมารองน้ำกลับไปดื่มได้ด้วย
ที่อยู่: 1-1 Miya-cho Fujinomiya-shi, Shizuoka
เวลาเปิด: เดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ เปิดตั้งแต่ 6.00 - 19.00 น. เดือนมีนาคม-ตุลาคม เปิดถึง 19.30 น. และเดือนเมษายน-กันยายน ตั้งแต่ 5.00-20.00 น.
วิธีการเดินทาง: เดิน 10 นาทีจากสถานีรถไฟ JR สาย Minobu สถานี Fujiomiya
เว็บไซต์(ภาษาอังกฤษ) : คลิ๊กที่นี่
'ยากิโซบะฟูจิโอมิยะ' ของที่ร้านมุซุบิยะ (むすび屋) ที่เห็นแล้วเป็นต้องสะดุดตา เพราะมีสาหร่ายรูปภูเขาไฟฟูจิและไข่ดาวสามเหลี่ยมเหมือนฟูจิซัง นอกจากน่ารักแล้วยังสามารถเลือกได้ว่าจะทานแบบรสซอสหรือรสเกลือ น่ารักขนาดนี้อย่าลืมถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกก่อนทานด้วยละ อิอิ
เมนูในภาพคือ 'ฟูจิซัง' 650 เยน ถ้าเลือกแบบไม่ใส่ท็อปปิ้ง 500 เยน
นอกจากนี้ที่ร้านมุซุบิยะแห่งนี้ยังข้าวปั้นและขนมดังโงะขายอีกด้วย เจ้าของเขาฝากมาบอกเลยว่าใช้น้ำแร่จากภูเขาไฟฟูจิในการทำอาหาร รับรองว่าอร่อยแน่นอน!
'ยากิโซบะฟูจิโอมิยะ' มีขายหลายร้านลองซื้อมาทานและเปรียบเทียบรสชาติกันดูนะ
ที่ร้านโอมิยะโยโกโชมีน้ำแร่จากภูเขาไฟฟูจิเช่นกัน สามารถขอแก้วกระดาษได้ที่ร้านแล้วรองดื่มได้ตามอัธยาศัย น้ำรสชาติอ่อนๆอร่อยสุดๆ
ท้องอิ่มกันแล้วก็ไปตามหาของฝากกันดีกว่า แนะนำให้ไปที่ร้านคิตะกาวะ เพราะมีของขึ้นชื่อที่ได้รับความนิยมอย่างตัวอักษรจากลายพู่กันและมินิฟูจิซังที่ทำมาจากทรายบนภูเขา
ว่าแต่ตัวอักษรนั้นเขียนว่าอะไรกันนะ ลองถามพนักงานขายในร้านกันดูได้เลย 1 ใบราคา 500 เบน
ของฝากอันนี้เป็นฟูจิซังจิ๋วที่วางบนฝ่ามือได้พอดี ราคา 500 เยนต่อ 1 ชิ้น
นอกจากนี้ที่ร้านยังมีขนมและเหล้าสาเกญี่ปุ่นขายอีกด้วย
ที่อยู่: 4-23 Miya-cho Fujinomiya-shi, Shizuoka
เวลาเปิด: 10.00-17.30 น.
วันหยุด: ไม่มี
วิธีการเดินทาง: เดิน 10 นาทีจากสถานีรถไฟ JR สาย Minobu สถานี Fujiomiya
เว็บไซต์(ภาษาญี่ปุ่น) : คลิ๊กที่นี่
ทัวร์เอ็นยะ (En-ya) จะพาเราเข้าชมอาร์ตแกลอรี่ ซึ่งป็นสถานที่จัดแสดงผลงานของนักเขียน ศิลปินที่ใช้วัสดุ อุปกรณ์ต่างๆจากที่ฟูจิโอมิยะแห่งนี้
ถ้วยรูปร่างแปลกตาที่เหมือนภูเขาไฟฟูจิกลับด้านนี้เป็นผลงานของศิลปินที่อาศัยอยู่ที่ฟูจิโอมิยะ 1 ชิ้นราคา 2,700 เยน เหมาะสำหรับซื้อกลับไปเป็นของฝากมากๆเพราะดูออริจินัลว่ามาจากที่นี่จริงๆ ใครแวะมาที่นี่อาจได้ของฝากเก๋ๆกลับไปก็เป็นได้นะ
นอกจากนี้ทัวร์เอ็นยะ (En-ya) ยังพาเราไปเปิดประสบการณ์ร่วมกับคนท่องถิ่นในย่านร้านค้าอีกด้วย เช่นการลองใส่กิโมโนและการลองทำขนมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ทัวร์นี้ไปกับคนท้องถิ่นที่รู้จักพื้นที่อย่างดีคอยอธิบายเป็นภาษาอังกฤษ เข้าใจง่าย ได้สัมผัสวัฒนธรรมแบบญี่ปุ่นแบบแท้ๆ
ทัวร์เอ็นยะ (En-ya) ยังพาเราขี่จักรยานภูเขารอบฟูจิซังเพื่อเรียนรู้วัฒนธรรมรวมถึงการเทรคกิ้งรอบๆปากปล่องภูเขาไฟโฮเอคะโคบนภูเขาไฟฟูจิอีกด้วย
ทัวร์เอ็นยะ (En-ya) จะช่วยเปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวใหม่ๆ ทั้งได้สนุกและเรียนรู้เรื่องราวต่างๆจากคนท้องถิ่นและยังสามารถชมสถานที่ท่องเที่ยวแปลกตาที่ฟูจิโอมิยะ ซึ่งเป็นปากทางก่อนเข้าสู่ภูเขาไฟฟูจิ หากใครสนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ ทัวร์เอ็นยะ (En-ya) แพ็คเกจทัวร์มีตั้งแต่ราคา 16200 เยนเป็นต้นไป
ที่อยู่: 4-5 Miya-cho Fujinomiya-shi, Shizuoka
เวลาเปิด: 10.00-16.30 น.
วันหยุด: วันอาทิตย์และพุธ
วิธีการเดินทาง: เดิน 10 นาทีจากสถานีรถไฟ JR สาย Minobu สถานี Fujiomiya
เว็บไซต์ : คลิ๊กที่นี่
แนะนำ 'พิพิธภัณฑ์ภูเขาไฟฟูจิ เวิร์ลเฮอร์ริเทจเซ็นเตอร์' และแหล่งท่องเที่ยวรอบๆ แต่ละที่ยังสามารถเดินทางจากสถานีรถไฟฟูจิโอมิยะได้สะดวก จะเลือกมาเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับจากโตเกียวหรือจะเที่ยวต่อโดยแวะพักที่คาวากุจิโกะ 2 วัน 1 คืนก็ดีไม่เบา
ก่อตั้งขึ้นเพื่อให้คนรุ่นหลังได้รู้จักภูเขาไฟฟูจิ มรดกโลกอันสำคัญแห่งนี้
พิพิธภัณฑ์ภูเขาไฟฟูจิเวิร์ลเฮอร์ริเทจเซ็นเตอร์ จังหวัดชิซูโอกะแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นแหล่งรวบรวมเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับภูเขาไฟฟูจิ ไม่ว่าจะเป็นด้านประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมและระบบธรรมชาติให้คนรุ่นหลังได้รู้จักนั่นเองตึกก็ไม่ธรรมดา เพราะเขาออกแบบมาตามรูปร่างภูเขาไฟฟูจิแต่ในรูปแบบกลับหัว และด้านหน้าก็ยังเป็นน้ำให้เห็นเงาสะท้อนคล้ายกับภูเขาไฟฟูจินั่นเอง เก๋เว่อร์
จากตึกนี้ก็สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิของจริงได้อีกด้วย โดยเฉพาะช่วงเช้าๆวันที่อากาศแจ่มใสจะได้เห็นวิวสวยๆจากมุมนี้แน่นอน
บริเวณเอเทรียมก็มีรูปทรงแปลกตาไม่แพ้กัน จนต้องเข้าไปดูใกล้ๆกันเลย
ที่ผนังของตึกทรงกรวยนี้มีความพิเศษไม่แพ้กัน มองเข้าไปใกล้ๆเหมือนไม้มาสานกันเกิดเป็นช่องกว่า 8,000 ช่อง
แต่ที่พิเศษกว่าคือไม้ที่เห็นนี้ทำมาจากไม้จากเชิงภูเขาไฟฟูจิหรือที่เรียกว่าไม้ฟูจิฮิโนกินั่นเอง สาเหตุที่ดูเหมือนตะกร้าสานเกิดจากการเลาะเปลือกไม้ออกเพื่อให้ได้รูปร่างโค้งมน ลื่นมือเมื่อสัมผัส
ด้านในก็ได้บรรยากาศเหมือนปีนภูเขาไฟฟูจิจริงๆ
พิพิธภัณฑ์ภูเขาไฟฟูจิ เวิร์ลเฮอร์ริเทจเซ็นเตอร์แห่งนี้มีทั้งหมด 6 ชั้น แถมยังแบ่งเป็นทางลาดที่มีความยาว 193 เมตรพร้อมฉายเงานักปีนเขาคนอื่นๆอีก ได้บรรยากาศเหมือนกำลังปีนภูเขาไฟจริงๆ (แต่ไม่ต้องห่วงที่นี่เขาก็มีลิฟต์ไว้รองรับเช่นกัน)สามารถมองเห็นวิวภูเขาไฟฟูจิแบบมุมกว้างตั้งแต่เชิงเขาไฟจนถึงยอดเขาเลยทีเดียว
ที่ชั้นบนสุดของหอชมวิว มีที่นั่งให้ได้ชมวิวภูเขาไฟฟูจิได้อย่างเต็มตาสวยงามราวกับภาพวาด
วันที่อากาศดีๆละก็ สามารถออกไปชมวิวบริเวณระเบียงด้านนอกได้อีกด้วย นอกจากนี้หินสีชารอบๆระเบียงที่เห็นนั้นเป็นหินที่เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟซึ่งอาจพัดมาถึงที่นี่ก็เป็นได้
ไปสำรวจภายในนิทรรศการกันดีกว่า
ภูเขาไฟฟูจิเป็นภูเขาไฟที่ยังมีการปะทุอยู่ดังนั้นภายในนิทรรศการจึงมีการจำลองลูกโลกใบใหญ่เพื่อบอกต้นกำเนิดของภูเขาไฟและสาเหตุการปะทุ เข้าใจง่ายสุดๆด้านบนภูเขาไฟฟูจิมีปากกล่องภูเขาไฟมากมาย เช่นที่จุดเคนงะมิเนะ (Kengamine)ที่เป็นจุดสูงสุด เชื่อกันว่าภูเขาไฟฟูจิมีมาตั้งแต่สมัยโบราณนานแสนนาน เพราะปรากฏอยู่บนภาพวาดโบราณฟูจิมันดาราตามความเชื่อของเซนนั่นเอง
ภายในมีโซนที่จัดแสดงความสวยงามของภูเขาไฟฟูจิ ถ่ายทอดความงามผ่านหน้าจอขนาดใหญ่ซึ่งนำเสนอเอกลักษณ์ของภูเขาไฟฟูจิที่ปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน ความงามของภูเขาไฟฟูจินี้สามารถพบเห็นในบทกลอนหรือภาพวาดของญี่ปุ่นได้บ่อยซึ่งที่นี่ก็ได้จัดแสดงภาพวาดและบทกลอนเกี่ยวกับภูเขาไฟฟูจิขนาดเท่าของจริงบทหน้าจออีกด้วย
ฝนและหิมะที่ตกบนภูเขาไฟฟูจิ นานวันเข้าก็จะค่อยๆไหลลงไฟสู่ทะเล ซึ่งภายในนิทรรศการก็มีมุมที่จัดแสดงกระบวนการทางธรรมชาตินี้เช่นกัน
ในโซนนี้จัดแสดงหินลาวาที่ปะทุมาจากภูเขาไฟและน้ำใต้ดินชั้นหิน ซึ่งบริเวณนี้สร้างโดยช่างใหญ่อย่างคุณฮาซาโด ชูเฮ ซึ่งนำเทคนิคการสร้างบ้านญี่ปุ่นสมัยโบราณที่ใช้ดินก่อพื้นและผนังมาใช้
ภูเขาไฟฟูจิเป็นเหมือนศูนย์รวมจิตใจของชาวญี่ปุ่นและเป็นแรงบันดาลใจให้แก่งานศิลปะหลายๆอย่างแต่ภูเขาไฟฟูจิก็ยังถือเป็นภูเขาไฟที่ยังไม่ดับจึงยังมีโอกาสระเบิดได้เสมอ ดังนั้นในโซนนี้จึงเป็นพื้นที่ที่ให้ผู้เข้าชมนิทรรศการเขียนข้อความ คำอวยพรให้กับภูเขาไฟฟูจิอันเป็นที่รักนี้ลงบนกระดาษรูปทรงเดียวกับฟูจิซัง ใครมีโอกาสมาอีกครั้ง ก็ลองกลับมาดูข้อความของตัวเองกันนะ
บริเวณระเบียงมีก้อนหินที่เรียงตัวกันจนกลายเป็นภูเขาเล็กๆจนกลายเป็นสถูปหรือที่เรียกว่าฟูจิสึกะ เหมือนกับที่บนภูเขาไฟฟูจิของจริงที่ให้ผู้ที่ศรัทธาได้มาเคารพสักการะ
ภายในห้องจัดนิทรรศการ ยังมีการจัดแสดงภาพวาด ผลงานศิลปะอันล้ำค่าต่างๆที่ได้รับแรงบันดาลใจจากภูเขาไฟฟูจิ นอกจากนี้ยังมีจอขนาดใหญ่ถึง 265 นิ้ว ภาพคมชัดระดับ 4K ถ่ายทอดความงามของวัฒนธรรมและธรรมชาติต่างๆเกี่ยวกับภูเขาไฟฟูจิ ระยะเวลาในการฉายวิดีโอทั้งหมด 7 นาที ซึ่งใน 1 ชั่วโมงฉายทั้งหมด 4 ครั้ง
พักสักครู่และซื้อของฝากได้ที่มิวเซียมช้อปแอนด์คาเฟ่
บริเวณชั้น 1 มีร้านขายของที่ระลึกที่เต็มไปด้วยของฝากจากจังหวัดชิซึโอกะและสินค้าเกี่ยวกับภูเขาไฟฟูจิ ส่วนใครอยากหาอะไรรองท้องก่อนก็สามารถแวะทานได้ที่คาเฟ่เช่นกัน สินค้าที่เราอยากแนะนำเป็นสินค้าจากมิสยูนิเวิร์สคุณโมริ ริโย ที่มีบ้านเกิดที่จังหวัดชิซุโอะกะแห่งนี้นี่เองเมนูที่พลาดไม่ได้คือฮอตดอกไส้กรอกชุ่มช่ำ ที่พิเศษคือไส้กรอกหมูที่ทำนั้นทำมาจากหมูที่เลี้ยงโดยโยเกิร์ตบริเวณเชิงภูเขาไฟฟูจินั่นเอง ซอสสีชาที่เห็นนั้นเป็นของพิเศษเฉพาะจังหวัดชิซุโอะกะ รสชาติเข้มข้นและหอมสดชื่น อย่าลืมลองไปทานกัน
นอกจากนี้ยังมีไอศครีมรูปภูเขาไฟลาวา (ราคา 378 เยน) และซอฟต์ครีมรูปทรงภูเขาไฟฟูจิ (ราคา 399 เยน) อีกด้วย
รายละเอียด
Mt.fuji World Heritage Centerที่อยู่: 5-12 Miyamachou Fujinomiya, Shizuoka
เวลาเปิดบริการ: 9.00 - 17.00 น. (เดือนกรกฏาคมและสิงหาคมเปิดถึง 18.00 น.) ※สามารถเข้าได้ก่อนเวลาปิดบริการ 30 นาที
วันหยุด: วันอังคารที่ 3 ของเดือนหรือวันที่ปิดซ่อมบำรุง
ค่าเข้า: 【นิทรรศการถาวร】300 เยน เด็ก นักเรียน นักศึกษาและผู้ที่อายุมากกว่า 70 ปีเข้าฟรี 【นิทรรศการชั่วคราว】แล้วแต่นิทรรศการ
วิธีการเดินทาง:จากรถไฟ JR สาย Minobu สถานี Fujinomiya เดิน 8 นาที หรือนั่งรถบัสด่วนพิเศษที่มุ่งหน้าไปภูเขาไฟฟูจิลงที่สถานี Mt.fuji World Heritage Centre 36 นาทีจากรถไฟชิงกันเซ็งสาย Tokaido สถานี Shinfuji
※วันหยุดนักขัตฤกษ์ เสาร์และอาทิตย์ ตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม-3 มกราคม, 13-16 สิงหาคม มีรถบัสด่วนพิเศษที่มุ่งหน้าไปยังโรงแรมคิวคะมูระฟูจิให้บริการ
เว็บไซต์(ภาษาญี่ปุ่น) : คลิ๊กที่นี่
แนะนำที่เที่ยวรอบๆพิพิธภัณฑ์ภูเขาไฟฟูจิ เวิร์ลเฮอร์ริเทจเซ็นเตอร์
รอบๆพิพิธภัณฑ์ภูเขาไฟฟูจิ เวิร์ลเฮอร์ริเทจเซ็นเตอร์ มีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย ก่อนอื่นไปแวะศักการะสิ่งศักดิ์สิทธิกันที่ศาลเจ้าฟูจิซังฮงกูเซ็นเก็นไทชะ (Fujisanhongusengentaisha)เดินเพียง 3 นาทีก็เข้ามาถึงศาลเจ้าฟูจิซังฮงกูเซ็นเก็นไทชะ โดยที่ศาลเจ้าแห่งนี้มีประวัติยาวนานกว่า 2000 ปี
ด้านในมีรูปปั้นจำลองการแข่งยิงธนูบนหลังม้าในเทศกาลยาบุซาเมซึ่งจะจัดประมาณวันที่ 4-6 พฤษภาคมของทุกปี โดยจะจัดการแข่งขันบริเวณด้านหน้าประตูทางเข้าใหญ่แห่งนี้
เข้ามาด้านในศาลเจ้า ก็จะพบกับอาคารหลักที่เรียกว่าเซ็นเก็งซึคุริ ซึ่งถือว่าเป็นมรดกล้ำค่าของประเทศ
ด้านในมีหินภูเขาไฟและหินAntarcticite ซึ่งถือว่าเป็นของที่หาชมได้ยากเช่นกัน
เดินไปด้านหลังของศาลเจ้า ก็จะพบกับสระน้ำวาคุทามะอิเคะซึ่งเกิดจากน้ำฝนและหิมะที่ตกบนภูเขาไฟฟูจิไหลมารวมกัน น้ำใสแจ๋วจนเห็นปลาและสาหร่ายชัดแจ๋วเลยทีเดียว
สมัยก่อนก่อนคนที่จะปีนขึ้นบนภูเขาไฟฟูจิก็มักจะมาชำระล้างร่างกายกันที่สระน้ำแห่งนี้กันก่อน อุณหภูมิของน้ำตลอดทั้งปีคงไว้ที่ 13 องศา ดังนั้นหากได้มาลองสัมผัสผิวน้ำดูจะรู้สึกว่าเป็นน้ำเย็นในฤดูร้อนและเป็นน้ำอุ่นในฤดูหนาวนั่นเอง
ด้านหลังสระน้ำแห่งนี้มีศาลเจ้ามิซุยาจินจะ สามารถมาดื่มน้ำจากสระน้ำวาคุทามะอิเคะและสามารถนำภาชนะมารองน้ำกลับไปดื่มได้ด้วย
รายละเอียด
Fujisanhongu Sengentaishaที่อยู่: 1-1 Miya-cho Fujinomiya-shi, Shizuoka
เวลาเปิด: เดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ เปิดตั้งแต่ 6.00 - 19.00 น. เดือนมีนาคม-ตุลาคม เปิดถึง 19.30 น. และเดือนเมษายน-กันยายน ตั้งแต่ 5.00-20.00 น.
วิธีการเดินทาง: เดิน 10 นาทีจากสถานีรถไฟ JR สาย Minobu สถานี Fujiomiya
เว็บไซต์(ภาษาอังกฤษ) : คลิ๊กที่นี่
มาลองกินของพื้นเมืองอย่าง'ยากิโซบะฟูจิโอมิยะ'กัน
หน้าศาลเจ้าฟูจิซังฮงกูเซ็นเก็นไทชะมีร้านโอมิยะโยโกะโชว (お宮横丁) ที่ขึ้นชื่อเรื่องยากิโซบะฟูจิโอมิยะ ทานเสร็จแล้วยังสามารถหาซื้อของฝากที่ร้านนี้ได้เช่นกัน'ยากิโซบะฟูจิโอมิยะ' ของที่ร้านมุซุบิยะ (むすび屋) ที่เห็นแล้วเป็นต้องสะดุดตา เพราะมีสาหร่ายรูปภูเขาไฟฟูจิและไข่ดาวสามเหลี่ยมเหมือนฟูจิซัง นอกจากน่ารักแล้วยังสามารถเลือกได้ว่าจะทานแบบรสซอสหรือรสเกลือ น่ารักขนาดนี้อย่าลืมถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกก่อนทานด้วยละ อิอิ
เมนูในภาพคือ 'ฟูจิซัง' 650 เยน ถ้าเลือกแบบไม่ใส่ท็อปปิ้ง 500 เยน
นอกจากนี้ที่ร้านมุซุบิยะแห่งนี้ยังข้าวปั้นและขนมดังโงะขายอีกด้วย เจ้าของเขาฝากมาบอกเลยว่าใช้น้ำแร่จากภูเขาไฟฟูจิในการทำอาหาร รับรองว่าอร่อยแน่นอน!
'ยากิโซบะฟูจิโอมิยะ' มีขายหลายร้านลองซื้อมาทานและเปรียบเทียบรสชาติกันดูนะ
ที่ร้านโอมิยะโยโกโชมีน้ำแร่จากภูเขาไฟฟูจิเช่นกัน สามารถขอแก้วกระดาษได้ที่ร้านแล้วรองดื่มได้ตามอัธยาศัย น้ำรสชาติอ่อนๆอร่อยสุดๆ
ท้องอิ่มกันแล้วก็ไปตามหาของฝากกันดีกว่า แนะนำให้ไปที่ร้านคิตะกาวะ เพราะมีของขึ้นชื่อที่ได้รับความนิยมอย่างตัวอักษรจากลายพู่กันและมินิฟูจิซังที่ทำมาจากทรายบนภูเขา
ว่าแต่ตัวอักษรนั้นเขียนว่าอะไรกันนะ ลองถามพนักงานขายในร้านกันดูได้เลย 1 ใบราคา 500 เบน
ของฝากอันนี้เป็นฟูจิซังจิ๋วที่วางบนฝ่ามือได้พอดี ราคา 500 เยนต่อ 1 ชิ้น
นอกจากนี้ที่ร้านยังมีขนมและเหล้าสาเกญี่ปุ่นขายอีกด้วย
รายละเอียด
Omiya Yokochoที่อยู่: 4-23 Miya-cho Fujinomiya-shi, Shizuoka
เวลาเปิด: 10.00-17.30 น.
วันหยุด: ไม่มี
วิธีการเดินทาง: เดิน 10 นาทีจากสถานีรถไฟ JR สาย Minobu สถานี Fujiomiya
เว็บไซต์(ภาษาญี่ปุ่น) : คลิ๊กที่นี่
ทัวร์สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะ
ทัวร์เอ็นยะ (En-ya) เป็นทัวร์ที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างพิพิธภัณฑ์ภูเขาไฟฟูจิ เวิร์ลเฮอร์ริเทจเซ็นเตอร์ และศาลเจ้าฟูจิซังฮงกูเซ็นเก็นไทชะ หลักๆเพื่อจัดทัวร์สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ใครสนใจละก็ลองสังเกตตัวอักษร [i] ที่ย่อมาจาก Information ไว้ได้เลยทัวร์เอ็นยะ (En-ya) จะพาเราเข้าชมอาร์ตแกลอรี่ ซึ่งป็นสถานที่จัดแสดงผลงานของนักเขียน ศิลปินที่ใช้วัสดุ อุปกรณ์ต่างๆจากที่ฟูจิโอมิยะแห่งนี้
ถ้วยรูปร่างแปลกตาที่เหมือนภูเขาไฟฟูจิกลับด้านนี้เป็นผลงานของศิลปินที่อาศัยอยู่ที่ฟูจิโอมิยะ 1 ชิ้นราคา 2,700 เยน เหมาะสำหรับซื้อกลับไปเป็นของฝากมากๆเพราะดูออริจินัลว่ามาจากที่นี่จริงๆ ใครแวะมาที่นี่อาจได้ของฝากเก๋ๆกลับไปก็เป็นได้นะ
นอกจากนี้ทัวร์เอ็นยะ (En-ya) ยังพาเราไปเปิดประสบการณ์ร่วมกับคนท่องถิ่นในย่านร้านค้าอีกด้วย เช่นการลองใส่กิโมโนและการลองทำขนมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ทัวร์นี้ไปกับคนท้องถิ่นที่รู้จักพื้นที่อย่างดีคอยอธิบายเป็นภาษาอังกฤษ เข้าใจง่าย ได้สัมผัสวัฒนธรรมแบบญี่ปุ่นแบบแท้ๆ
ทัวร์เอ็นยะ (En-ya) ยังพาเราขี่จักรยานภูเขารอบฟูจิซังเพื่อเรียนรู้วัฒนธรรมรวมถึงการเทรคกิ้งรอบๆปากปล่องภูเขาไฟโฮเอคะโคบนภูเขาไฟฟูจิอีกด้วย
ทัวร์เอ็นยะ (En-ya) จะช่วยเปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวใหม่ๆ ทั้งได้สนุกและเรียนรู้เรื่องราวต่างๆจากคนท้องถิ่นและยังสามารถชมสถานที่ท่องเที่ยวแปลกตาที่ฟูจิโอมิยะ ซึ่งเป็นปากทางก่อนเข้าสู่ภูเขาไฟฟูจิ หากใครสนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ ทัวร์เอ็นยะ (En-ya) แพ็คเกจทัวร์มีตั้งแต่ราคา 16200 เยนเป็นต้นไป
รายละเอียด
En-yaที่อยู่: 4-5 Miya-cho Fujinomiya-shi, Shizuoka
เวลาเปิด: 10.00-16.30 น.
วันหยุด: วันอาทิตย์และพุธ
วิธีการเดินทาง: เดิน 10 นาทีจากสถานีรถไฟ JR สาย Minobu สถานี Fujiomiya
เว็บไซต์ : คลิ๊กที่นี่
แนะนำ 'พิพิธภัณฑ์ภูเขาไฟฟูจิ เวิร์ลเฮอร์ริเทจเซ็นเตอร์' และแหล่งท่องเที่ยวรอบๆ แต่ละที่ยังสามารถเดินทางจากสถานีรถไฟฟูจิโอมิยะได้สะดวก จะเลือกมาเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับจากโตเกียวหรือจะเที่ยวต่อโดยแวะพักที่คาวากุจิโกะ 2 วัน 1 คืนก็ดีไม่เบา
ถ้าชอบบทความนี้ กดถูกใจให้ด้วยนะ
บทความนี้เขียนขึ้นเมื่อ 24/01/2018 เรื่องโดย:กองบรรณาธิการ DiGJAPAN!
ความคิดเห็นล่าสุด | 0ความคิดเห็น
หากเป็นสมาชิก DiGJAPAN!
จะสามารถโพสต์คอมเม้นท์ได้
สมัครสมาชิก