- TOP
- ปรับแต่งรายการผลการค้นหา
- นั่งรถไฟตะลุยย่านอาซากุสะ คาเมะอิโดะและคิตะเซ็นจูแล้วมาสัมผัสความเป็นโตเกียวแท้ๆกัน!
บทความ
นั่งรถไฟตะลุยย่านอาซากุสะ คาเมะอิโดะและคิตะเซ็นจูแล้วมาสัมผัสความเป็นโตเกียวแท้ๆกัน!
'ชิตะมะจิ' ในภาษาญี่ปุ่นคือชื่อเรียกถนนหรือแหล่งที่ยังคงให้บรรยากาศเก่าๆชวนให้หวนนึกถึงวันวาน ย่านชิตะมะจินี้ไม่ได้เป็นเพียงแหล่งท่องเที่ยวที่คึกคักเท่านั้น แต่ตอนนี้ก็ยังเป็นแหล่งเดินเล่นดูบรรยากาศเก่าๆยอดฮิตอีกด้วย ครั้งนี้เราจะพาไปตะลุยย่านชิตะมะจิรอบๆโตเกียวสกายทรีที่ประกอบไปด้วยบริเวณย่านอาซากุสะ คาเมะอิโดะและคิตะเซ็นจูด้วยตั๋วรถไฟแบบวันเดียวเที่ยวได้ทั้งวันและไม่จำกัดจำนวนเที่ยว! จะสนุกขนาดไหนรีบออกเดินทางกันเลย!
ตั๋ว Tokyo Skytree Stroll Around Free Pass ของผู้ใหญ่ราคา 510 เยน (เด็ก 250 เยน) สามารถเที่ยวได้รอบโตเกียวสกายทรีแบบไม่จำกัดจำนวนเที่ยว โดยสงวนสิทธิ์ให้ใช้ได้เฉพาะวันที่ซื้อตั๋วเท่านั้น Asakusa-Kitasenju, Hikifune-Oshiage และ Hikifune-Kameido แบบไม่จำกัดรอบการนั่ง เหมาะมากสำหรับใครอยากจะตะลุยเที่ยวรอบๆโตเกียวสกายทรีเพราะคุ้มสุดๆ!
※เก็บรวบรวมข้อมูลเมื่อวันที่ มีนาคม 2018
หลังจากตรวจสอบเส้นทางก็ไปซื้อตั๋วกันเลย ก่อนอื่นก็กดเลือกปุ่มที่เขียนว่า Coupon จากนั้นก็เลือกตั๋ว Tokyo Skytree Stroll Around Free Pass ดังที่แสดงบนหน้าจอ
ข้อจำกัดในการใช้ตั๋วมีดังนี้
◎หากจะใช้บริการรถไฟด่วนพิเศษจำเป็นต้องซื้อตั๋วรถด่วนพิเศษแยกต่างหาก
◎ไม่สามารถขอคืนเงินหลังจากออกตั๋ว
◎ไม่สามารถลงสถานีนอกเส้นทางที่กำหนด
◎หากตั๋วสูญหายไม่สามารถขอออกตั๋วใหม่ได้
◎ตั๋ว Free Pass นี้ไม่สามารถใช้เป็นตั๋วเข้าจุดชมวิวของโตเกียวสกายทรี
※ตั๋วสามารถใช้ได้ภายในวันที่ซื้อเท่านั้น
รายละเอียดเกี่ยวกับตั๋ว Tokyo Skytree Stroll Around Free Pass คลิกที่นี่ (ภาษาญี่ปุ่น)
สำหรับใครที่ยังไม่ค่อยคุ้นชินกับย่านชิตะมะจิละก็ แนะนำให้เริ่มสตาร์ตจากอาซากุสะก่อน เดินเล่นลัดเลาะไปตามแม่น้ำสุมิตะ ได้เห็นท้องฟ้ากว้างๆ ถ่ายรูปคู่กับโตเกียวสกายทรี ถือว่าเป็นอีกจุดไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้เลยละ!
และแน่นอนมาเที่ยวย่านนี้ทั้งทีก็ต้องแวะมาที่วัดอาซากุสะและถนนช้อปปิ้งนากามิเสะ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เรียกได้ว่ามาเมื่อไรก็คึกคัก น่าเที่ยวเสมอ ครั้งนี้เรามาถึงกันตั้งแต่ 7 โมงเช้า บรรยากาศเงียบสงบผิดกับช่วงปกติเสียจริงๆ
สวนสนุกมีโรลเลอร์โคสเตอร์ที่สร้างเมื่อปี ค.ศ.1953 รวมๆแล้วก็มีประวัติกว่า 60 ปี ความเร็วสูงสุด 42 กิโลเมตร เหมือนได้เหาะไปรอบๆสวนสนุก สนุกมากบอกเลยว่าฟิน～
อีกหนึ่งเครื่องเล่นที่แสนน่ารัก ถูกใจน้องๆหนูๆแน่นอน แต่ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ก็มาลองขี่หมีแพนด้าหน้าตาน่ารักนี้กันดูได้ สวนสนุก Hanayashiki นี้ไม่ได้เป็นสวนสนุกขนาดใหญ่อะไรนักแต่บอกเลยว่าสามารถมาเล่นเครื่องเล่นสนุกๆในบรรยากาศญี่ปุ่นสมัยโชวะชวนให้นึกถึงสมัยก่อนก็ได้บรรยากาศไม่เบา
ร้านอิมาฮัน ร้านสุกี้ยากี้ที่เปิดมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1895 ทีเด็ดอยู่ที่สุกี้ยากี้เนื้อหมูคุโระบุตะและวากิวชั้นดีหรือจะเลือกทานเป็นชาบูชาบูแทนก็ได้เช่นกัน บอกเลยว่าเห็นเนื้อที่กำลังต้มในหม้อที่เดือดปุ๊ดๆแบบนี้ ท้องยิ่งร้องจ๊อกๆไปกันใหญ่เลย
ชุดโกคุโจชิโมฟุริสุกี้ยากี้โกเซน ราคา 10,800 เยน (รวมภาษีแล้ว) ซึ่งชุดนี้ไม่ได้มีเพียงเนื้อวัวเท่านั้นแต่ยังรวมเครื่องเคียงแบบญี่ปุ่นอื่นๆอีก ถือว่าเป็นการทานอาหารญี่ปุ่นจัดเต็มแบบครบสูตร ยังไงก็ห้ามพลาดมาทานสุกี้ยากี้แบบญี่ปุ่นแท้ๆกันนะ
ที่อยู่: 3-1-12 Nishi-Asakusa, Taito-ku, Tokyo
เวลาเปิดให้บริการ: 11.30 - 20.30 น. (ร้านปิด 21.30 น.)
การเดินทาง: เดิน 5 นาทีจากรถไฟใต้ดิน Metro สาย Ginza สถานี Tawaramachi หรือ เดิน 10 นาทีจากรถไฟ Tobu Skytree Line สถานี Asakusa
เว็บไซต์(ภาษาอังกฤษ): คลิ๊กที่นี่
ร้าน Kameju ร้านโดรายากิเก่าแก่ยอดนิยมแห่งอาซากุสะ！
เดินเที่ยวรอบอาซากุสะเหนือยๆต้องแวะพักเติมพลังกันหน่อย ที่อยากแนะนำต้องนี่เลยขนมโดรายากิแสนอร่อยจากร้าน Kameju
วัตถุดิบของที่นี่ก็ไม่ธรรมดาเพราะเขาใช้ถั่วแดงอย่างดีจากเมืองโทคาชิ จังหวัดฮอกไกโด แต่ที่ประทับใจเลยคือความนุ่มของแป้งโดรายากิกับรสชาติที่หวานกำลังดี ได้ลองทานเพียงครั้งเดียวก็ติดใจเลยละ นอกจากนี้ยังมีไส้ถั่วขาวที่อร่อยไม่แพ้กัน อย่าลืมไปชิมกันดู
โดรายากิ (ถั่วดำ/ถั่วขาว 360 เยน/ชิ้น)
ที่อยู่: 2-18-11, Kaminarimon, Taito-ku, Tokyo
เวลาเปิดให้บริการ: 10.00 - 19.00 น.
วันหยุด: ไม่มี (หยุดเพียง 1 ครั้งใน 1 ปี)
การเดินทาง: เดิน 3 นาทีจากรถไฟ Tobu Skytree Line สถานี Asakusa /เดิน 1 นาทีจากรถไฟใต้ดิน Metro สาย Ginza, รถไฟ Toei สาย Asakusa สถานี Asakusa
หลังจากเที่ยวที่สถานี Asakusa แล้ว เราก็มุ่งหน้าไปยังสถานี Kameido ซึ่งก็ยังคงใช้ตั๋ว Tokyo Skytree Stroll Around Free Pass ที่ซื้อมาเมื่อเช้านี้ โดยนั่งรถไฟ Tokyo Skytree Line ลงที่สถานี Hikifune เพื่อเปลี่ยนรถไฟไปนั่งรถไฟ Tobu สาย Kameido เพื่อไปยังสถานี Kameido รถไฟโทบุสายคาเมะอิโดะนี้มีสีเหลืองช่างสะดุดตาและน่ารักจริงๆ~
สถานที่ชมดอกฟูจิที่ดังที่สุดของโตเกียว `ศาลเจ้าคาเมโดะ เทนจิน'
สามารถเดินจากสถานี Kameido ประมาณ 15 นาที เพื่อมาถึงศาลเจ้าคาเมะอิโดะ เทนจิน ศาลเจ้าคาเมะอิโดะเทนจินเสวยงามไม่แพ้ศาลเจ้าดาไซฟุ เท็นมันกุ (Dazaifu Tenmagu Shrine)ซึ่งเป็นศาลเจ้าชื่อดังที่คิวชู จนหลายๆคนเรียกศาลเจ้าคาเมะอิโดะเทนจินแห่งนี้ว่าศาลเจ้าศาลเจ้าดาไซฟุ เท็นมันกุแห่งฝั่งตะวันออก ที่ศาลเจ้าแห่งนี้ในช่วงฤดูหนาวก็จะเป็นช่วงชมดอกบ๊วย ส่วนฤดูใบไม้ผลิก็เป็นคราวของดอกฟูจิที่พร้อมใจกันบานสะพรั่ง ศาลเจ้าแห่งนี้รับรองว่าถูกใจคนชอบดอกไม้แน่นอน
ทุกปีประมาณปลายเดือนเมษายน ดอกฟูจิจะเริ่มบานสะพรั่งกว่า 100 ต้น โดยเอกลักษณ์อย่างสะพานไทโคะบาชิหรือสะพานสีแดงกับดอกฟูจิแสนสวยงามเช่นนี้มักปรากฏอยู่ในรูปภาพ อุกิโยะหรือภาพศิลปะในยุคเอโดะ การได้มาเห็นของจริงกับตาถือว่าคุ้มจริงๆ
ที่อยู่: 3-6-1 Tameido, Koto-ku, Tokyo
การเดินทาง: เดิน15 นาทีจากรถไฟ Tobu สาย Kameido สถานี Kameido /เดิน 15 นาทีจากประตูเหนือรถไฟใต้ดิน Metro สาย Hanzomon สถานี Kinshicho
เว็บไซต์(ภาษาญี่ปุ่น): คลิ๊กที่นี่
ร้านอยู่ใกล้ศาลเจ้าคาเมะอิโดะเทนจินนิดเดียวเท่านั้น ร้านขนมเก่าแก่อย่างร้าน Funabashiya เป็นร้านขนมคุซึโมจิที่เปิดมากว่า 200 ปี ขนมคุซึโมจิเป็นขนมโมจิชนิดหนึ่งที่ทำจากแป้งมัน ให้ความรู้สึกนิ่มเวลาทาน มักนิยมทานคู่กับน้ำเชื่อมน้ำตาลแดงและผงคินาโกะซึ่งเป็นผงถั่วเหลืองบด
นอกจากขนมคุซึโมจิแล้ว ที่ร้านยังมีขนมอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นข้ำแข็งใสชาเขียวถั่วแดง ขนมไซชู(ขนมไส้ถั่วแดง) และขนมอันมิทสึ(ขนมหวานเย็นแบบญี่ปุ่น) บอกเลยว่าต้องมาชิมขนมญี่ปุ่นแท้ๆจากร้านเก่าแก่แบบนี้ให้ได้สักครั้ง!
ที่อยู่: 3-2-14 Kameido, Koto-ku, Tokyo
เวลาเปิดให้บริการ: 9.00 - 18.00 น. (L.O. 17.00 น.)
การเดินทาง: เดิน 13 นาทีจากรถไฟ Tobu สาย Kameido สถานี Kameido หรือจากสาย Sobu สถานี Kameido , เดิน 10 นาทีจากรถไฟใต้ดิน Metro สาย Hanzomon สถานี Kinshicho
เว็บไซต์(ภาษาญี่ปุ่น): คลิ๊กที่นี่
ย่านที่ผสมผสานระหว่างยุคเก่าและยุคใหม่ได้อย่างลงตัว
สถานีต่อไปเราก็ยังคงใช้ตั๋ว Tokyo Skytree Stroll Around Free Pass มาเที่ยวยังสถานี Kita-Senju ที่คิตะเซ็นจูนี้เป็นย่านการค้าคึกคักมาตั้งแต่สมัยเอโดะ ซึ่งในปัจจุบันย่านนี้ก็ยังเต็มไปด้วยร้านค้าและห้างดังๆอย่างห้าง Marui หรือห้าง Lumine
เดินเล่นไปมาที่ถนนในย่านคิตะเซ็นจู เราก็เจอคาเฟ่บรรยากาศดีอย่างร้าน Wakabadou ซ่อนตัวอยู่ด้านหลังถนน บรรยากาศของร้านโปร่งสว่าง เปิดเพลงเคล้าบรรยากาศแบบสมัยก่อน ส่วนอาหารนั้นแต่ละเมนูของที่นี่บอกเลยว่าทำออกมาอย่างพิถีพิถัน ทางร้านแบ่งเมนูเป็นสองอย่างใหญ่ๆคือเซตอาหารกลางวันและเซตของหวาน
เมนูที่ได้รับความนิยมคือ เซตหมูตุ๋นไวน์แดง ราคา 1,180 เยน (รวมภาษีแล้ว) เซตนี้ยังมีทั้งสลัด ซุป และเครื่องดื่มรวมมาในเซต ความเปรี้ยวและรสชาติของไวน์แดงช่วยดึงรสอุมามิของเนื้อออกมาได้อย่างดี เมื่อได้ทานกับขนมปังธัญพืชไรน์ที่ทางร้านทำเองแล้วละก็เมนูนี้ถือเป็นเมนูพรีเมียมจริงๆ! หลังจากทานของคาวกันแล้วเราก็ตบท้ายด้วยของหวานอย่างพาร์เฟ่สตรอว์เบอร์รีและวุ้นอัลมอลด์คู่กับกาแฟร้อน ( ราคา 1,300 เยน รวมภาษีแล้ว) ถือเป็นมื้ออาหารที่ช่างมีความสุขจริงๆ
ที่อยู่: 1-31-8 Senju, Adachi-ku, Tokyo
เวลาเปิดให้บริการ: วันจันทร์-วันเสาร์ 12.00 - 24.00 น. (L.O. 23.00 น.)/ วันอาทิตย์และวันหยุดตามปฏิทิน 12.00 - 21.00 น. (L.O. 20.00 น.)
การเดินทาง: เดิน 5 นาทีจากรถไฟ Tobu สาย Isesaki (Tobu Tokyo Skytree Line) สถานี Kita-Senju หรือเดิน 5 นาที จากรถไฟ JR สาย Joban สถานี Kita-Senju, เดิน 5 นาทีจากรถไฟใต้ดิน Metro สาย Hibiya สถานี Kita-Senju
เว็บไซต์(ภาษาญี่ปุ่น): คลิ๊กที่นี่
ถนนช้อปปิ้งชุคุบะมาจิโดริแห่งนี้สะท้อนความเป็นชิตะมะจิหรือถนนการค้าแบบญี่ปุ่นเสียจริงๆ เพราะถนนช้อปปิ้งแห่งนี้อะไรก็มีไปหมดไม่ว่าจะร้านอิซากายะ ร้านร้อยเยน คาเฟ่ หรือร้านคาราโอเกะทั้งแบบเก่าและใหม่ผสมกันอย่างลงตัว ถือเป็นถนนที่เราจะได้เห็นวิถีชีวิตของคนโตเกียวว่าเขาอยู่กันอย่างไรในชีวิตประจำวันเลยละ
ถ่ายรูปเล่นไปมาระหว่างเดินเล่น เราก็ได้รูปดีๆมาเพียบเพราะถนนเส้นนี้มีมุมน่าสนใจมากมาย เช่น ตรงโคมไฟระหว่างทางหรือพื้นบนถนนซึ่งมีลูกเล่นแฝงไว้ด้วยประวัติต่างๆที่เกิดขึ้นบนถนนเส้นนี้ ระหว่างเดินเล่นเราก็สะดุดตากับร้านร้อยเยนสีสันสดใสแห่งนี้
ที่อยู่: 41-3 Senju Asahicho, Adachi-ku, Tokyo
การเดินทาง: เดิน 5 นาทีจากรถไฟ Tobu สาย Isesaki (Tobu Tokyo Skytree Line) สถานี Kita-Senju, เดิน 5 นาที จากรถไฟ JR สาย Joban สถานี Kita-Senju หรือเดิน 5 นาทีจากรถไฟใต้ดิน Metro สาย Hibiya สถานี Kita-Senju
คิตะเซ็นจูมีร้านอิซากายะมากมายนับไม่ถ้วน ครั้งนี้ที่เราเลือกมากันที่ร้าน Yaesu บรรยากาศอบอุ่นเหมือนอยู่ที่บ้านเลยละ
ผู้จัดการร้านแสนใจดีคอยมาแนะนำเมนูขึ้นชื่อของร้าน และหลังจากนั้นเราจึงสั่งเมนูซาชิมิรวมมาลองชิม โดยเมนูนี้มีเนื้อปลาสดๆที่ถูกส่งตรงจากตลาดปลาสึคิจิ และยิ่งได้ทานคู่กับเบียร์เย็นๆละก็มันช่างอร่อยเกินบรรยาย
คุชิยากิหรือเนื้อหรือเครื่องในย่างเสียบไม้ก็เป็นอีกหนึ่งเมนูที่พลาดไม่ได้ ในเซตจะมีเนื้อแบ่งเป็นชนิดละ 2 ไม้ ปริมาณพอเหมาะที่จะแบ่งกันทานกับเพื่อนเลยละ ยิ่งได้ทานคู่กันอันสึโชชูเหล้าญี่ปุ่นแล้วละก็ยิ่งทำให้การมาทานร้านกินดื่มแบบอิซากายะสนุกยิ่งขึ้น
ที่อยู่: 41-3 Senju Asahicho, Adachi-ku, Tokyo
เวลาเปิดให้บริการ: 16.00 - 22.30 น.
วันหยุด: วันอาทิตย์และวันหยุดตามปฏิทิน
การเดินทาง: อยู่ติดกับทางออกตะวันออกของรถไฟ Tobu สาย Isesaki (Tobu Tokyo Skytree Line) สถานี Kita-Senju, เดิน 2 นาที จากรถไฟ JR สาย Joban สถานี Kita-Senju หรือเดิน 2 นาทีจากรถไฟใต้ดิน Metro สาย Hibiya สถานี Kita-Senju
เราก็กลับมาที่อาซากุสะที่เที่ยวสุดท้ายของวันนี้ ถ้าจะมาเที่ยวอาซากุสะตอนกลางคืนต้องมาที่ Hoppy Street!รับรองไม่ผิดหวัง ถนน Hoppy Street เป็นถนนที่เต็มไปด้วยร้านกินดื่ม บรรยากาศคึกคัก มักจะมีพนักงานบริษัทมาสังสรรค์กันหลังเลิกงาน บรรยากาศสะท้อนความเป็นเมืองชิตะมะจิเสียจริงๆ
โดยชื่อของถนนแห่งนี้ได้มาจากชื่อเครื่องดื่มของญี่ปุ่นยี่ห้อ Hoppy เป็นโชชูซึ่งรสชาติคล้ายเบียร์ เนื่องด้วยสมัยก่อนเบียร์ถือเป็นของราคาแพง คนจึงเลือกดื่ม Hoppy ที่ราคาถูกกว่าแทน แต่ตอนนี้เครื่องดื่ม Hoppy ก็ยังได้รับความนิยมเช่นกันโดยเฉพาะสำหรับคนที่อยากสัมผัสรสชาติญี่ปุ่นแบบสมัยโชวะ
ครั้งนี้เรามาที่ร้านอิซากายะที่ชื่อว่าร้าน Kouji เจ้าของร้านที่มีบ้านเกิดอยู่ที่จังหวัดอะคิตะก็ใจดีมากๆเลย
เมนูยอดฮิตของร้าน Kouji คือเนื้อวัวตุ๋นโชยุ เนื้อวัวที่ผ่านการตุ๋นอย่างดีทานคู่กับเต้าหู้ อร่อยเข้ากันมาก นอกจากนี้ยังมีเมนูปิ้งย่างเสียบไม้และของดีของจังหวัดอะคิตะอย่างอิบุริกักโคหรือหัวไชเท้าดอง ได้กินอาหารอร่อยๆกับเครื่องดื่ม Hoppy แล้วถือว่าครบสูตรการมาเที่ยวเลยละ เพราะได้มาลองทานอาหารแบบคนท้องถิ่นจริงๆ ใครกังวลเรื่องสั่งอาหารก็ไม่ต้องห่วงเพราะเขามีเมนูทั้งภาษาอังกฤษและภาษาจีนไว้คอยให้บริการ
ที่อยู่: 2-3-19 Asakusa, Taito-ku, Tokyo
เวลาเปิดให้บริการ: วันธรรมดา 15.00 - 23.00 น./ วันเสาร์อาทิตย์ 9.00 - 23.00 น./ วันหยุดตามปฏิทิน 12.00 - 23.00 น.
วันหยุด: วันจันทร์
การเดินทาง: เดิน 10 นาทีจากรถไฟ Tobu สาย Tokyo Skytree Line สถานี Asakusa หรือเดิน 10 นาทีจากรถไฟใต้ดิน Metro สาย Asakusa, Ginza สถานี Asakusa
เว็บไซต์(ภาษาญี่ปุ่น): คลิ๊กที่นี่
หลังจากสนุกสนานกับการทานอาหารสไตล์อิซากายะกันแล้ว เราก็มาเดินเล่นที่แม่น้ำสุมิดะ ซึ่งเป็นจุดชมโตเกียวสกายทรีที่ติดไฟสว่างไสวและยังได้ชมวิวทิวทัศน์อื่นๆที่น่าสนใจโดยรอบอีกด้วย ยิ่งได้มาเห็นบรรยากาศตอนกลางคืนสวยๆแบบนี้ช่างเป็นทริปที่สนุกและคุ้มค่าจริงๆ
เที่ยวย่านชิตะมะจิของโตเกียว สัมผัสวิถีชีวิตและชิมอาหารสไตล์คนโตเกียวแท้ๆ! โดยใช้บัตร Tokyo Skytree Stroll Around Free Pass เที่ยวได้รอบย่านอาซากุสะ ย่านคาเมะอิโดะและย่านคิตะเซ็นจู และสำหรับใครที่มีเวลาก็สามารถแวะเที่ยวแวะช้อปปิ้งที่โตเกียวสกายทรีอีกก็ได้เช่นกัน สิ่งที่น่าสนใจและกิจกรรมสนุกๆยังมีอีกเพียบเช็คที่เว็บไซต์นี้เลย
เว็บไซต์ Tokyo Skytree Stroll Around Free Pass คลิกที่นี่
※เก็บรวบรวมข้อมูลเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2018 รายละเอียดเกี่ยวกับสินค้าและราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง
ตั๋วรถไฟแบบวันเดียว ตะลุยย่านชิตะมะจิของโตเกียวกันเถอะ!
ตั๋ว Tokyo Skytree Stroll Around Free Pass ของผู้ใหญ่ราคา 510 เยน (เด็ก 250 เยน) สามารถเที่ยวได้รอบโตเกียวสกายทรีแบบไม่จำกัดจำนวนเที่ยว โดยสงวนสิทธิ์ให้ใช้ได้เฉพาะวันที่ซื้อตั๋วเท่านั้น Asakusa-Kitasenju, Hikifune-Oshiage และ Hikifune-Kameido แบบไม่จำกัดรอบการนั่ง เหมาะมากสำหรับใครอยากจะตะลุยเที่ยวรอบๆโตเกียวสกายทรีเพราะคุ้มสุดๆ!
หลังจากตรวจสอบเส้นทางก็ไปซื้อตั๋วกันเลย ก่อนอื่นก็กดเลือกปุ่มที่เขียนว่า Coupon จากนั้นก็เลือกตั๋ว Tokyo Skytree Stroll Around Free Pass ดังที่แสดงบนหน้าจอ
◎หากจะใช้บริการรถไฟด่วนพิเศษจำเป็นต้องซื้อตั๋วรถด่วนพิเศษแยกต่างหาก
◎ไม่สามารถขอคืนเงินหลังจากออกตั๋ว
◎ไม่สามารถลงสถานีนอกเส้นทางที่กำหนด
◎หากตั๋วสูญหายไม่สามารถขอออกตั๋วใหม่ได้
◎ตั๋ว Free Pass นี้ไม่สามารถใช้เป็นตั๋วเข้าจุดชมวิวของโตเกียวสกายทรี
※ตั๋วสามารถใช้ได้ภายในวันที่ซื้อเท่านั้น
รายละเอียดเกี่ยวกับตั๋ว Tokyo Skytree Stroll Around Free Pass คลิกที่นี่ (ภาษาญี่ปุ่น)
สถานีแรก: สถานีอาซากุสะ
มือใหม่หัดเที่ยวชิตะมะจิแนะนำให้เริ่มที่แรกที่อาซากุสะกันเลย!
สำหรับใครที่ยังไม่ค่อยคุ้นชินกับย่านชิตะมะจิละก็ แนะนำให้เริ่มสตาร์ตจากอาซากุสะก่อน เดินเล่นลัดเลาะไปตามแม่น้ำสุมิตะ ได้เห็นท้องฟ้ากว้างๆ ถ่ายรูปคู่กับโตเกียวสกายทรี ถือว่าเป็นอีกจุดไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้เลยละ!
และแน่นอนมาเที่ยวย่านนี้ทั้งทีก็ต้องแวะมาที่วัดอาซากุสะและถนนช้อปปิ้งนากามิเสะ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เรียกได้ว่ามาเมื่อไรก็คึกคัก น่าเที่ยวเสมอ ครั้งนี้เรามาถึงกันตั้งแต่ 7 โมงเช้า บรรยากาศเงียบสงบผิดกับช่วงปกติเสียจริงๆ
ตรงนี้มีแต่เรื่องสนุก! สวนสนุก Hanayashiki สวนสนุกที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น!
สวนสนุกที่เก่าแก่ของญี่ปุ่นก็อยู่ที่อาซากุสะนี้เองแหละ สวนสนุก Hanayashiki แห่งนี้ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1853 เข้ามาด้านในปุ๊บก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศญีปุ่นแบบสมัยก่อน เหมือนได้ย้อนเวลาไปอดีตเลยละ
อีกหนึ่งเครื่องเล่นที่แสนน่ารัก ถูกใจน้องๆหนูๆแน่นอน แต่ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ก็มาลองขี่หมีแพนด้าหน้าตาน่ารักนี้กันดูได้ สวนสนุก Hanayashiki นี้ไม่ได้เป็นสวนสนุกขนาดใหญ่อะไรนักแต่บอกเลยว่าสามารถมาเล่นเครื่องเล่นสนุกๆในบรรยากาศญี่ปุ่นสมัยโชวะชวนให้นึกถึงสมัยก่อนก็ได้บรรยากาศไม่เบา
รายละเอียด
Asakusa Hanayashiki
ที่อยู่: 2-28-1 Asakusa, Taito-ku, Tokyo
เวลาเปิดให้บริการ: 10.00 - 18.00 น. (ทั้งนี้อาจเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับฤดูกาลและสภาพอากาศ)
การเดินทาง: เดิน 5 นาทีจากสถานี Asakusa ทั้งจากสาย Tobu Skytree Line, รถไฟใต้ดิน Metro สาย Ginza และรถไฟ Toei สาย Asakusa
เว็บไซต์(ภาษาอังกฤษ): คลิ๊กที่นี่
อาหารแนะนำ! ร้านสุกี้ยากี้เก่าแก่ประวัติกว่า 123 ปี !
ร้านอิมาฮัน ร้านสุกี้ยากี้ที่เปิดมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1895 ทีเด็ดอยู่ที่สุกี้ยากี้เนื้อหมูคุโระบุตะและวากิวชั้นดีหรือจะเลือกทานเป็นชาบูชาบูแทนก็ได้เช่นกัน บอกเลยว่าเห็นเนื้อที่กำลังต้มในหม้อที่เดือดปุ๊ดๆแบบนี้ ท้องยิ่งร้องจ๊อกๆไปกันใหญ่เลย
ชุดโกคุโจชิโมฟุริสุกี้ยากี้โกเซน ราคา 10,800 เยน (รวมภาษีแล้ว) ซึ่งชุดนี้ไม่ได้มีเพียงเนื้อวัวเท่านั้นแต่ยังรวมเครื่องเคียงแบบญี่ปุ่นอื่นๆอีก ถือว่าเป็นการทานอาหารญี่ปุ่นจัดเต็มแบบครบสูตร ยังไงก็ห้ามพลาดมาทานสุกี้ยากี้แบบญี่ปุ่นแท้ๆกันนะ
รายละเอียด
Asakusa Imahan Kokusaidori Hontenที่อยู่: 3-1-12 Nishi-Asakusa, Taito-ku, Tokyo
เวลาเปิดให้บริการ: 11.30 - 20.30 น. (ร้านปิด 21.30 น.)
การเดินทาง: เดิน 5 นาทีจากรถไฟใต้ดิน Metro สาย Ginza สถานี Tawaramachi หรือ เดิน 10 นาทีจากรถไฟ Tobu Skytree Line สถานี Asakusa
เว็บไซต์(ภาษาอังกฤษ): คลิ๊กที่นี่
ร้าน Kameju ร้านโดรายากิเก่าแก่ยอดนิยมแห่งอาซากุสะ！
เดินเที่ยวรอบอาซากุสะเหนือยๆต้องแวะพักเติมพลังกันหน่อย ที่อยากแนะนำต้องนี่เลยขนมโดรายากิแสนอร่อยจากร้าน Kameju วัตถุดิบของที่นี่ก็ไม่ธรรมดาเพราะเขาใช้ถั่วแดงอย่างดีจากเมืองโทคาชิ จังหวัดฮอกไกโด แต่ที่ประทับใจเลยคือความนุ่มของแป้งโดรายากิกับรสชาติที่หวานกำลังดี ได้ลองทานเพียงครั้งเดียวก็ติดใจเลยละ นอกจากนี้ยังมีไส้ถั่วขาวที่อร่อยไม่แพ้กัน อย่าลืมไปชิมกันดู
โดรายากิ (ถั่วดำ/ถั่วขาว 360 เยน/ชิ้น)
รายละเอียด
Kamejuที่อยู่: 2-18-11, Kaminarimon, Taito-ku, Tokyo
เวลาเปิดให้บริการ: 10.00 - 19.00 น.
วันหยุด: ไม่มี (หยุดเพียง 1 ครั้งใน 1 ปี)
การเดินทาง: เดิน 3 นาทีจากรถไฟ Tobu Skytree Line สถานี Asakusa /เดิน 1 นาทีจากรถไฟใต้ดิน Metro สาย Ginza, รถไฟ Toei สาย Asakusa สถานี Asakusa
สถานีที่สอง: สถานี Kameido
ชมความงามของดอกฟูจิและชิมของหวานสไตล์ญี่ปุ่น
หลังจากเที่ยวที่สถานี Asakusa แล้ว เราก็มุ่งหน้าไปยังสถานี Kameido ซึ่งก็ยังคงใช้ตั๋ว Tokyo Skytree Stroll Around Free Pass ที่ซื้อมาเมื่อเช้านี้ โดยนั่งรถไฟ Tokyo Skytree Line ลงที่สถานี Hikifune เพื่อเปลี่ยนรถไฟไปนั่งรถไฟ Tobu สาย Kameido เพื่อไปยังสถานี Kameido รถไฟโทบุสายคาเมะอิโดะนี้มีสีเหลืองช่างสะดุดตาและน่ารักจริงๆ~
สถานที่ชมดอกฟูจิที่ดังที่สุดของโตเกียว `ศาลเจ้าคาเมโดะ เทนจิน'
สามารถเดินจากสถานี Kameido ประมาณ 15 นาที เพื่อมาถึงศาลเจ้าคาเมะอิโดะ เทนจิน ศาลเจ้าคาเมะอิโดะเทนจินเสวยงามไม่แพ้ศาลเจ้าดาไซฟุ เท็นมันกุ (Dazaifu Tenmagu Shrine)ซึ่งเป็นศาลเจ้าชื่อดังที่คิวชู จนหลายๆคนเรียกศาลเจ้าคาเมะอิโดะเทนจินแห่งนี้ว่าศาลเจ้าศาลเจ้าดาไซฟุ เท็นมันกุแห่งฝั่งตะวันออก ที่ศาลเจ้าแห่งนี้ในช่วงฤดูหนาวก็จะเป็นช่วงชมดอกบ๊วย ส่วนฤดูใบไม้ผลิก็เป็นคราวของดอกฟูจิที่พร้อมใจกันบานสะพรั่ง ศาลเจ้าแห่งนี้รับรองว่าถูกใจคนชอบดอกไม้แน่นอน
รายละเอียด
Kameido Tenjinที่อยู่: 3-6-1 Tameido, Koto-ku, Tokyo
การเดินทาง: เดิน15 นาทีจากรถไฟ Tobu สาย Kameido สถานี Kameido /เดิน 15 นาทีจากประตูเหนือรถไฟใต้ดิน Metro สาย Hanzomon สถานี Kinshicho
เว็บไซต์(ภาษาญี่ปุ่น): คลิ๊กที่นี่
หลังจากไหว้พระกันแล้วก็มาหาขนมญี่ปุ่นทานกันดีกว่า!
ร้านอยู่ใกล้ศาลเจ้าคาเมะอิโดะเทนจินนิดเดียวเท่านั้น ร้านขนมเก่าแก่อย่างร้าน Funabashiya เป็นร้านขนมคุซึโมจิที่เปิดมากว่า 200 ปี ขนมคุซึโมจิเป็นขนมโมจิชนิดหนึ่งที่ทำจากแป้งมัน ให้ความรู้สึกนิ่มเวลาทาน มักนิยมทานคู่กับน้ำเชื่อมน้ำตาลแดงและผงคินาโกะซึ่งเป็นผงถั่วเหลืองบด
นอกจากขนมคุซึโมจิแล้ว ที่ร้านยังมีขนมอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นข้ำแข็งใสชาเขียวถั่วแดง ขนมไซชู(ขนมไส้ถั่วแดง) และขนมอันมิทสึ(ขนมหวานเย็นแบบญี่ปุ่น) บอกเลยว่าต้องมาชิมขนมญี่ปุ่นแท้ๆจากร้านเก่าแก่แบบนี้ให้ได้สักครั้ง!
รายละเอียด
Funabashiya Kameido Tenjinmae Hontenที่อยู่: 3-2-14 Kameido, Koto-ku, Tokyo
เวลาเปิดให้บริการ: 9.00 - 18.00 น. (L.O. 17.00 น.)
การเดินทาง: เดิน 13 นาทีจากรถไฟ Tobu สาย Kameido สถานี Kameido หรือจากสาย Sobu สถานี Kameido , เดิน 10 นาทีจากรถไฟใต้ดิน Metro สาย Hanzomon สถานี Kinshicho
เว็บไซต์(ภาษาญี่ปุ่น): คลิ๊กที่นี่
สถานีที่สาม: สถานี Kita-Senju
ย่านที่ผสมผสานระหว่างยุคเก่าและยุคใหม่ได้อย่างลงตัว
สถานีต่อไปเราก็ยังคงใช้ตั๋ว Tokyo Skytree Stroll Around Free Pass มาเที่ยวยังสถานี Kita-Senju ที่คิตะเซ็นจูนี้เป็นย่านการค้าคึกคักมาตั้งแต่สมัยเอโดะ ซึ่งในปัจจุบันย่านนี้ก็ยังเต็มไปด้วยร้านค้าและห้างดังๆอย่างห้าง Marui หรือห้าง Lumine คาเฟ่บรรยากาศบ้านไม้หลังเก่าที่ Wakabadou
เดินเล่นไปมาที่ถนนในย่านคิตะเซ็นจู เราก็เจอคาเฟ่บรรยากาศดีอย่างร้าน Wakabadou ซ่อนตัวอยู่ด้านหลังถนน บรรยากาศของร้านโปร่งสว่าง เปิดเพลงเคล้าบรรยากาศแบบสมัยก่อน ส่วนอาหารนั้นแต่ละเมนูของที่นี่บอกเลยว่าทำออกมาอย่างพิถีพิถัน ทางร้านแบ่งเมนูเป็นสองอย่างใหญ่ๆคือเซตอาหารกลางวันและเซตของหวาน
เมนูที่ได้รับความนิยมคือ เซตหมูตุ๋นไวน์แดง ราคา 1,180 เยน (รวมภาษีแล้ว) เซตนี้ยังมีทั้งสลัด ซุป และเครื่องดื่มรวมมาในเซต ความเปรี้ยวและรสชาติของไวน์แดงช่วยดึงรสอุมามิของเนื้อออกมาได้อย่างดี เมื่อได้ทานกับขนมปังธัญพืชไรน์ที่ทางร้านทำเองแล้วละก็เมนูนี้ถือเป็นเมนูพรีเมียมจริงๆ! หลังจากทานของคาวกันแล้วเราก็ตบท้ายด้วยของหวานอย่างพาร์เฟ่สตรอว์เบอร์รีและวุ้นอัลมอลด์คู่กับกาแฟร้อน ( ราคา 1,300 เยน รวมภาษีแล้ว) ถือเป็นมื้ออาหารที่ช่างมีความสุขจริงๆ
รายละเอียด
Cafe Wakabadouที่อยู่: 1-31-8 Senju, Adachi-ku, Tokyo
เวลาเปิดให้บริการ: วันจันทร์-วันเสาร์ 12.00 - 24.00 น. (L.O. 23.00 น.)/ วันอาทิตย์และวันหยุดตามปฏิทิน 12.00 - 21.00 น. (L.O. 20.00 น.)
การเดินทาง: เดิน 5 นาทีจากรถไฟ Tobu สาย Isesaki (Tobu Tokyo Skytree Line) สถานี Kita-Senju หรือเดิน 5 นาที จากรถไฟ JR สาย Joban สถานี Kita-Senju, เดิน 5 นาทีจากรถไฟใต้ดิน Metro สาย Hibiya สถานี Kita-Senju
เว็บไซต์(ภาษาญี่ปุ่น): คลิ๊กที่นี่
ตะลุยถนนช้อปปิ้งชุคุบะมาจิโดริ
ถนนช้อปปิ้งชุคุบะมาจิโดริแห่งนี้สะท้อนความเป็นชิตะมะจิหรือถนนการค้าแบบญี่ปุ่นเสียจริงๆ เพราะถนนช้อปปิ้งแห่งนี้อะไรก็มีไปหมดไม่ว่าจะร้านอิซากายะ ร้านร้อยเยน คาเฟ่ หรือร้านคาราโอเกะทั้งแบบเก่าและใหม่ผสมกันอย่างลงตัว ถือเป็นถนนที่เราจะได้เห็นวิถีชีวิตของคนโตเกียวว่าเขาอยู่กันอย่างไรในชีวิตประจำวันเลยละ
ถ่ายรูปเล่นไปมาระหว่างเดินเล่น เราก็ได้รูปดีๆมาเพียบเพราะถนนเส้นนี้มีมุมน่าสนใจมากมาย เช่น ตรงโคมไฟระหว่างทางหรือพื้นบนถนนซึ่งมีลูกเล่นแฝงไว้ด้วยประวัติต่างๆที่เกิดขึ้นบนถนนเส้นนี้ ระหว่างเดินเล่นเราก็สะดุดตากับร้านร้อยเยนสีสันสดใสแห่งนี้
รายละเอียด
Shukubamachi dori shotengaiที่อยู่: 41-3 Senju Asahicho, Adachi-ku, Tokyo
การเดินทาง: เดิน 5 นาทีจากรถไฟ Tobu สาย Isesaki (Tobu Tokyo Skytree Line) สถานี Kita-Senju, เดิน 5 นาที จากรถไฟ JR สาย Joban สถานี Kita-Senju หรือเดิน 5 นาทีจากรถไฟใต้ดิน Metro สาย Hibiya สถานี Kita-Senju
ร้านอิซากายะบรรยากาศอบอุ่น
คิตะเซ็นจูมีร้านอิซากายะมากมายนับไม่ถ้วน ครั้งนี้ที่เราเลือกมากันที่ร้าน Yaesu บรรยากาศอบอุ่นเหมือนอยู่ที่บ้านเลยละ
ชุดซาชิมิรวม สำหรับ 2-3 คน ราคา 1,860 เยน
คุชิยากิหรือเนื้อหรือเครื่องในย่างเสียบไม้ก็เป็นอีกหนึ่งเมนูที่พลาดไม่ได้ ในเซตจะมีเนื้อแบ่งเป็นชนิดละ 2 ไม้ ปริมาณพอเหมาะที่จะแบ่งกันทานกับเพื่อนเลยละ ยิ่งได้ทานคู่กันอันสึโชชูเหล้าญี่ปุ่นแล้วละก็ยิ่งทำให้การมาทานร้านกินดื่มแบบอิซากายะสนุกยิ่งขึ้น
รายละเอียด
Yaesuที่อยู่: 41-3 Senju Asahicho, Adachi-ku, Tokyo
เวลาเปิดให้บริการ: 16.00 - 22.30 น.
วันหยุด: วันอาทิตย์และวันหยุดตามปฏิทิน
การเดินทาง: อยู่ติดกับทางออกตะวันออกของรถไฟ Tobu สาย Isesaki (Tobu Tokyo Skytree Line) สถานี Kita-Senju, เดิน 2 นาที จากรถไฟ JR สาย Joban สถานี Kita-Senju หรือเดิน 2 นาทีจากรถไฟใต้ดิน Metro สาย Hibiya สถานี Kita-Senju
เพิ่มเติม: สถานีอาซากุสะ
ปิดท้ายกันที่อาซากุสะ! เที่ยวชมบรรยากาศอาซากุสะในยามค่ำคืน
เราก็กลับมาที่อาซากุสะที่เที่ยวสุดท้ายของวันนี้ ถ้าจะมาเที่ยวอาซากุสะตอนกลางคืนต้องมาที่ Hoppy Street!รับรองไม่ผิดหวัง ถนน Hoppy Street เป็นถนนที่เต็มไปด้วยร้านกินดื่ม บรรยากาศคึกคัก มักจะมีพนักงานบริษัทมาสังสรรค์กันหลังเลิกงาน บรรยากาศสะท้อนความเป็นเมืองชิตะมะจิเสียจริงๆ
โดยชื่อของถนนแห่งนี้ได้มาจากชื่อเครื่องดื่มของญี่ปุ่นยี่ห้อ Hoppy เป็นโชชูซึ่งรสชาติคล้ายเบียร์ เนื่องด้วยสมัยก่อนเบียร์ถือเป็นของราคาแพง คนจึงเลือกดื่ม Hoppy ที่ราคาถูกกว่าแทน แต่ตอนนี้เครื่องดื่ม Hoppy ก็ยังได้รับความนิยมเช่นกันโดยเฉพาะสำหรับคนที่อยากสัมผัสรสชาติญี่ปุ่นแบบสมัยโชวะ
ครั้งนี้เรามาที่ร้านอิซากายะที่ชื่อว่าร้าน Kouji เจ้าของร้านที่มีบ้านเกิดอยู่ที่จังหวัดอะคิตะก็ใจดีมากๆเลย
รายละเอียด
Izakaya Koujiที่อยู่: 2-3-19 Asakusa, Taito-ku, Tokyo
เวลาเปิดให้บริการ: วันธรรมดา 15.00 - 23.00 น./ วันเสาร์อาทิตย์ 9.00 - 23.00 น./ วันหยุดตามปฏิทิน 12.00 - 23.00 น.
วันหยุด: วันจันทร์
การเดินทาง: เดิน 10 นาทีจากรถไฟ Tobu สาย Tokyo Skytree Line สถานี Asakusa หรือเดิน 10 นาทีจากรถไฟใต้ดิน Metro สาย Asakusa, Ginza สถานี Asakusa
เว็บไซต์(ภาษาญี่ปุ่น): คลิ๊กที่นี่
ชมโตเกียวสกายทรียามค่ำคืน
หลังจากสนุกสนานกับการทานอาหารสไตล์อิซากายะกันแล้ว เราก็มาเดินเล่นที่แม่น้ำสุมิดะ ซึ่งเป็นจุดชมโตเกียวสกายทรีที่ติดไฟสว่างไสวและยังได้ชมวิวทิวทัศน์อื่นๆที่น่าสนใจโดยรอบอีกด้วย ยิ่งได้มาเห็นบรรยากาศตอนกลางคืนสวยๆแบบนี้ช่างเป็นทริปที่สนุกและคุ้มค่าจริงๆ
เที่ยวย่านชิตะมะจิของโตเกียว สัมผัสวิถีชีวิตและชิมอาหารสไตล์คนโตเกียวแท้ๆ! โดยใช้บัตร Tokyo Skytree Stroll Around Free Pass เที่ยวได้รอบย่านอาซากุสะ ย่านคาเมะอิโดะและย่านคิตะเซ็นจู และสำหรับใครที่มีเวลาก็สามารถแวะเที่ยวแวะช้อปปิ้งที่โตเกียวสกายทรีอีกก็ได้เช่นกัน สิ่งที่น่าสนใจและกิจกรรมสนุกๆยังมีอีกเพียบเช็คที่เว็บไซต์นี้เลย
เว็บไซต์ Tokyo Skytree Stroll Around Free Pass คลิกที่นี่
※เก็บรวบรวมข้อมูลเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2018 รายละเอียดเกี่ยวกับสินค้าและราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง
ถ้าชอบบทความนี้ กดถูกใจให้ด้วยนะ
บทความนี้เขียนขึ้นเมื่อ 28/03/2018 เรื่องโดย：กองบรรณาธิการ DiGJAPAN!
Weekly Ranking
ความคิดเห็นล่าสุด | 0ความคิดเห็น
หากเป็นสมาชิก DiGJAPAN!
จะสามารถโพสต์คอมเม้นท์ได้
สมัครสมาชิก