- TOP
- ปรับแต่งรายการผลการค้นหา
- แนะนำ! 8 จุดชมซากุระชื่อดังและจุดที่คนยังไม่ค่อยรู้จักในแถบคันไซประจำฤดูใบไม้ผลิ
บทความ
แนะนำ! 8 จุดชมซากุระชื่อดังและจุดที่คนยังไม่ค่อยรู้จักในแถบคันไซประจำฤดูใบไม้ผลิ
- OSAKA
- KYOTO
- NARA
- HYOGO
- SHIGA
- KANSAI
- เทศกาล/อีเว้นท
- SPECIAL
- ฤดูใบไม้ผลิ
- ซากุระ
- แหล่งท่องเที่ยว
- ชมซากุระ
- คันไซ
ซากุระมนเสน่ห์ของญี่ปุ่นที่ชาวต่างชาติต่างก็หลงใหล ในแถบคันไซก็มีจุดชมซากุระมากมาย ไม่ว่าจะเป็นจุดที่สามารถชมซากุระพร้อมกับปราสาทชื่อดังหรือจุดที่สามารถชมซากุระได้กว่า 3 หมื่นต้น ครั้งนี้ DiGJAPAN! ได้คัดสรรสถานที่ชมซากุระในแถบคันไซ (โอซาก้า เฮียวโกะ เกียวโต ชิกะ)ไว้อย่างพิถีพิถัน โดยเริ่มจากการแนะนำจุดชมซากุระชื่อดังที่ห้ามพลาด จุดชมซากุระที่เหมาะกับการนั่งชมสบายๆ จุดชมต้นซากุระต้นเดี่ยวแบบระย้าที่แสนสง่างามและจุดที่คนยังไม่ค่อยรู้จัก จะมีที่ไหนบ้างไปเช็คกันเลย!
ที่หุบเขานี้ปกคลุมไปด้วยต้นซากุระพันธุ์ชิโระยามะซากุระซึ่งเป็นซากุระภูเขาที่มีมาตั้งแต่สมัยก่อนของญี่ปุ่น โดยต้นซากุระทั้ง 3 หมื่นต้นของที่นี่แบ่งออกเป็น 4 ส่วนด้วยกันคือส่วนล่าง ส่วนกลาง ส่วนบน และส่วนในของภูเขา ต้นซากุระบานสะพรั่งปกคลุมไปทั่วทั้งภูเขาจนมีคำกล่าวว่าเพียงแค่พริบตาเดียวก็เห็นซากุระที่สวยงามตระการตาได้ถึงพันต้น หรือที่เรียกว่า"หนึ่งพริบตาหนึ่งพันต้น" จุดที่อยากแนะนำเป็นพิเศษเลยคือวิวจากศาลเจ้าโยชิมิสุซึ่งมองเห็นซากุระบริเวณตอนกลางและตอนบนของหุบเขา ได้ทอดสายตาชมวิวซากุระและชมไฟประดับตอนกลางคินยิ่งเป็นจุดที่พลาดไม่ได้เลยละ
ที่อยู่: Yoshinoyama, Yoshino-cho, Yoshino-gun, Nara（MAP）
พยากรณ์ซากุระ: ต้นเดือนเมษายนถึงกลางเดือนเมษายน
ค่าเข้า: ไม่เสีย
การเดินทาง: จากสถานี Yoshino สาย Kintetsu Yoshino ให้นั่งรถบัสพิเศษ Nara Kotsu ประมาณ 20 นาที ลงที่ป้าย Nakasenbon Koen
เว็บไซต์(ภาษาอังกฤษ): http://www.yoshinoyama-sakura.jp/english/
ในแต่ละปีแนวต้นซากุระนี้จะบานสะพรั่งเป็นระยะเวลา 1 อาทิตย์เท่านั้น สองข้างฝั่งของถนนที่เปิดให้เดินทางเดียวตั้งแต่ประตูใต้ของโรงกษาปณ์ถึงประตูเหนือ รวมระยะทางกว่า 560 เมตรนี้มีต้นซากุระกว่า 130 ชนิด รวมๆแล้วก็กว่า 350 ต้น ไฮไลท์ของที่นี่คือสามารถชมดอกซากุระพันธุ์ที่หายากได้ เพราะที่นี่เต็มไปด้วยซากุระพันธุ์ยาเอะซากุระซึ่งแตกต่างกับพันธุ์โซเมอิโยชิโนะที่พบเห็นได้ทั่วไป
ที่อยู่: 1-1-79,Temma, Kita-ku, Osaka-shi, Osaka（MAP）
พยากรณ์ซากุระ: กลางเดือนเมษายน (รายละเอียดเพิ่มเติมตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์ทางการ)
ค่าเข้า: ไม่เสีย
การเดินทาง: เดิน 15 นาทีจากรถไฟใต้ดินหรือรถไฟ Keihan สถานี Temmabashi
เว็บไซต์(ภาษาอังกฤษ): https://www.mint.go.jp/category/eng
ภายในสวนปราสาทโอซาก้าได้ปลูกต้นซากุระกว่า 3,000 ต้น จุดที่พลาดไม่ได้คือสวนนิชิโนะมารุเทเอ็นซึ่งเป็นสถานที่ชมซากุระชื่อดัง ที่จุดนี้สามารถชมความงามของดอกซากุระที่กำลังบานเต็มที่และวิวปราสาทโอซาก้าไปพร้อมกัน และในทุกปีจะมีการจัดแสดงไฟในตอนกลางคืนที่สวนนิชิโนะมารุเทเอ็น (24 มีนาคม - 15 เมษายน 2018) สวยงามราวกับอยู่ในฝันเลยละ
ที่อยู่: Osaka Castle, Chuo-ku, Osaka-shi, Osaka（MAP）
พยากรณ์ซากุระ: ปลายเดือนมีนาคมถึงกลางเดือนเมษายน
ค่าเข้า: ไม่เสีย (ค่าเข้าชมสวนนิชิโนะมารุเทเอ็น 200 เยน, จัดแสดงไฟซากุระตอนกลางคืน 350 เยน)
การเดินทาง: เดิน 10 นาทีจากรถไฟใต้ดินสถานี Tanimachi Yonchome
เว็บไซต์(ภาษาภาษาอังกฤษ): http://osakacastlepark.jp/foreinger/english.html
สวนสาธารณะอนุสรณ์บัมบาคุได้รับเลือกเป็นหนึ่งใน 100 สุดยอดสถานที่ชมซากุระของญี่ปุ่น จุดที่เป็นไฮไลท์คือการชมแนวต้นซากุระสีชมพูบริเวณโดยรอบหอคอยพระอาทิตย์ในสวนธรรมชาติและวัฒนธรรม (Natural and Cultural Gardens) ที่ออกแบบโดยศิลปินชื่อดังอย่างคุณทาโร่ โอกาโมโตะ ในช่วงเทศกาลซากุระ (28 มีนาคม ถึง 15 เมษายน 2018 ) สวนจะขยายเวลาเปิดถึงเวลา 21.00 น. (เข้าสวนได้ถึง 20.30 น.) ซึ่งช่วงเทศกาลซากุระนี้จะมีการจัดแสดงไฟตอนกลางคืนและหอคอยพระอาทิตย์ก็เปิดให้ชมด้านใน (จำเป็นต้องจองบนหน้าเว็บไซต์ก่อน) แม้การจองในช่วงซากุระบานจะเต็มเร็วเสียหน่อย แต่ถ้าได้มีโอกาสมาชมด้านในหอคอยก็ถือเป็นโอกาสที่คุ้มค่าจริงๆ ใครวางแผนจะมาเที่ยวโอซาก้าละ ลิสต์ที่นี่ไว้ในแผนเที่ยวก็ดีไม่น้อยเชียวละ
ที่อยู่: Senribampaku Kinen Koen, Suita-shi, Osaka（MAP）
พยากรณ์ซากุระ: ปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน
ค่าเข้า: ผู้ใหญ่ 250 เยน นักเรียนประถมและมัธยมต้น 70 เยน
การเดินทาง: เดิน 5 นาที จากรถไฟโมโนเรล สถานี Bampaku-Kinen-Koen
เว็บไซต์(ภาษาอังกฤษ): http://www.expo70-park.jp/languages/english/
ภายในมรดกโลกอย่างปราสาทฮิเมจิ มีต้นซากุระพันธุ์โซเมอิโยชิโนะและพันธุ์ชิดาเระซากุระกว่า 1,000 ต้น ตัวปราสาทและกำแพงสีขาวตัดกับสีของดอกไม้ช่างทำให้บรรยากาศสดชื่นเสียจริงๆ ที่สวนญี่ปุ่นนิฮงเทเอ็น โคโคะเอ็นเป็นจุดที่สามารถชมเงาสะท้อนของซากุระบนผิวน้ำ และที่ต้องขอแนะนำเลยคือการนั่งเรือไม้แบบญี่ปุ่นค่อยๆซึมซับบรรยากาศที่คูน้ำรอบปราสาท พลาดไม่ได้จริงๆ
ที่อยู่: 68 Honmachi, Himeji, Hyogo（MAP）
พยากรณ์ซากุระ: ต้นเดือนเมษายน
ค่าเข้า: ไม่มี
การเดินทาง: เดิน 20 นาทีจากรถไฟ JR สถานี Himeji หรือรถไฟ Sanyo Dentetsu สถานี Himeji
เว็บไซต์(ภาษาไทย): https://www.himeji-kanko.jp/th/
แนวซากุระทอดยาวตลอดสองฝั่งของแม่น้ำชูคุกาวะตลอดระยะทางกว่า 2.8 กิโลเมตร เป็นจุดที่สามารถมานั่งปิกนิกค่อยๆชมความงามของซากุระได้อย่างสบายใจ ที่นี่ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในร้อยสุดยอดจุดชมซากุระโดยที่แม่น้ำแห่งนี้มีดอกซากุระพันธุ์โซเมอิโยชิโนะมากถึง 1,660 ต้น ถือเป็นหนึ่งในจุดชมซากุระที่ดีที่สุดในจังหวัดเฮียวโกะเลยทีเดียว
ที่อยู่: Oidemachi hoka, Nishinomiya, Hyogo（MAP）
พยากรณ์ซากุระ: ปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน
ค่าเข้า: ไม่มี
การเดินทาง: ติดกับทางออกสถานี Shukugawa สาย Hankyu Kobe หรือสถานี Kurakuenguchi สาย Hankyu Koyo หากเดินทางด้วย JR ติดกับสถานี Sakura Shukugawa หรือ สถานี Kouroen สาย Hanshin honsen
เว็บไซต์(ภาษาญี่ปุ่น): https://www.nishi.or.jp/access/koen/shukugawa.html
สวนกวางนารานอกจากจะมีชื่อเสียงเรื่องกวางแล้ว ที่นี่ก็ขึ้นชื่อเรื่องซากุระเช่นกัน โดยที่นี่มีต้นซากุระกว่า 1,700 ต้น เป็นที่รู้กันว่าที่นี่มีดอกซากุระหลากหลายชนิดและมีช่วงซากุระบานนาน จุดที่พลาดไม่ได้คือบริเวณรอบๆสระน้ำอุคิมิโดะ ซึ่งสามารถชมกวางท่ามกลางกลีบซากุระที่ร่วงลงมาบนพื้นจนเหมือนพรมที่ปูด้วยกลีบซากุระ นอกจากนี้ยังมีบริเวณรอบวัดโทไดจิและวัดโคฟุคุจิที่พลาดไม่ได้เช่นกัน
ที่อยู่: Kasugano-cho ittai, Noborioji-cho, Zoshi-cho, Takahata-cho, Nara-shi, Nara（MAP）
พยากรณ์ซากุระ: ปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน
ค่าเข้า: ไม่มี
การเดินทาง: นั่งรถบัสจากสถานี Nara รถไฟ JR หรือ รถไฟ Kintetsu ลงที่ป้าย Todaijidaibutsuden Katsugataisha แล้วเดินต่ออีก 5 นาที
เว็บไซต์(ภาษาอังกฤษ): http://nara-park.com/en/
ปราสาทฮิโคะเนะมีประวัติอันยาวนานและถูกยกให้เป็นสมบัติแห่งชาติ จุดนี้เป็นจุดชมซากุระอันขึ้นชื่อของจังหวัดชิกะ ที่นี่มีต้นซากุระกว่า 1,200 ต้นและตอนกลางคืนยังมีการประดับไฟอีกด้วย ยิ่งได้ชมเงาสะท้อนบนผิวน้ำของกำแพงหินและซากุระที่บานสะพรั่งจากเรือญี่ปุ่นที่ลอยรอบคูน้ำโดยรอบปราสาทยิ่งเป็นความสวยงามตระการตาจนแทบหยุดหายใจเลยละ
ที่อยู่: 1-1 Konki-cho, Hikone, Shiga （MAP）
พยากรณ์ซากุระ: 1 เมษายน ถึง 20 เมษายน
เวลาเปิด: 8.30-17.00 น. (เวลาเข้าชมปราสาทฮิโคะเนะ)
ค่าเข้า: ผู้ใหญ่ 800 เยน นักเรียนประถมและมัธยมต้น 200 เยน (รวมค่าเข้าชมปราสาทฮิโคะเนะ)
การเดินทาง: เดิน 15 นาทีจากสถานี Hikone สาย JR Biwako
เว็บไซต์(ภาษาอังกฤษ): http://www.hikoneshi.com/en/
1. สวนโยโดกาวะคะเซ็นโค (เกียวโต)
ทางเดินระหว่างแม่น้ำอุจิและแม่น้ำคิสุระยะทางกว่า 1.4 เมตร เต็มไปด้วยต้นซากุระพันธุ์โซเมอิโยชิโนะกว่า 250 ต้น แนะนำให้ขึ้นไปบนหอชมวิวซากุระเดะไอคันที่มีความสูง 25 เมตร เพื่อชมวิวซากุระโดยรอบ นอกจากนี้ยิ่งในช่วงที่ซากุระบานเต็มที่ที่ทางเดินริมแม่น้ำจะเหมือนเดินอยู่ในอุโมงค์ซากุระสีสมพู ถือเป็นจุดที่สามารถชมซากุระอันตระการตาได้ แนวซากุระในบริเวณนี้อาจจะคนเยอะเสียหน่อยแต่ถ้าเดินจากทางเดินริมแม่น้ำลงมาก็จะเจอกับสนามกว้างที่คนไม่เยอะเท่า สามารถค่อยๆสัมผัสความงามของซากุระได้อย่างสบายใจ
ที่อยู่: Yawatazaiouji, Yawata-shi, Kyoto （MAP）
พยากรณ์ซากุระ: 1 เมษายน ถึง 10 เมษายน
ค่าเข้า: ไม่เสีย (เข้าชมหอชมวิวในช่วงเทศกาลซากุระเซะวาริเต ตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคมถึง 10 เมษายน 2018 มีค่าใช้จ่าย โดยนักเรียนมัธยมปลายขึ้นไป ราคา 300 เยน นักเรียนประถมและมัธยมต้น 100 เยน)
การเดินทาง: เดิน 10 นาทีจากสถานี Yawata สาย Keihan Honsen
เว็บไซต์(ภาษาอังกฤษ): https://www.yodogawa-park.go.jp/en/
2. มะตะเบะซากุระ (ฮงโกโนะทาคิซากุระ) นารา
ต้นซากุระที่ยืนต้นเดี่ยวห้อยระย้าด้วยลักษณะดังกล่าวหลายคนจึงเรียกซากุระแบบนี้ว่าฮงโกโนะทาคิซากุระหรือแปลว่าซากุระน้ำตก จุดที่คนให้ความสนใจมากคือต้นซากุระพันธุ์ชิดาเระที่มีความสูงถึง 13 เมตร ลำต้นโดยรอบกว้าง 3 เมตร ตัดกับดอกพีชที่บานอยู่ด้านหลัง บรรยากาศสดชื่นสุดๆ โดยชื่อเรียกของต้นซากุระมะตะเบะนี้มาจากชื่อของซามูไรมะตะเบะ โกโต ผู้ที่เข้าร่วมการโจมตีปราสาทโอซาก้าในสงครามยุคเซ็นโกคุ แม้บริเวณซากุระต้นนี้จะได้รับความนิยมมากแต่เนินเขารอบๆกลับเงียบสงบ การเดินทางสามารถเดินทางโดยลงรถที่สถานีรถไฟ Haibara จากนั้นนั่งรถบัส Nara Kotsu มาลงที่ป้าย Ouda Koko เดินชมบรรยากาศชนบทในญี่ปุ่นระหว่างทางประมาณ 20 นาทีก็จะถึงที่หมาย บอกเลยว่าอย่าพลาดมาชมความงามของต้นซากุระต้นนี้ให้ได้สักครั้งเพราะมันคุ้มค่าจริงๆ
ที่อยู่: Hongo, Ouda, Uda-Shi, Nara（MAP）
พยากรณ์ซากุระ: ต้นเดือนเมษายน
ค่าเข้า: 100 เยน
การเดินทาง: นั่งรถไฟ Kintetsu สถานี Haibara สาย Osaka แล้วนั่งรถบัส Nara Kotsu ประมาณ 18 นาทีลงที่ป้ายรถบัส Ouda Koko จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 20 นาที
เว็บไซต์(ภาษาญี่ปุ่น): http://www.city.uda.nara.jp/sin-kankou/guide/flower/f01.html
※บทความข้างต้นเก็บรวบรวมข้อมูลเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2018
※ช่วงเวลาซากุระบานอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามสภาพอากาศ ควรตรวจสอบกับทางเว็บไซต์ทางการก่อนออกเดินทาง
1. ภูเขาโยชิโนะยามะ (นารา)
ที่หุบเขานี้ปกคลุมไปด้วยต้นซากุระพันธุ์ชิโระยามะซากุระซึ่งเป็นซากุระภูเขาที่มีมาตั้งแต่สมัยก่อนของญี่ปุ่น โดยต้นซากุระทั้ง 3 หมื่นต้นของที่นี่แบ่งออกเป็น 4 ส่วนด้วยกันคือส่วนล่าง ส่วนกลาง ส่วนบน และส่วนในของภูเขา ต้นซากุระบานสะพรั่งปกคลุมไปทั่วทั้งภูเขาจนมีคำกล่าวว่าเพียงแค่พริบตาเดียวก็เห็นซากุระที่สวยงามตระการตาได้ถึงพันต้น หรือที่เรียกว่า"หนึ่งพริบตาหนึ่งพันต้น" จุดที่อยากแนะนำเป็นพิเศษเลยคือวิวจากศาลเจ้าโยชิมิสุซึ่งมองเห็นซากุระบริเวณตอนกลางและตอนบนของหุบเขา ได้ทอดสายตาชมวิวซากุระและชมไฟประดับตอนกลางคินยิ่งเป็นจุดที่พลาดไม่ได้เลยละ
รายละเอียด
Yoshinoyamaที่อยู่: Yoshinoyama, Yoshino-cho, Yoshino-gun, Nara（MAP）
พยากรณ์ซากุระ: ต้นเดือนเมษายนถึงกลางเดือนเมษายน
ค่าเข้า: ไม่เสีย
การเดินทาง: จากสถานี Yoshino สาย Kintetsu Yoshino ให้นั่งรถบัสพิเศษ Nara Kotsu ประมาณ 20 นาที ลงที่ป้าย Nakasenbon Koen
เว็บไซต์(ภาษาอังกฤษ): http://www.yoshinoyama-sakura.jp/english/
2. แนวต้นซากุระ บริเวณโรงกษาปณ์ (โอซาก้า)
ในแต่ละปีแนวต้นซากุระนี้จะบานสะพรั่งเป็นระยะเวลา 1 อาทิตย์เท่านั้น สองข้างฝั่งของถนนที่เปิดให้เดินทางเดียวตั้งแต่ประตูใต้ของโรงกษาปณ์ถึงประตูเหนือ รวมระยะทางกว่า 560 เมตรนี้มีต้นซากุระกว่า 130 ชนิด รวมๆแล้วก็กว่า 350 ต้น ไฮไลท์ของที่นี่คือสามารถชมดอกซากุระพันธุ์ที่หายากได้ เพราะที่นี่เต็มไปด้วยซากุระพันธุ์ยาเอะซากุระซึ่งแตกต่างกับพันธุ์โซเมอิโยชิโนะที่พบเห็นได้ทั่วไป
รายละเอียด
Japan Mint Cherry Blossom Viewingที่อยู่: 1-1-79,Temma, Kita-ku, Osaka-shi, Osaka（MAP）
พยากรณ์ซากุระ: กลางเดือนเมษายน (รายละเอียดเพิ่มเติมตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์ทางการ)
ค่าเข้า: ไม่เสีย
การเดินทาง: เดิน 15 นาทีจากรถไฟใต้ดินหรือรถไฟ Keihan สถานี Temmabashi
เว็บไซต์(ภาษาอังกฤษ): https://www.mint.go.jp/category/eng
3. สวนปราสาทโอซาก้า (โอซาก้า)
ภายในสวนปราสาทโอซาก้าได้ปลูกต้นซากุระกว่า 3,000 ต้น จุดที่พลาดไม่ได้คือสวนนิชิโนะมารุเทเอ็นซึ่งเป็นสถานที่ชมซากุระชื่อดัง ที่จุดนี้สามารถชมความงามของดอกซากุระที่กำลังบานเต็มที่และวิวปราสาทโอซาก้าไปพร้อมกัน และในทุกปีจะมีการจัดแสดงไฟในตอนกลางคืนที่สวนนิชิโนะมารุเทเอ็น (24 มีนาคม - 15 เมษายน 2018) สวยงามราวกับอยู่ในฝันเลยละ
รายละเอียด
Osaka Castle Parkที่อยู่: Osaka Castle, Chuo-ku, Osaka-shi, Osaka（MAP）
พยากรณ์ซากุระ: ปลายเดือนมีนาคมถึงกลางเดือนเมษายน
ค่าเข้า: ไม่เสีย (ค่าเข้าชมสวนนิชิโนะมารุเทเอ็น 200 เยน, จัดแสดงไฟซากุระตอนกลางคืน 350 เยน)
การเดินทาง: เดิน 10 นาทีจากรถไฟใต้ดินสถานี Tanimachi Yonchome
เว็บไซต์(ภาษาภาษาอังกฤษ): http://osakacastlepark.jp/foreinger/english.html
4. สวนสาธารณะอนุสรณ์บัมบาคุ (โอซาก้า)
สวนสาธารณะอนุสรณ์บัมบาคุได้รับเลือกเป็นหนึ่งใน 100 สุดยอดสถานที่ชมซากุระของญี่ปุ่น จุดที่เป็นไฮไลท์คือการชมแนวต้นซากุระสีชมพูบริเวณโดยรอบหอคอยพระอาทิตย์ในสวนธรรมชาติและวัฒนธรรม (Natural and Cultural Gardens) ที่ออกแบบโดยศิลปินชื่อดังอย่างคุณทาโร่ โอกาโมโตะ ในช่วงเทศกาลซากุระ (28 มีนาคม ถึง 15 เมษายน 2018 ) สวนจะขยายเวลาเปิดถึงเวลา 21.00 น. (เข้าสวนได้ถึง 20.30 น.) ซึ่งช่วงเทศกาลซากุระนี้จะมีการจัดแสดงไฟตอนกลางคืนและหอคอยพระอาทิตย์ก็เปิดให้ชมด้านใน (จำเป็นต้องจองบนหน้าเว็บไซต์ก่อน) แม้การจองในช่วงซากุระบานจะเต็มเร็วเสียหน่อย แต่ถ้าได้มีโอกาสมาชมด้านในหอคอยก็ถือเป็นโอกาสที่คุ้มค่าจริงๆ ใครวางแผนจะมาเที่ยวโอซาก้าละ ลิสต์ที่นี่ไว้ในแผนเที่ยวก็ดีไม่น้อยเชียวละ
รายละเอียด
Expo’70 Commemorative Parkที่อยู่: Senribampaku Kinen Koen, Suita-shi, Osaka（MAP）
พยากรณ์ซากุระ: ปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน
ค่าเข้า: ผู้ใหญ่ 250 เยน นักเรียนประถมและมัธยมต้น 70 เยน
การเดินทาง: เดิน 5 นาที จากรถไฟโมโนเรล สถานี Bampaku-Kinen-Koen
เว็บไซต์(ภาษาอังกฤษ): http://www.expo70-park.jp/languages/english/
5. ปราสาทฮิเมจิ (เฮียวโกะ)
ภายในมรดกโลกอย่างปราสาทฮิเมจิ มีต้นซากุระพันธุ์โซเมอิโยชิโนะและพันธุ์ชิดาเระซากุระกว่า 1,000 ต้น ตัวปราสาทและกำแพงสีขาวตัดกับสีของดอกไม้ช่างทำให้บรรยากาศสดชื่นเสียจริงๆ ที่สวนญี่ปุ่นนิฮงเทเอ็น โคโคะเอ็นเป็นจุดที่สามารถชมเงาสะท้อนของซากุระบนผิวน้ำ และที่ต้องขอแนะนำเลยคือการนั่งเรือไม้แบบญี่ปุ่นค่อยๆซึมซับบรรยากาศที่คูน้ำรอบปราสาท พลาดไม่ได้จริงๆ
รายละเอียด
Himeji Castleที่อยู่: 68 Honmachi, Himeji, Hyogo（MAP）
พยากรณ์ซากุระ: ต้นเดือนเมษายน
ค่าเข้า: ไม่มี
การเดินทาง: เดิน 20 นาทีจากรถไฟ JR สถานี Himeji หรือรถไฟ Sanyo Dentetsu สถานี Himeji
เว็บไซต์(ภาษาไทย): https://www.himeji-kanko.jp/th/
6.แม่น้ำชูคุกาวะ (เฮียวโกะ)
แนวซากุระทอดยาวตลอดสองฝั่งของแม่น้ำชูคุกาวะตลอดระยะทางกว่า 2.8 กิโลเมตร เป็นจุดที่สามารถมานั่งปิกนิกค่อยๆชมความงามของซากุระได้อย่างสบายใจ ที่นี่ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในร้อยสุดยอดจุดชมซากุระโดยที่แม่น้ำแห่งนี้มีดอกซากุระพันธุ์โซเมอิโยชิโนะมากถึง 1,660 ต้น ถือเป็นหนึ่งในจุดชมซากุระที่ดีที่สุดในจังหวัดเฮียวโกะเลยทีเดียว
รายละเอียด
Shukugawa Riverside Parkที่อยู่: Oidemachi hoka, Nishinomiya, Hyogo（MAP）
พยากรณ์ซากุระ: ปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน
ค่าเข้า: ไม่มี
การเดินทาง: ติดกับทางออกสถานี Shukugawa สาย Hankyu Kobe หรือสถานี Kurakuenguchi สาย Hankyu Koyo หากเดินทางด้วย JR ติดกับสถานี Sakura Shukugawa หรือ สถานี Kouroen สาย Hanshin honsen
เว็บไซต์(ภาษาญี่ปุ่น): https://www.nishi.or.jp/access/koen/shukugawa.html
7. สวนกวางนารา (นารา)
สวนกวางนารานอกจากจะมีชื่อเสียงเรื่องกวางแล้ว ที่นี่ก็ขึ้นชื่อเรื่องซากุระเช่นกัน โดยที่นี่มีต้นซากุระกว่า 1,700 ต้น เป็นที่รู้กันว่าที่นี่มีดอกซากุระหลากหลายชนิดและมีช่วงซากุระบานนาน จุดที่พลาดไม่ได้คือบริเวณรอบๆสระน้ำอุคิมิโดะ ซึ่งสามารถชมกวางท่ามกลางกลีบซากุระที่ร่วงลงมาบนพื้นจนเหมือนพรมที่ปูด้วยกลีบซากุระ นอกจากนี้ยังมีบริเวณรอบวัดโทไดจิและวัดโคฟุคุจิที่พลาดไม่ได้เช่นกัน
รายละเอียด
Nara Parkที่อยู่: Kasugano-cho ittai, Noborioji-cho, Zoshi-cho, Takahata-cho, Nara-shi, Nara（MAP）
พยากรณ์ซากุระ: ปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน
ค่าเข้า: ไม่มี
การเดินทาง: นั่งรถบัสจากสถานี Nara รถไฟ JR หรือ รถไฟ Kintetsu ลงที่ป้าย Todaijidaibutsuden Katsugataisha แล้วเดินต่ออีก 5 นาที
เว็บไซต์(ภาษาอังกฤษ): http://nara-park.com/en/
8. ปราสาทฮิโคะเนะ (ชิกะ)
ปราสาทฮิโคะเนะมีประวัติอันยาวนานและถูกยกให้เป็นสมบัติแห่งชาติ จุดนี้เป็นจุดชมซากุระอันขึ้นชื่อของจังหวัดชิกะ ที่นี่มีต้นซากุระกว่า 1,200 ต้นและตอนกลางคืนยังมีการประดับไฟอีกด้วย ยิ่งได้ชมเงาสะท้อนบนผิวน้ำของกำแพงหินและซากุระที่บานสะพรั่งจากเรือญี่ปุ่นที่ลอยรอบคูน้ำโดยรอบปราสาทยิ่งเป็นความสวยงามตระการตาจนแทบหยุดหายใจเลยละ
รายละเอียด
Hikone Castleที่อยู่: 1-1 Konki-cho, Hikone, Shiga （MAP）
พยากรณ์ซากุระ: 1 เมษายน ถึง 20 เมษายน
เวลาเปิด: 8.30-17.00 น. (เวลาเข้าชมปราสาทฮิโคะเนะ)
ค่าเข้า: ผู้ใหญ่ 800 เยน นักเรียนประถมและมัธยมต้น 200 เยน (รวมค่าเข้าชมปราสาทฮิโคะเนะ)
การเดินทาง: เดิน 15 นาทีจากสถานี Hikone สาย JR Biwako
เว็บไซต์(ภาษาอังกฤษ): http://www.hikoneshi.com/en/
แนะนำจากกองบรรณาธิการ! จุดชมซากุระที่คนยังไม่ค่อยรู้จัก
เมื่อพูดถึงจุดชมซากุระดังๆแล้วละก็ คงหนีไม่พ้นการเบียดเสียดวุ่นวาย แต่ตรงบริเวณลานกว้างเขยิบจากบริเวณอุโมงค์ซากุระสีชมพูในสวนโยโดกาวะคะเซ็นโคเอ็นที่ได้รับความนิยมมาเล็กน้อย จะเป็นพิ้นที่กว้างและเป็นจุดที่คนไม่ค่อยรู้จักซึ่งเราสามารถมาชมซากุระได้อย่างสบายใจ ที่นี่เดินทางจากในเมืองเกียวโตก็ง่ายดังนั้นต้องมาลองเที่ยวให้ได้สักครั้ง นอกจากนี้ยังมีต้นซากุระมะตะเบะซากุระที่เป็นอีกหนึ่งจุดไฮไลท์ เพราะเป็นซากุระแบบระย้าต้นใหญ่พร้อมก้บการชมดอกพีชที่กำลังบานพร้อมกันนับว่าคุ้มค่าจริงๆ1. สวนโยโดกาวะคะเซ็นโค (เกียวโต)
ทางเดินระหว่างแม่น้ำอุจิและแม่น้ำคิสุระยะทางกว่า 1.4 เมตร เต็มไปด้วยต้นซากุระพันธุ์โซเมอิโยชิโนะกว่า 250 ต้น แนะนำให้ขึ้นไปบนหอชมวิวซากุระเดะไอคันที่มีความสูง 25 เมตร เพื่อชมวิวซากุระโดยรอบ นอกจากนี้ยิ่งในช่วงที่ซากุระบานเต็มที่ที่ทางเดินริมแม่น้ำจะเหมือนเดินอยู่ในอุโมงค์ซากุระสีสมพู ถือเป็นจุดที่สามารถชมซากุระอันตระการตาได้ แนวซากุระในบริเวณนี้อาจจะคนเยอะเสียหน่อยแต่ถ้าเดินจากทางเดินริมแม่น้ำลงมาก็จะเจอกับสนามกว้างที่คนไม่เยอะเท่า สามารถค่อยๆสัมผัสความงามของซากุระได้อย่างสบายใจ
รายละเอียด
Yodogawa Parkที่อยู่: Yawatazaiouji, Yawata-shi, Kyoto （MAP）
พยากรณ์ซากุระ: 1 เมษายน ถึง 10 เมษายน
ค่าเข้า: ไม่เสีย (เข้าชมหอชมวิวในช่วงเทศกาลซากุระเซะวาริเต ตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคมถึง 10 เมษายน 2018 มีค่าใช้จ่าย โดยนักเรียนมัธยมปลายขึ้นไป ราคา 300 เยน นักเรียนประถมและมัธยมต้น 100 เยน)
การเดินทาง: เดิน 10 นาทีจากสถานี Yawata สาย Keihan Honsen
เว็บไซต์(ภาษาอังกฤษ): https://www.yodogawa-park.go.jp/en/
■สถานที่แนะนำในการชมซากุระในเกียวโตยังมีอีก! บทความเกี่ยวกับซากุระจาก DiGJAPAN! คลิกที่นี่
◇Best10! ซากุระนี้ที่เกียวโต ฝั่งตะวันออก
2. มะตะเบะซากุระ (ฮงโกโนะทาคิซากุระ) นารา
ต้นซากุระที่ยืนต้นเดี่ยวห้อยระย้าด้วยลักษณะดังกล่าวหลายคนจึงเรียกซากุระแบบนี้ว่าฮงโกโนะทาคิซากุระหรือแปลว่าซากุระน้ำตก จุดที่คนให้ความสนใจมากคือต้นซากุระพันธุ์ชิดาเระที่มีความสูงถึง 13 เมตร ลำต้นโดยรอบกว้าง 3 เมตร ตัดกับดอกพีชที่บานอยู่ด้านหลัง บรรยากาศสดชื่นสุดๆ โดยชื่อเรียกของต้นซากุระมะตะเบะนี้มาจากชื่อของซามูไรมะตะเบะ โกโต ผู้ที่เข้าร่วมการโจมตีปราสาทโอซาก้าในสงครามยุคเซ็นโกคุ แม้บริเวณซากุระต้นนี้จะได้รับความนิยมมากแต่เนินเขารอบๆกลับเงียบสงบ การเดินทางสามารถเดินทางโดยลงรถที่สถานีรถไฟ Haibara จากนั้นนั่งรถบัส Nara Kotsu มาลงที่ป้าย Ouda Koko เดินชมบรรยากาศชนบทในญี่ปุ่นระหว่างทางประมาณ 20 นาทีก็จะถึงที่หมาย บอกเลยว่าอย่าพลาดมาชมความงามของต้นซากุระต้นนี้ให้ได้สักครั้งเพราะมันคุ้มค่าจริงๆ
รายละเอียด
Matabee Sakuraที่อยู่: Hongo, Ouda, Uda-Shi, Nara（MAP）
พยากรณ์ซากุระ: ต้นเดือนเมษายน
ค่าเข้า: 100 เยน
การเดินทาง: นั่งรถไฟ Kintetsu สถานี Haibara สาย Osaka แล้วนั่งรถบัส Nara Kotsu ประมาณ 18 นาทีลงที่ป้ายรถบัส Ouda Koko จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 20 นาที
เว็บไซต์(ภาษาญี่ปุ่น): http://www.city.uda.nara.jp/sin-kankou/guide/flower/f01.html
※บทความข้างต้นเก็บรวบรวมข้อมูลเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2018
※ช่วงเวลาซากุระบานอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามสภาพอากาศ ควรตรวจสอบกับทางเว็บไซต์ทางการก่อนออกเดินทาง
ถ้าชอบบทความนี้ กดถูกใจให้ด้วยนะ
บทความนี้เขียนขึ้นเมื่อ 01/04/2018 เรื่องโดย：กองบรรณาธิการ DiGJAPAN!
ความคิดเห็นล่าสุด | 0ความคิดเห็น
หากเป็นสมาชิก DiGJAPAN!
จะสามารถโพสต์คอมเม้นท์ได้
สมัครสมาชิก