- TOP
- ปรับแต่งรายการผลการค้นหา
- คอลัมน์พิเศษเชิงลึก “Tokorozawa Sakura Town” ศูนย์รวมวัฒนธรรมป๊อปที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น
บทความ
คอลัมน์พิเศษเชิงลึก “Tokorozawa Sakura Town” ศูนย์รวมวัฒนธรรมป๊อปที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น
- TOKYO
- SAITAMA
- ช้อปปิ้ง
- ท่องเที่ยว
- ประสบการณ์ใหม่ๆ
- ศิลปวัฒนธรรม
- SPECIAL
- พิพิธภัณฑ์ศิลปะ
- ห้องสมุด
- นักชิม
- ศิลปะ
สถานที่แนะนําสําหรับผู้ที่ต้องการออกไปเที่ยวชมอนิเมะหรือมังงะของญี่ปุ่น ! ขอแนะนํา “Tokorozawa Sakura Town” แหล่งคอมเพล็กซ์ที่สร้างขึ้นโดย KADOKAWA ซึ่งหนึ่งในสำนักพิมพ์มังงะและไลท์โนเวลชั้นนําของญี่ปุ่น ภายในอาคารที่อยู่ภายใต้การดูแลด้านการออกแบบของสถาปนิกชื่อดังระดับโลก คือ คุณเคนโงะ คูมะ มีงานจัดแสดงต่าง ๆ ห้องสมุด อาหารรสเลิศ ร้านค้า และแม้แต่ศาลเจ้าอยู่ด้วย ทำไมไม่ลองมาสนุกกับวัฒนธรรมป๊อปของญี่ปุ่นตลอดวันเลยล่ะ ?
สถานีที่ใกล้ที่สุด คือ สถานีฮิงาชิโทโกโรซาวะ ซึ่งเดินทางโดยรถไฟจากสถานีโตเกียวใช้เวลาประมาณ 45 นาที
นอกจากนี้ยังมีรถไฟไปถึงจากสถานีอิเกบูกูโระ ซึ่งเป็นย่านที่มีร้านอนิเมะอยู่เป็นจำนวนมาก เดินทางจากสถานีอิเกบูกูโระไปยังสถานีฮิงาชิโทโกโรซาวะจะใช้ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ดังนั้นหากคุณชอบอนิเมะ ขอแนะนําให้ไปแวะเวียนร้านต่าง ๆ ในย่านนั้น https://tokorozawa-sakuratown.com/en/
นอกจากนี้ ยังมีการกล่าวกันว่าเนินซายามะในเมืองโทโกโรซาวะซึ่งเป็นที่ตั้งของ Tokorozawa Sakura Town เป็นสถานที่ที่เป็นต้นแบบของป่าในภาพยนตร์อนิเมะของ Ghibli ในเรื่องโทโทโร่เพื่อนรัก (My Neighbor Totoro) ซึ่งเป็นผลงานของของผู้กำกับฮายาโอะ มิยาซากิ แม้ว่าจะอยู่ไกลจากโตเกียวสักหน่อย แต่ก็ขอให้ไปเยือนเมืองที่มีความเกี่ยวข้องกับงานเรื่องต่าง ๆ คุณจะได้เห็นภาพอนิเมะทันทีที่ได้ไปถึงสถานีฮิงาชิโทโกโรซาวะ !
ภาพที่วาดบนฝาผนังวาดโดยคุณซูชิโอะ นักวาดการ์ตูนอนิเมะที่เป็นคนจังหวัดไซตามะ ผู้ที่ทำงานออกแบบตัวละครอนิเมะต่าง ๆ เช่น”Kill la Kill” เป็นต้น
หลังจากลงรถที่สถานีรถไฟแล้ว เดินประมาณ 10 นาทีก็จะถึง Tokorozawa Sakura Town
ในระหว่างที่มุ่งหน้าไปยัง Tokorozawa Sakura Town ขอให้คอยสังเกตดูที่เท้าด้วย เพราะจะมีภาพตัวละครยอดนิยมที่วาดอยู่บนฝาท่อ
ก่อนอื่นอย่าลืมถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกกันนะ ภาพจะเปลี่ยนไปตามมุมต่าง ๆ ! นอกจากนี้ยังมีผลงานศิลปะสาธารณะของคุณโยชิโมโตะ นาระ ที่สระน้ำอีกด้วย
สามารถซื้อตั๋วได้ที่ทางเข้าในวันที่มา
ขอแนะนําบัตรเข้าชม 1-DAY Passport ที่สามารถเที่ยวชมได้ทั้งห้องสมุดและพิพิธภัณฑ์ที่อยู่ตั้งแต่ชั้น 1-5 ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับช่วงเวลา (*ไม่รวมพิพิธภัณฑ์ EJ Anime ที่อยู่ชั้น 3)
จุดที่อยากให้เที่ยวชมอันดับแรกที่ห้ามพลาด คือ ห้องสมุดและโรงละครชั้นหนังสือ “Edit Town - Book Street” เป็นส่วนหนึ่งของห้องสมุด มีลักษณะเหมือนเป็นเมืองแห่งหนังสือตามชื่อที่ตั้ง เรียงรายอัดแน่นไปด้วยหนังสือ 25,000 เล่มที่คัดสรรมาจาก 9 หัวเรื่อง แม้จะไม่สามารถยืมหนังสือออกไปได้ แต่ก็สามารถหยิบอ่านได้ตามอัธยาศัยภายในบริเวณนี้ นอกจากนี้ยังมีหนังสือที่สามารถสนุกไปกับภาพต่าง ๆ ได้ อย่างเช่น สมุดภาพแนวอูกิโยะ ฯลฯ จึงอยากขอให้ตั้งใจอ่านกันดูนะ
ด้านในสุดของ Book Street จะมีโรงละครชั้นหนังสืออยู่ เป็นพื้นที่หนังสือที่ห้อมรอบไปด้วยชั้นหนังสือขนาดใหญ่มหึมาประมาณ 8 เมตร ซึ่งเป็นไฮไลต์สุดยอด ! และยังสามารถเพลิดเพลินไปกับการฉาย projection mapping ที่จะมีชั่วโมงละ 3 รอบ
ในช่วงที่มาสัมภาษณ์ เป็นการฉายเรื่อง “เล่นสนุกกับหนังสือ” แต่จะมีการหมุนเวียนเปลี่ยนเนื้อหาเป็นประจํา โปรดอย่าพลาดการแสดงที่สวยงามราวกับว่าหนังสือมีชีวิตและเคลื่อนไหวได้
หากตรงไปถึงด้านในสุดของโรงละครชั้นหนังสือ จะเจอคลังหนังสืออยู่บนขั้นบันได และยังมีพิพิธภัณฑ์ที่มีการจัดแสดงด้านวัฒนธรรมป๊อปและสิ่งพิมพ์อยู่ใน Book Street อีกด้วย ขอเชิญเดินเล่นด้วยความรู้สึกของการผจญภัย !
พบลายเซ็นของคุณเคนโงะ คูมะแล้ว !
ต่อไปเราจะไปยังห้องสมุดมังงะและนวนิยาย
มีไลท์โนเวล หนังสือเด็ก หนังสือการ์ตูน และอื่น ๆ อีก รวมแล้วราว 37,000 เล่ม ตรงนี้ก็เป็นจุดที่สามารถใช้เวลาค่อย ๆ อ่านหนังสือได้ตามสบายอีกเช่นกัน หนังสือส่วนใหญ่เป็นภาษาญี่ปุ่น แต่ก็มีหนังสือบางส่วนที่เป็นหนังสือแปลด้วย นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงภาพและตัวฟิกเกอร์การ์ตูนของคุณมาโมรุ โฮโซดะ ซึ่งเป็นทั้งผู้กํากับและนักวาดการ์ตูนอนิเมะ และการจัดแสดงอื่น ๆ อีกด้วย ยังไงลองแวะเข้าไปดูให้ได้นะ
Creative Direction: Gianfranco Iannuzzi
Created by Gianfranco Iannuzzi - Renato Gatto – Massimiliano Siccardi
KCM Editing: Rino Tagliafierro
Production: Culturespaces Digital ®
ภายในพิพิธภัณฑ์ EJ Anime ที่อยู่ชั้น 3 มีการจัดแสดงที่เกี่ยวกับอนิเมะหมุนเวียนเปลี่ยนไปเป็นประจํา
ขณะนี้กำลังจัดแสดง “นิทรรศการ THE Kamen Rider (ไอ้มดแดง)” ไปจนถึงวันที่ 6 พฤษภาคม 2024
โปรดเข้าชมโดยตรวจดูข้อมูลล่าสุดจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ !
ต่อไปเราจะไปยังศาลเจ้าที่อยู่ภายในบริเวณนี้กัน
อาคารศาลเจ้าได้รับการออกแบบโดยคุณเคนโงะ คูมะ
อย่าลืมแวะไปนมัสการที่อาคารศาลเจ้าที่ผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมของศาลเจ้าแบบดั้งเดิมกับการออกแบบร่วมสมัย
จากแนวคิดที่ว่าผลงานศิลปะเป็นทั้งสิ่งที่สร้างถวายเทพเจ้าและเป็นทั้งสิ่งที่เทพเจ้าประทานมาให้ จึงมีความศักดิ์สิทธิ์ด้านการส่งเสริมผู้สร้างผลงานวรรณกรรม ศิลปะ การแสดง ฯลฯ และความศักดิ์สิทธิ์ด้านความปลอดภัยในการเดินทาง นอกจากนี้ยังมีความศักดิ์สิทธิ์ด้านเนื้อคู่ที่ช่วยให้คุณได้มาพบพานกับผลงานที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย ! ขั้นแรกขอให้ล้างมือให้บริสุทธิ์ ในบางช่วงเวลาโรงล้างมือที่มีรูปร่างเหมือนเรือจะมีการประดับตกแต่งด้วยดอกไม้ หากเห็นในช่วงเวลานั้น ก็ถือเป็นโชคดีของคุณ !
วิธีสักการะนั้นง่ายมาก โค้งคำนับ 2 ครั้ง และตบมือ 2 ครั้ง หลังจากขอพรแล้วจะโค้งคํานับอีกครั้งก็ได้
ภายในอาคารศาลเจ้าจะมีหมาป่าญี่ปุ่นที่เป็นไม้แกะสลักตั้งอยู่ในศาลเจ้าแทนที่จะเป็นสิงโตคู่
บนเพดานมีผลงานการวาดภาพนกฟีนิกซ์ hermaphrodite ที่ละเอียดอ่อนงดงามและสวยงามโดยคุณโยชิตากะ อามาโนะ ผู้ทำงานออกแบบตัวละครในซีรีส์ “Final Fantasy” ที่เป็นเกมยอดฮิต หากตั้งใจมองดูดี ๆ คุณน่าจะเห็นรูปหัวใจลอยอยู่ระหว่างนกทั้งสองตัว ช่างเป็นภาพวาดเพดานที่อยากจะค่อย ๆ ทอดสายตาชม
สำหรับบุคคลทั่วไป จะไม่สามารถเข้าไปภายในอาคารศาลเจ้าได้ แต่สามารถเข้าไปได้เมื่อมีการจัดงานเทศกาลและสวดขอพรเป็นพิเศษ
การสวดขอพร คือการที่ผู้ประกอบพิธีของศาลเจ้าสื่อสารกับเทพเจ้าเรื่องการขอพรของผู้มาสักการะด้วยพิธีกรรมตั้งแต่โบราณโดยใช้ภาษาญี่ปุ่นโบราณที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะญี่ปุ่น
ในประเทศญี่ปุ่น คนจำนวนมากจะมาเมื่อต้องการขอพรพิเศษหรือเมื่ออยู่ในจุดเปลี่ยนของชีวิต
หากคุณไม่มีข้อจำกัดทางศาสนาและอยากลองอธิษฐานขอพรกับเทพเจ้าของญี่ปุ่น จะลองขอพรดูก็ได้นะ ซึ่งสามารถแจ้งเพื่อทำการขอพรได้ในวันที่ไปเลย โปรดชมวิธีการขั้นตอนจากวิดีโอนี้ (มีเฉพาะภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น) : https://www.youtube.com/watch?v=Qn7MyUpeuaM
มีวัตถุมงคลหลายอย่างที่สามารถหาได้ที่นี่เท่านั้น อย่างเช่น เครื่องรางช่วยให้ทันกำหนดเวลา เซียมซีแปลก ๆ และตราประทับศักดิ์สิทธิ์ที่มีรูปตัวอนิเมะ (ตราประทับศักดิ์สิทธิ์ คือ ตราบันทึกสายสัมพันธ์กับเทพเจ้าที่จะได้รับเป็นหลักฐานว่าได้มาสักการะที่ศาลเจ้าแล้ว)
ภายในพิพิธภัณฑ์ Kadokawa Musashino และ “Tokorozawa Sakura Town” มีทั้งร้านกาแฟและร้านอาหารให้บริการ เมนูที่อยากแนะนําเป็นพิเศษก็คือ ราเม็ง !
“Ramen Walker Kitchen” เป็นร้านราเม็งที่ดําเนินงานโดย “Ramen Walker” ซึ่งเป็นนิตยสารราเม็งชื่อดังในญี่ปุ่น คุณสามารถเพลิดเพลินกับราเม็งจากทั่วประเทศญี่ปุ่นตามธีมประจำในแต่ละเดือนเป็นประจําทุกสัปดาห์
จุดที่น่าสนใจคือการที่เจ้าของร้านราเม็งจะเดินทางมาทําราเม็งด้วยตัวเองเลย
แม้จะไม่ได้ดั้นด้นไปไกล ๆ แต่ก็สามารถอร่อยไปกับรสชาติดั้งเดิมของร้านราเม็งชื่อดังได้
มีการถ่ายทอดบรรยากาศจากในห้องครัวทาง Youtube เพียงแค่ได้ชมก็รู้สึกสนุกแล้ว
หัวข้อของการสัมภาษณ์ คือ “ความรักใน “Tohoku”: LOVE” โดยมีร้าน “Kurofune” ซึ่งเป็นร้านชื่อดังในจังหวัดอิวาเตะมาออกร้าน อร่อยไปกับซุปรสเลิศที่เน้นปลาซัมมะจากแถบซันริคุพร้อมกับเส้นราเม็งเล็ก ๆ ที่ผ่านการนวดเส้นมาเป็นอย่างดี !
เมื่อจะใช้บริการ จำเป็นจะต้องซื้อตั๋วอาหารก่อน
ทันทีที่เข้าไปในร้าน เพียงแค่เลือกเมนูที่อยากรับประทานที่เครื่องขายตั๋วและชําระเงินเท่านั้น นอกจากเงินสดแล้ว ยังสามารถชำระเป็นบัตรเครดิตได้ด้วย เมื่อได้รับตั๋วอาหารจากเครื่องแล้ว ขอให้ยื่นให้พนักงาน
สําหรับนักเดินทางที่ชื่นชอบราเม็ง ขอแนะนํา “ตั๋วถ่ายรูปที่ระลึกกับเจ้าของร้าน”
พิเศษสุด ๆ คุณสามารถถ่ายรูปกับเจ้าของร้านราเม็งได้ฟรี !
ขอให้เลือก “ตั๋วถ่ายรูปที่ระลึกกับเจ้าของร้าน” ตรงมุมล่างด้านขวานะ ปกติแล้วถือเป็นเรื่องยากที่จะได้ถ่ายรูปกับเจ้าของร้านราเม็ง จึงอยากให้ได้มาลองถ่ายกันที่ “Ramen Walker Kitchen” ขอให้บอกความรู้สึกว่าอร่อย ! และกล่าวขอบคุณด้วยนะ
สําหรับของหวาน ขอแนะนําขนมหวานที่ทำจากมัทฉะของร้าน “Musashi Rikyu”
ร้านนี้ใช้ใบชาชนิดหนึ่งที่เรียกว่าชาซายามะที่ผลิตในท้องถิ่น
ชาซายามะเป็นชาหายากที่มีการผลิตเพียงเล็กน้อยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ร้านเฉพาะทางด้านชาซายามะก็มีเพียงไม่กี่แห่ง เพราะฉะนั้นอย่าลืมไปลองร้านนี้ดูกันนะ ซอฟต์ครีมรสมัทฉะที่ทําจากชาซายามะมีรสชาติเข้มข้น คุณสามารถอร่อยไปกับความหวานที่มีรสขมบาง ๆ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์พิเศษของมัทฉะ
สําหรับเครื่องดื่ม จะมีทั้งชาเขียวมัทฉะที่ไม่ใส่น้ำตาลและมัทฉะลาเต้ใส่นม จึงสามารถอร่อยไปกับเครื่องดื่มที่คุณชื่นชอบได้
สามารถซื้อมังงะและไลท์โนเวลต่าง ๆ ที่เป็นของญี่ปุ่นได้
มีมังงะยอดฮิตและผลงานดัง ๆ ที่ออกใหม่ นอกจากนี้ยังมีสมุดภาพที่สามารถสนุกไปกับรูปภาพได้โดยไม่จำเป็นรู้ภาษาญี่ปุ่นก็ได้ ขอเชิญลองหยิบขึ้นมาดูกันนะ
อีกทั้งยังมีลายเซ็นของผู้สร้างสรรค์ผลงานอยู่ภายในบริเวณพื้นที่ ขอให้ลองมองหาดู อาจจะมีลายเซ็นของนักเขียนคนโปรดของคุณอยู่ด้วยก็ได้ !
นอกจากนี้ยังมีสินค้าอนิเมะยอดนิยมอีกด้วย อย่างเช่น “Bungo Stray Dogs (คณะประพันธกรจรจัด)” นอกจากสินค้าอนิเมะยอดนิยมแล้ว ทําไมไม่ลองซื้อหามังงะหรือหนังสือไปเป็นของฝากจากญี่ปุ่นดูล่ะ ?
สำหรับใน “Rock Museum Shop” คุณจะสามารถซื้อสินค้าลิมิเต็ดที่มีเฉพาะที่พิพิธภัณฑ์ Musashino เท่านั้น มีตั้งแต่ช็อกโกแลตใส่กล่องที่จำลองสถาปัตยกรรมของคุณเคนโงะ คูมะ ไปจนกระทั่งสินค้าเบ็ดเตล็ดสไตล์ญี่ปุ่น ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสําหรับเป็นของฝาก เพราะฉะนั้นอย่าลืมแวะไปเยี่ยมชมกันดูนะ
คำแนะนำข้างต้นนี้เป็นอย่างไรบ้าง ?
ขอเชิญเดินทางมาสู่บรรยากาศที่ดื่มด่ำไปด้วยวัฒนธรรมป๊อปของญี่ปุ่นตลอดทั้งวัน
ที่อยู่ : 3-31-3 Wada, Higashitokorozawa, Tokorozawa City, Saitama Prefecture
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย JR มูซาชิโนะ ลงรถที่สถานีฮิงาชิโทโกโรซาวะ แล้วเดินอีกประมาณ 10 นาที
เว็บไซต์ : https://tokorozawa-sakuratown.com/en/
เวลาทําการ / วันหยุดร้านค้า : โปรดตรวจดูจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ เนื่องจากร้านค้าและร้านอาหารจะมีกำหนดเวลาที่ต่างกันไป
พิพิธภัณฑ์ Kadokawa Musashino
เวลาทําการ : 10:00 - 18:00 น. (เข้าพิพิธภัณฑ์ก่อนเวลา 17:30 น.)
วันหยุด : วันอังคาร (แต่จะเปิดทำการ หากเป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์)
เว็บไซต์ : https://kadcul.com/en/
สำนักงานศาลเจ้า / จุดรับวัตถุมงคล ศาลเจ้ามูซาชิโนะเรวะ
เวลาทำการ :
เมษายน - กันยายน 10:00 - 17:00 น. (วันเสาร์ วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เปิดถึงเวลา 18:00 น.)
ตุลาคม - มีนาคม 10:00 - 16:30 น. (วันเสาร์ วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เปิดถึงเวลา 17:00 น.)
วันปิดทำการ : วันอังคาร (แต่จะเปิดทำการ หากวันอังคารเป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์)
เว็บไซต์ : https://musashinoreiwa.jp/en/
※*บทความนี้เขียนขึ้นจากข้อมูล ณ เดือนเมษายน 2024
“Tokorozawa Sakura Town” ตั้งอยู่ที่ไหน ?
Tokorozawa Sakura Town ตั้งอยู่ในเมืองโทโกโรซาวะ จังหวัดไซตามะสถานีที่ใกล้ที่สุด คือ สถานีฮิงาชิโทโกโรซาวะ ซึ่งเดินทางโดยรถไฟจากสถานีโตเกียวใช้เวลาประมาณ 45 นาที
นอกจากนี้ยังมีรถไฟไปถึงจากสถานีอิเกบูกูโระ ซึ่งเป็นย่านที่มีร้านอนิเมะอยู่เป็นจำนวนมาก เดินทางจากสถานีอิเกบูกูโระไปยังสถานีฮิงาชิโทโกโรซาวะจะใช้ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ดังนั้นหากคุณชอบอนิเมะ ขอแนะนําให้ไปแวะเวียนร้านต่าง ๆ ในย่านนั้น https://tokorozawa-sakuratown.com/en/
นอกจากนี้ ยังมีการกล่าวกันว่าเนินซายามะในเมืองโทโกโรซาวะซึ่งเป็นที่ตั้งของ Tokorozawa Sakura Town เป็นสถานที่ที่เป็นต้นแบบของป่าในภาพยนตร์อนิเมะของ Ghibli ในเรื่องโทโทโร่เพื่อนรัก (My Neighbor Totoro) ซึ่งเป็นผลงานของของผู้กำกับฮายาโอะ มิยาซากิ แม้ว่าจะอยู่ไกลจากโตเกียวสักหน่อย แต่ก็ขอให้ไปเยือนเมืองที่มีความเกี่ยวข้องกับงานเรื่องต่าง ๆ คุณจะได้เห็นภาพอนิเมะทันทีที่ได้ไปถึงสถานีฮิงาชิโทโกโรซาวะ !
ภาพที่วาดบนฝาผนังวาดโดยคุณซูชิโอะ นักวาดการ์ตูนอนิเมะที่เป็นคนจังหวัดไซตามะ ผู้ที่ทำงานออกแบบตัวละครอนิเมะต่าง ๆ เช่น”Kill la Kill” เป็นต้น
หลังจากลงรถที่สถานีรถไฟแล้ว เดินประมาณ 10 นาทีก็จะถึง Tokorozawa Sakura Town
ในระหว่างที่มุ่งหน้าไปยัง Tokorozawa Sakura Town ขอให้คอยสังเกตดูที่เท้าด้วย เพราะจะมีภาพตัวละครยอดนิยมที่วาดอยู่บนฝาท่อ
แฝงตัวเข้าไปในพิพิธภัณฑ์ Kadokawa Musashino ซึ่งดูแลการออกแบบโดยคุณเคนโงะ คูมะ !
อาคารที่ไม่เหมือนใครภายในบริเวณได้รับการดูแลด้านการออกแบบโดยคุณเคนโงะ คูมะ หนึ่งในสถาปนิกชั้นนําของญี่ปุ่น พิพิธภัณฑ์ Kadokawa Musashino เป็นอาคารที่ดูเหมือนเป็นก้อนหินขนาดยักษ์ เป็นสถานที่ที่รวมห้องสมุด หอศิลป์ และพิพิธภัณฑ์ไว้ด้วยกัน จึงสามารถเพลิดเพลินไปกับวัฒนธรรมต่าง ๆ ที่หลากหลาย นอกจากนี้ยังเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นสถานที่ที่ YOASOBI ได้ขับร้องเพลงในการประกวด NHK Kohaku Uta Gassen ปี 2020 และสถานที่ถ่ายทํามิวสิกวิดีโอของ Nogizaka46 และ Sakurazaka46 เป็นต้นก่อนอื่นอย่าลืมถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกกันนะ ภาพจะเปลี่ยนไปตามมุมต่าง ๆ ! นอกจากนี้ยังมีผลงานศิลปะสาธารณะของคุณโยชิโมโตะ นาระ ที่สระน้ำอีกด้วย
สามารถซื้อตั๋วได้ที่ทางเข้าในวันที่มา
ขอแนะนําบัตรเข้าชม 1-DAY Passport ที่สามารถเที่ยวชมได้ทั้งห้องสมุดและพิพิธภัณฑ์ที่อยู่ตั้งแต่ชั้น 1-5 ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับช่วงเวลา (*ไม่รวมพิพิธภัณฑ์ EJ Anime ที่อยู่ชั้น 3)
จุดที่อยากให้เที่ยวชมอันดับแรกที่ห้ามพลาด คือ ห้องสมุดและโรงละครชั้นหนังสือ “Edit Town - Book Street” เป็นส่วนหนึ่งของห้องสมุด มีลักษณะเหมือนเป็นเมืองแห่งหนังสือตามชื่อที่ตั้ง เรียงรายอัดแน่นไปด้วยหนังสือ 25,000 เล่มที่คัดสรรมาจาก 9 หัวเรื่อง แม้จะไม่สามารถยืมหนังสือออกไปได้ แต่ก็สามารถหยิบอ่านได้ตามอัธยาศัยภายในบริเวณนี้ นอกจากนี้ยังมีหนังสือที่สามารถสนุกไปกับภาพต่าง ๆ ได้ อย่างเช่น สมุดภาพแนวอูกิโยะ ฯลฯ จึงอยากขอให้ตั้งใจอ่านกันดูนะ
ด้านในสุดของ Book Street จะมีโรงละครชั้นหนังสืออยู่ เป็นพื้นที่หนังสือที่ห้อมรอบไปด้วยชั้นหนังสือขนาดใหญ่มหึมาประมาณ 8 เมตร ซึ่งเป็นไฮไลต์สุดยอด ! และยังสามารถเพลิดเพลินไปกับการฉาย projection mapping ที่จะมีชั่วโมงละ 3 รอบ
ในช่วงที่มาสัมภาษณ์ เป็นการฉายเรื่อง “เล่นสนุกกับหนังสือ” แต่จะมีการหมุนเวียนเปลี่ยนเนื้อหาเป็นประจํา โปรดอย่าพลาดการแสดงที่สวยงามราวกับว่าหนังสือมีชีวิตและเคลื่อนไหวได้
หากตรงไปถึงด้านในสุดของโรงละครชั้นหนังสือ จะเจอคลังหนังสืออยู่บนขั้นบันได และยังมีพิพิธภัณฑ์ที่มีการจัดแสดงด้านวัฒนธรรมป๊อปและสิ่งพิมพ์อยู่ใน Book Street อีกด้วย ขอเชิญเดินเล่นด้วยความรู้สึกของการผจญภัย !
พบลายเซ็นของคุณเคนโงะ คูมะแล้ว !
ต่อไปเราจะไปยังห้องสมุดมังงะและนวนิยาย
มีไลท์โนเวล หนังสือเด็ก หนังสือการ์ตูน และอื่น ๆ อีก รวมแล้วราว 37,000 เล่ม ตรงนี้ก็เป็นจุดที่สามารถใช้เวลาค่อย ๆ อ่านหนังสือได้ตามสบายอีกเช่นกัน หนังสือส่วนใหญ่เป็นภาษาญี่ปุ่น แต่ก็มีหนังสือบางส่วนที่เป็นหนังสือแปลด้วย นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงภาพและตัวฟิกเกอร์การ์ตูนของคุณมาโมรุ โฮโซดะ ซึ่งเป็นทั้งผู้กํากับและนักวาดการ์ตูนอนิเมะ และการจัดแสดงอื่น ๆ อีกด้วย ยังไงลองแวะเข้าไปดูให้ได้นะ
นอกจากนี้ยังมีหอศิลป์ที่สามารถชื่นชมกับงานศิลปะได้อีกด้วย
มีการจัดแสดงต่าง ๆ อยู่ใน Grand Gallery ที่อยู่ชั้น 1
ขณะนี้มีการจัดแสดงศิลปะดิจิทัลเชิงประสบการณ์ “Salvador Dalí - Endless Enigma: ปริศนานิรันดร์กาล” ไปจนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2024
Creative Direction: Gianfranco Iannuzzi
Created by Gianfranco Iannuzzi - Renato Gatto – Massimiliano Siccardi
KCM Editing: Rino Tagliafierro
Production: Culturespaces Digital ®
ภายในพิพิธภัณฑ์ EJ Anime ที่อยู่ชั้น 3 มีการจัดแสดงที่เกี่ยวกับอนิเมะหมุนเวียนเปลี่ยนไปเป็นประจํา
ขณะนี้กำลังจัดแสดง “นิทรรศการ THE Kamen Rider (ไอ้มดแดง)” ไปจนถึงวันที่ 6 พฤษภาคม 2024
โปรดเข้าชมโดยตรวจดูข้อมูลล่าสุดจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ !
คนรักมังงะห้ามพลาด ! ไปเที่ยวชมศาลเจ้ามูซาชิโนะเรวะที่สามารถอธิษฐานขอพรด้านการเดินทางได้
ต่อไปเราจะไปยังศาลเจ้าที่อยู่ภายในบริเวณนี้กัน
อาคารศาลเจ้าได้รับการออกแบบโดยคุณเคนโงะ คูมะ
อย่าลืมแวะไปนมัสการที่อาคารศาลเจ้าที่ผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมของศาลเจ้าแบบดั้งเดิมกับการออกแบบร่วมสมัย
จากแนวคิดที่ว่าผลงานศิลปะเป็นทั้งสิ่งที่สร้างถวายเทพเจ้าและเป็นทั้งสิ่งที่เทพเจ้าประทานมาให้ จึงมีความศักดิ์สิทธิ์ด้านการส่งเสริมผู้สร้างผลงานวรรณกรรม ศิลปะ การแสดง ฯลฯ และความศักดิ์สิทธิ์ด้านความปลอดภัยในการเดินทาง นอกจากนี้ยังมีความศักดิ์สิทธิ์ด้านเนื้อคู่ที่ช่วยให้คุณได้มาพบพานกับผลงานที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย ! ขั้นแรกขอให้ล้างมือให้บริสุทธิ์ ในบางช่วงเวลาโรงล้างมือที่มีรูปร่างเหมือนเรือจะมีการประดับตกแต่งด้วยดอกไม้ หากเห็นในช่วงเวลานั้น ก็ถือเป็นโชคดีของคุณ !
วิธีสักการะนั้นง่ายมาก โค้งคำนับ 2 ครั้ง และตบมือ 2 ครั้ง หลังจากขอพรแล้วจะโค้งคํานับอีกครั้งก็ได้
ภายในอาคารศาลเจ้าจะมีหมาป่าญี่ปุ่นที่เป็นไม้แกะสลักตั้งอยู่ในศาลเจ้าแทนที่จะเป็นสิงโตคู่
บนเพดานมีผลงานการวาดภาพนกฟีนิกซ์ hermaphrodite ที่ละเอียดอ่อนงดงามและสวยงามโดยคุณโยชิตากะ อามาโนะ ผู้ทำงานออกแบบตัวละครในซีรีส์ “Final Fantasy” ที่เป็นเกมยอดฮิต หากตั้งใจมองดูดี ๆ คุณน่าจะเห็นรูปหัวใจลอยอยู่ระหว่างนกทั้งสองตัว ช่างเป็นภาพวาดเพดานที่อยากจะค่อย ๆ ทอดสายตาชม
สำหรับบุคคลทั่วไป จะไม่สามารถเข้าไปภายในอาคารศาลเจ้าได้ แต่สามารถเข้าไปได้เมื่อมีการจัดงานเทศกาลและสวดขอพรเป็นพิเศษ
การสวดขอพร คือการที่ผู้ประกอบพิธีของศาลเจ้าสื่อสารกับเทพเจ้าเรื่องการขอพรของผู้มาสักการะด้วยพิธีกรรมตั้งแต่โบราณโดยใช้ภาษาญี่ปุ่นโบราณที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะญี่ปุ่น
ในประเทศญี่ปุ่น คนจำนวนมากจะมาเมื่อต้องการขอพรพิเศษหรือเมื่ออยู่ในจุดเปลี่ยนของชีวิต
หากคุณไม่มีข้อจำกัดทางศาสนาและอยากลองอธิษฐานขอพรกับเทพเจ้าของญี่ปุ่น จะลองขอพรดูก็ได้นะ ซึ่งสามารถแจ้งเพื่อทำการขอพรได้ในวันที่ไปเลย โปรดชมวิธีการขั้นตอนจากวิดีโอนี้ (มีเฉพาะภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น) : https://www.youtube.com/watch?v=Qn7MyUpeuaM
มีวัตถุมงคลหลายอย่างที่สามารถหาได้ที่นี่เท่านั้น อย่างเช่น เครื่องรางช่วยให้ทันกำหนดเวลา เซียมซีแปลก ๆ และตราประทับศักดิ์สิทธิ์ที่มีรูปตัวอนิเมะ (ตราประทับศักดิ์สิทธิ์ คือ ตราบันทึกสายสัมพันธ์กับเทพเจ้าที่จะได้รับเป็นหลักฐานว่าได้มาสักการะที่ศาลเจ้าแล้ว)
คุณสามารถรับประทานราเม็งจากทั่วประเทศญี่ปุ่น และมัทฉะหายากได้ ! ของอร่อยที่ขอแนะนํา
หากท้องว่างแล้ว เรามาเพลิดเพลินไปกับของอร่อย ๆ ที่อยู่ภายในอาคารนี้กัน สถาปัตยกรรมของ “Tokorozawa Sakura Town” ก็ได้รับการออกแบบโดยคุณเคนโงะ คูมะ ดีไซน์ที่ดูเหมือนนำรั้วมาประกอบเข้าด้วยกันทำให้เป็นอาคารที่มีบรรยากาศต่างไปจากพิพิธภัณฑ์ Kadokawa Musashinoภายในพิพิธภัณฑ์ Kadokawa Musashino และ “Tokorozawa Sakura Town” มีทั้งร้านกาแฟและร้านอาหารให้บริการ เมนูที่อยากแนะนําเป็นพิเศษก็คือ ราเม็ง !
“Ramen Walker Kitchen” เป็นร้านราเม็งที่ดําเนินงานโดย “Ramen Walker” ซึ่งเป็นนิตยสารราเม็งชื่อดังในญี่ปุ่น คุณสามารถเพลิดเพลินกับราเม็งจากทั่วประเทศญี่ปุ่นตามธีมประจำในแต่ละเดือนเป็นประจําทุกสัปดาห์
จุดที่น่าสนใจคือการที่เจ้าของร้านราเม็งจะเดินทางมาทําราเม็งด้วยตัวเองเลย
แม้จะไม่ได้ดั้นด้นไปไกล ๆ แต่ก็สามารถอร่อยไปกับรสชาติดั้งเดิมของร้านราเม็งชื่อดังได้
มีการถ่ายทอดบรรยากาศจากในห้องครัวทาง Youtube เพียงแค่ได้ชมก็รู้สึกสนุกแล้ว
หัวข้อของการสัมภาษณ์ คือ “ความรักใน “Tohoku”: LOVE” โดยมีร้าน “Kurofune” ซึ่งเป็นร้านชื่อดังในจังหวัดอิวาเตะมาออกร้าน อร่อยไปกับซุปรสเลิศที่เน้นปลาซัมมะจากแถบซันริคุพร้อมกับเส้นราเม็งเล็ก ๆ ที่ผ่านการนวดเส้นมาเป็นอย่างดี !
เมื่อจะใช้บริการ จำเป็นจะต้องซื้อตั๋วอาหารก่อน
ทันทีที่เข้าไปในร้าน เพียงแค่เลือกเมนูที่อยากรับประทานที่เครื่องขายตั๋วและชําระเงินเท่านั้น นอกจากเงินสดแล้ว ยังสามารถชำระเป็นบัตรเครดิตได้ด้วย เมื่อได้รับตั๋วอาหารจากเครื่องแล้ว ขอให้ยื่นให้พนักงาน
สําหรับนักเดินทางที่ชื่นชอบราเม็ง ขอแนะนํา “ตั๋วถ่ายรูปที่ระลึกกับเจ้าของร้าน”
พิเศษสุด ๆ คุณสามารถถ่ายรูปกับเจ้าของร้านราเม็งได้ฟรี !
ขอให้เลือก “ตั๋วถ่ายรูปที่ระลึกกับเจ้าของร้าน” ตรงมุมล่างด้านขวานะ ปกติแล้วถือเป็นเรื่องยากที่จะได้ถ่ายรูปกับเจ้าของร้านราเม็ง จึงอยากให้ได้มาลองถ่ายกันที่ “Ramen Walker Kitchen” ขอให้บอกความรู้สึกว่าอร่อย ! และกล่าวขอบคุณด้วยนะ
สําหรับของหวาน ขอแนะนําขนมหวานที่ทำจากมัทฉะของร้าน “Musashi Rikyu”
ร้านนี้ใช้ใบชาชนิดหนึ่งที่เรียกว่าชาซายามะที่ผลิตในท้องถิ่น
ชาซายามะเป็นชาหายากที่มีการผลิตเพียงเล็กน้อยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ร้านเฉพาะทางด้านชาซายามะก็มีเพียงไม่กี่แห่ง เพราะฉะนั้นอย่าลืมไปลองร้านนี้ดูกันนะ ซอฟต์ครีมรสมัทฉะที่ทําจากชาซายามะมีรสชาติเข้มข้น คุณสามารถอร่อยไปกับความหวานที่มีรสขมบาง ๆ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์พิเศษของมัทฉะ
สําหรับเครื่องดื่ม จะมีทั้งชาเขียวมัทฉะที่ไม่ใส่น้ำตาลและมัทฉะลาเต้ใส่นม จึงสามารถอร่อยไปกับเครื่องดื่มที่คุณชื่นชอบได้
มาหาสินค้าอนิเมะและสินค้าออริจินัลที่เป็นรูปสถาปัตยกรรมของคุณเคนโงะ คูมะไปเป็นของฝากกันเถอะ ♪
“Da Vinci Store” เป็นร้านหนังสือตามแนวคิดในเรื่องการค้นพบและการเชื่อมโยง
สามารถซื้อมังงะและไลท์โนเวลต่าง ๆ ที่เป็นของญี่ปุ่นได้
มีมังงะยอดฮิตและผลงานดัง ๆ ที่ออกใหม่ นอกจากนี้ยังมีสมุดภาพที่สามารถสนุกไปกับรูปภาพได้โดยไม่จำเป็นรู้ภาษาญี่ปุ่นก็ได้ ขอเชิญลองหยิบขึ้นมาดูกันนะ
อีกทั้งยังมีลายเซ็นของผู้สร้างสรรค์ผลงานอยู่ภายในบริเวณพื้นที่ ขอให้ลองมองหาดู อาจจะมีลายเซ็นของนักเขียนคนโปรดของคุณอยู่ด้วยก็ได้ !
นอกจากนี้ยังมีสินค้าอนิเมะยอดนิยมอีกด้วย อย่างเช่น “Bungo Stray Dogs (คณะประพันธกรจรจัด)” นอกจากสินค้าอนิเมะยอดนิยมแล้ว ทําไมไม่ลองซื้อหามังงะหรือหนังสือไปเป็นของฝากจากญี่ปุ่นดูล่ะ ?
สำหรับใน “Rock Museum Shop” คุณจะสามารถซื้อสินค้าลิมิเต็ดที่มีเฉพาะที่พิพิธภัณฑ์ Musashino เท่านั้น มีตั้งแต่ช็อกโกแลตใส่กล่องที่จำลองสถาปัตยกรรมของคุณเคนโงะ คูมะ ไปจนกระทั่งสินค้าเบ็ดเตล็ดสไตล์ญี่ปุ่น ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสําหรับเป็นของฝาก เพราะฉะนั้นอย่าลืมแวะไปเยี่ยมชมกันดูนะ
คำแนะนำข้างต้นนี้เป็นอย่างไรบ้าง ?
ขอเชิญเดินทางมาสู่บรรยากาศที่ดื่มด่ำไปด้วยวัฒนธรรมป๊อปของญี่ปุ่นตลอดทั้งวัน
Information
Tokorozawa Sakura Townที่อยู่ : 3-31-3 Wada, Higashitokorozawa, Tokorozawa City, Saitama Prefecture
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย JR มูซาชิโนะ ลงรถที่สถานีฮิงาชิโทโกโรซาวะ แล้วเดินอีกประมาณ 10 นาที
เว็บไซต์ : https://tokorozawa-sakuratown.com/en/
เวลาทําการ / วันหยุดร้านค้า : โปรดตรวจดูจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ เนื่องจากร้านค้าและร้านอาหารจะมีกำหนดเวลาที่ต่างกันไป
พิพิธภัณฑ์ Kadokawa Musashino
เวลาทําการ : 10:00 - 18:00 น. (เข้าพิพิธภัณฑ์ก่อนเวลา 17:30 น.)
วันหยุด : วันอังคาร (แต่จะเปิดทำการ หากเป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์)
เว็บไซต์ : https://kadcul.com/en/
สำนักงานศาลเจ้า / จุดรับวัตถุมงคล ศาลเจ้ามูซาชิโนะเรวะ
เวลาทำการ :
เมษายน - กันยายน 10:00 - 17:00 น. (วันเสาร์ วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เปิดถึงเวลา 18:00 น.)
ตุลาคม - มีนาคม 10:00 - 16:30 น. (วันเสาร์ วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เปิดถึงเวลา 17:00 น.)
วันปิดทำการ : วันอังคาร (แต่จะเปิดทำการ หากวันอังคารเป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์)
เว็บไซต์ : https://musashinoreiwa.jp/en/
※*บทความนี้เขียนขึ้นจากข้อมูล ณ เดือนเมษายน 2024
ถ้าชอบบทความนี้ กดถูกใจให้ด้วยนะ
บทความนี้เขียนขึ้นเมื่อ 31/07/2024 เรื่องโดย：นักเขียนท้องถิ่น DiGJAPAN!
Weekly Ranking
ความคิดเห็นล่าสุด | 0ความคิดเห็น
หากเป็นสมาชิก DiGJAPAN!
จะสามารถโพสต์คอมเม้นท์ได้
สมัครสมาชิก