แห่งเดียวในโลก! สวนสาธารณะจิบลิที่จังหวัดไอจิที่สามารถเพลิดเพลินกับโลกแห่งผลงานของสตูดิโอจิบลิได้อย่างเต็มที่!

บทความ

แห่งเดียวในโลก! สวนสาธารณะจิบลิที่จังหวัดไอจิที่สามารถเพลิดเพลินกับโลกแห่งผลงานของสตูดิโอจิบลิได้อย่างเต็มที่!

ภาพยนตร์เรื่องเด็กชายกับนกกระสา (The Boy and the Heron) ได้รับรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์แอนิเมชั่นยอดเยี่ยม ผลงานของสตูดิโอจิบลิที่ดึงดูดความสนใจไปทั่วโลก สวนที่แสดงถึงโลกแห่งผลงานของสตูดิโอจิบลินั้นได้เปิดแล้วในจังหวัดไอจิ ในครั้งนี้เราจะมาแนะนำจุดเด่นและข้อมูลการเข้าถึงจิบลิพาร์คกัน

แนะนำ 5 พื้นที่ที่ไม่ควรพลาด

จิบลิพาร์คประกอบด้วยพื้นที่ห้าส่วน ไปดูกิจกรรมที่น่าตื่นเต้นในแต่ละแห่งกัน
　

1. โกดังจิบลิ (Ghibli's Grand Warehouse)
2. หุบเขาแม่มด (Valley of Witches)
3. เนินเขาแห่งความเยาว์วัย (Hill of Youth)
4. ป่าดงโดโกะ (Dondoko Forest)
5. หมู่บ้านของโมโนโนะเกะ (Mononoke Village)

1. โกดังจิบลิ (Ghibli's Grand Warehouse)

โกดังแห่งนี้เปรียบเสมือนนิทรรศการขนาดใหญ่ของจิบลิมีห้องนิทรรศการวิดีโอ ห้องนิทรรศการพิเศษ 3 ห้อง ร้านค้า ร้านคาเฟ่ และอื่นๆอยู่ในพื้นที่ขนาดใหญ่นี้ การตกแต่งภายในได้รับแรงบันดาลใจจากผลงานของจิบลิ แค่เดินไปรอบๆก็น่าตื่นเต้นแล้ว!

นกกระสาจากภาพยนตร์รางวัลออสการ์เรื่องเด็กชายกับนกกระสาก็จัดแสดงอยู่เช่นกัน

บนชั้นสองคือยูบาบะจาก มิติวิญญาณมหัศจรรย์ (Spirited Away)! เห็นได้ชัดว่าเธอเป็น "ผู้กำกับตัวปลอม" ของจิบลิพาร์ค

ในห้องนิทรรศการวิดีโอกลุ่มดาวนายพรานซึ่งเป็นมินิเธียเตอร์ ผลงานแอนิเมชั่นขนาดสั้นทั้ง 10 เรื่องจะถูกฉายตามลำดับ ดูว่ามีผลงานใดบ้างตอนที่คุณจะไปได้ที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ

นอกจากนี้ยังสามารถชมนิทรรศการพิเศษ 3 นิทรรศการจากนิทรรศการของสตูดิโอจิบลิที่เคยจัดขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ คุณสามารถเข้าไปสู่โลกของจิบลิ ณ นิทรรศการฉากชื่อดังของจิบลิ

ร้านค้าเต็มไปด้วยสินค้าของจิบลิและร้านคาเฟ่เที่ยวบินข้ามทวีป (Transcontinental Flight Café) ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์ นำเสนอแซนด์วิชและพิซซ่าที่ชวนให้นึกถึงเรื่องพอร์โค รอสโซ สลัดอากาศประจัญบาน (Porco Rosso) ซึ่งเป็นอาหารที่นักบินในเที่ยวบินระยะไกลสามารถรับประทานได้ด้วยมือเดียวขณะขับเครื่องบิน

2. หุบเขาแม่มด (Valley of Witches)

หุบเขาแม่มดเป็นพื้นที่สไตล์ยุโรปที่ได้รับแรงบันดาลใจจากผลงานของสตูดิโอจิบลิซึ่งมีแม่มดปรากฏตัว เช่น แม่มดน้อยกิกิ (Kiki's Delivery Service) ปราสาทเวทมนตร์ของฮาวล์ (Howl's Moving Castle) และ อาย่ากับเหล่าแม่มด (Earwig and the Witch) นอกจากอาคารที่ปรากฏในผลงานแล้ว ยังมีสนามเด็กเล่น ร้านอาหาร ร้านค้า และอื่นๆอีกมากมาย

คุณสามารถซื้อขนมปังได้ที่ร้านเบเกอรีกุโจคิ (Guchoki Bakery) ซึ่งเป็นการเลียนแบบร้านเบเกอรี่ที่กิกิและแมวดำของเธอที่ชื่อ จิจิ จากเรื่องแม่มดน้อยกิกิ (Kiki's Delivery Service) อาศัยอยู่!
*การขายขนมปังอาจสิ้นสุดทันทีที่สินค้าหมด

ปราสาทที่มีรูปลักษณ์แข็งแกร่งมีรูปร่างเหมือนสิ่งมีชีวิตที่ปรากฏใน "ปราสาทเวทมนตร์ของฮาวล์" อยู่ในบริเวณนี้
ปราสาทแห่งนี้มีความสูงประมาณ 20 เมตร และบางส่วนของปราสาทจะเคลื่อนตัวและปล่อยควันออกมาหลายครั้งต่อชั่วโมง บริเวณโดยรอบปราสาทเป็นพื้นที่รกร้างชวนให้นึกถึงภาพยนตร์ซึ่งมีหุ่นไล่กายืนอยู่
คุณจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าฮาวล์และเพื่อนๆใช้ชีวิตอย่างไร รวมถึงห้องนอนของฮาวล์ที่เต็มไปด้วยเครื่องมือวิเศษและเตาหลอมของแคลซิเฟอร์
*หากคุณมีตั๋ว Ghibli Park O-Sanpo Day Pass Premium สามารถดูด้านในของปราสาทฮาวล์ได้。

ในบริเวณนี้ยังมีสองเครื่องเล่นสวนสนุกประเภทนั่งที่จำลองมาจากสวนสนุกเคลื่อนที่ที่มาเยือนหมู่บ้านปีละครั้ง
ม้าหมุนตกแต่งด้วยลวดลายของยานพาหนะ สัตว์ และตัวละครที่ปรากฏในผลงานต่างๆ เช่น แม่มดน้อยกิกิ (Kiki's Delivery Service) ปราสาทเวทมนตร์ของฮาวล์ (Howl's Moving Castle) และเจ้าหญิงจิตวิญญาณแห่งพงไพร (Princess Mononoke) ตัดสินใจยากเลยในการเลือกว่าจะขี่อันไหนดี ระหว่างไม้กวาด เกี้ยวแม่มดในดินแดนรกร้าง หรือยัคคุรุ!

ジブリパーク魔女の谷5

ジブリパーク魔女の谷6

นี่คือเครื่องบินที่มีพื้นฐานมาจากโลกของลาพิวต้า พลิกตำนานเหนือเวหา (Laputa: Castle in the Sky)

ジブリパーク魔女の谷7

ジブリパーク魔女の谷8

3. เนินเขาแห่งความเยาว์วัย (Hill of Youth)

เนินเขาแห่งความเยาว์วัยเป็นพื้นที่ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากวันนั้น...วันไหน หัวใจจะเป็นสีชมพู (Whisper of the Heart) มีหอคอยลิฟต์ซึ่งออกแบบโดยอิงจากมุมมองของนิยายวิทยาศาสตร์ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 บริเวณรอบๆของ"ลานหมุนเวียน" มี "ชิคิวยะ" และ "สำนักงานแมว" จากเรื่อง เจ้าแมวยอดนักสืบิ (The Cat Returns)

ในชิคิวยะ คุณสามารถซื้อโปสการ์ดและแผ่นแสตมป์และส่งจดหมายทางตู้ไปรษณีย์ได้ ลองส่งจดหมายพร้อมตราประทับญี่ปุ่นดูไหม?

*หากคุณมี Ghibli Park O-Sanpo Day Pass Premium สามารถดูด้านในของชิคิวยะได้

4. ป่าดงโดโกะ (Dondoko Forest)

พื้นที่ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก โทโทโร่เพื่อนรัก (My Neighbor Totoro) มีดงโดโกะ (เครื่องเล่น) ที่สร้างตามโทโทโร่ และบ้านที่ตัวละครหลักอย่างซัตสึกิและเมย์อาศัยอยู่
หากตั้งใจฟัง คุณจะได้ยินเสียงหัวเราะของซัตสึกิและเมย์ และเสียงของภูติเขม่าในห้องครัว ห้องน้ำ ห้องน้ำชา ห้องสไตล์ญี่ปุ่น และห้องสไตล์ตะวันตก
คุณอาจจะเผลอร้องเพลงโดยไม่รู้ตัว "คุโรสุเกะสีดำ ออกมา~"

เช่นเดียวกับในเรื่องราวของโทโทโร่ คุณสามารถเดินเล่นในป่าและหลงอยู่ในนั้น เป็นประสบการณ์ที่จะพาคุณย้อนกลับไปในวัยเด็ก

*หากคุณมีตั๋ว Ghibli Park O-Sanpo Day Pass Premium สามารถดูด้านในของบ้านซัตสึกิและเมย์ได้

5. หมู่บ้านของโมโนโนะเกะ (Mononoke Village)

หมู่บ้านของโมโนโนะเกะ (Mononoke Village)1

พื้นที่ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากภูมิทัศน์ซาโตยามะของเจ้าหญิงจิตวิญญาณแห่งพงไพร มี "ทาทาราบะ" ซึ่งจำลองมาจากอาคารในภาพยนตร์ และมีอุปกรณ์สนามเด็กเล่นที่เรียกว่า "โอคโคโตะ" และ วัตถุที่เป็นตัวแทนของเทพเจ้าทาทาริ

หมู่บ้านของโมโนโนะเกะ (Mononoke Village)2

ณ ทาทาราบะ ยังสามารถลองประสบการณ์การย่างถ่านโกเฮโมจิ ซึ่งเป็นอาหารท้องถิ่นจากจังหวัดไอจิได้อีกด้วย! (คิดค่าบริการแยกต่างหาก)

เดินทางไปจิบลิพาร์คยังไง?

5 พื้นที่ของจิบลิพาร์คกระจายอยู่ภายในสวนอนุสรณ์งานเอ็กซ์โป 2005 ไอจิ (Expo 2005 Aichi Commemorative Park) ในจังหวัดไอจิ
จังหวัดไอจิตั้งอยู่ระหว่างจังหวัดโตเกียวและโอซาก้า! คุณสามารถเดินทางมาโดยชินคันเซ็นได้จากทั้งสองทิศทาง

■จากสถานีโตเกียว:
ประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที โดยรถไฟชินคันเซ็นจากสถานีโตเกียวไปยังสถานีนาโกย่า
■จากสถานีโอซาก้า:
ประมาณ 50 นาทีโดยรถไฟชินคันเซ็นจากสถานีโอซาก้าไปยังสถานีนาโกย่า

เมื่อถึงสถานีนาโกย่า ให้เปลี่ยนสายไปสายท้องถิ่น
จากสถานีนาโกย่า ให้นั่งรถไฟใต้ดินสายฮิกาชิยามะไปยังสถานีฟูจิกาโอกะ โดยขึ้นรถไฟจาก ชานชาลา 1 ที่มุ่งหน้าไปยังฟูจิกาโอกะ
เมื่อมาถึงสถานีฟูจิกาโอกะ ให้เปลี่ยนไปที่ Linimo และนั่งไปยังสถานี Aichi Expo Memorial Park

บัตร IC สำหรับการขนส่งสามารถใช้ได้ทั้งที่รถไฟใต้ดินและ Linimo

ตั๋วจิบลิพาร์คล่ะ?

ตั๋วทั้งหมดเป็นระบบจอง
ต้องใช้ตั๋วแยกต่างหากเพื่อเข้าพื้นที่ภายในสวนสาธารณะและเข้าอาคาร

ขอแนะนำ Ghibli Park O-Sanpo Day Pass ซึ่งคุณสามารเยี่ยมชมได้ทั้ง 5 พื้นที่ หรือ ตั๋ว Ghibli Park O-Sanpo Day Pass Premium ซึ่งเข้าชมทั้ง 5 พื้นที่และเข้าไปในอาคารทั้งหมดได้
ณ โกดังจิบลิเท่านั้นที่มีการกำหนดเวลาเข้าชม คุณสามารถเข้าร้านคาเฟ่ ร้านอาหาร และร้านขายของที่ระลึกได้อย่างอิสระ
อย่างไรก็ตาม หากคุณต้องการขึ้นเครื่องเล่นสวนสนุกประเภทนั่ง จะต้องซื้อตั๋วแยกต่างหากที่เครื่องเล่นนั้นๆ

จำนวนผู้เข้าชมต่อวันมีการจำกัด ดังนั้นควรซื้อตั๋วล่วงหน้าบนเว็บไซต์ โดยเปิดจำหน่ายตั๋วล่วงหน้าในวันที่ 10 เวลา 14.00 น. ของสองเดือนก่อนเดือนที่เข้าชม (เช่น บัตรเดือนมิถุนายนจะวางจำหน่ายวันที่ 10 เมษายน) ดังนั้นควรเลือกวันที่อยากไปล่วงหน้าและทำการจองตั๋ว

เว็บไซต์ซื้อตั๋ว: https://ghibli-park.jp/en/ticket/

การเข้าจิบลิพาร์คต้องใช้ตั๋วอิเล็กทรอนิกส์และหนังสือเดินทางของผู้ที่ทำการจองตามชื่อที่ปรากฎบนตั๋ว
แนะนำให้คุณเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตหรือพิมพ์ตั๋วล่วงหน้า โปรดอ่านคำแนะนำบนเว็บไซต์อย่างละเอียดและเตรียมพร้อมตามนั้น

จิบลิพาร์คแนะนำสำหรับแฟนจิบลิ อัดแน่นไปด้วยประสบการณ์ที่คุณไม่สามารถชมได้หมดในวันเดียว!
ดังนั้นอย่าลืมวางแผนการเดินทางล่วงหน้าและมาเยี่ยมชมกัน

รายละเอียด

Ghibli Park
ที่อยู่: 1533-1 Ibaragabasama, Nagakute City, Aichi (MAP)
เวลาทำการ: วันธรรมดา 10.00 น. - 17.00 น., วันเสาร์ วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 9.00 น. - 17.00 น.
วันหยุด: วันอังคาร (หากวันอังคารเป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์ จะหยุดวันธรรมดาถัดไป), วันหยุดปีใหม่, วันที่กำหนด เช่น การซ่อมบำรุง ฯลฯ
การเดินทาง: รถไฟฟ้าสาย Aichi สาย Tobu Kyuryo (Linimo) ลงที่สถานี Ai-Chikyuhaku Kinen Koen
เว็บไซต์ทางการ: https://ghibli-park.jp/en/
เว็บไซต์ซื้อตั๋ว: https://ghibli-park.jp/en/ticket/

© Studio Ghibli

※บทความนี้อ้างอิงจากการเก็บข้อมูลเมื่อเดือนกรกฎาคม 2567
※ข้อมูล ณ วันถ่ายทำ อาจเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์ โปรดตรวจสอบข้อมูลล่าสุดที่เว็บไซต์ทางการ

ถ้าชอบบทความนี้ กดถูกใจให้ด้วยนะ

บทความนี้เขียนขึ้นเมื่อ 14/08/2024 เรื่องโดย：กองบรรณาธิการ DiGJAPAN!