เที่ยวไปในฤดูใบไม้ผลิ vol.2 เก็บสตรอว์เบอร์รี่ 20 ชนิด!

บทความ

เที่ยวไปในฤดูใบไม้ผลิ vol.2
เก็บสตรอว์เบอร์รี่ 20 ชนิด!

ในคราวนี้ที่เราจะมาแนะนำคือ "ประสบการณ์เก็บสตรอว์เบอร์รี่" ที่ "ไร่ Dragon Farm" ในจังหวัดจิบะ ที่นี่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติมากเลยล่ะ ซึ่งแน่นอนว่าทางเราได้ไปลิ้มรสสตรอว์เบอร์รี่ตามฤดูกาลอย่างจุใจมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว!

ไร่สตรอว์เบอร์รี่ที่นี่คึกคักกันแต่เช้า

ใช้เวลานั่งรถไฟจากโตเกียวและเดินจนถึง "ไร่สตรอว์เบอร์รี่ Dragon Farm" ประมาณ 1 ชม. 10 นาที การเดินทางที่แสนง่ายจากโตเกียว ก็นับเป็นจุดดึงดูดอีกจุดหนึ่งของที่นี่ ในครั้งนี้ เรามาเก็บและกินสตรอว์เบอร์รี่กันอย่างจุใจภายในเวลา 30 นาที

Sign at Dragon Farm

จุดสังเกตคือป้ายทำมือสีชมพูที่วาดรูปสตรอว์เบอร์รี่เอาไว้

แม้จะยังไม่ถึงเวลาเปิดให้บริการ แต่พอเข้าไปในเรือนกระจกที่มีจุดขายตั๋วอยู่ ก็เห็นผู้คนมารอกันอยู่เต็มไปหมดเลย...ก็แน่ล่ะ เค้าจะปิดให้บริการทันทีที่สตรอว์เบอร์รี่หมดนี่นา การ "รีบมาแต่เช้า" จึงเป็นกติกาของการมาเอนจอยที่ "Dragon Farm" ว่ากันว่าที่นี่มีสตรอว์เบอร์รี่มากถึง 20 สายพันธุ์เลยนะ ดังนั้นถ้าอยากจะมาฟินให้สุดๆก็ต้องมาที่ไร่แต่เช้า

Signs written in five languages

ต้อนรับด้วยป้ายภาษาต่างๆกว่า 5 ภาษา

A sign written in Thai

ป้ายแนะนำด้านในมีป้ายที่เขียนเป็นภาษาไทยอยู่ด้วย

Souvenir corner at Dragon Farm

ที่มุมของฝาก มีของอย่างพวกแยมแฮนด์เมดและขนมที่ทำจากสตรอว์เบอร์รี่วางเรียงรายกันอยู่

A lecture at the greenhouse before the strawberry picking begins

ก่อนอื่น เรามาฟังวิธีเก็บสตรอว์เบอร์รี่จากสตาฟฟ์กันก่อน

ถือถ้วยนมข้นหรือซอสช็อกโกแลตไว้ แล้วไปเก็บสตรอว์เบอร์รี่กัน

พอจบการอธิบายก็พากันย้ายไปที่เรือนกระจกอีกแห่งเพื่อเริ่มเก็บสตรอว์เบอร์รี่ ตรงประตูทางเข้าเรือนกระจกจะมีถ้วยใส่นมข้นหรือซอสช็อกโกแลตให้เลือกแล้วแต่ชอบ เอาล่ะ...คว้าถ้วยมาแล้ว เราไปสวรรค์ชั้นสตรอว์เบอร์รี่กันเลยดีกว่า!

Condensed milk and chocolate sauce

ถ้านมข้นหรือซอสช็อกโกแลตไม่พอ ก็ขอเติมได้ด้วยนะ

A strawberry dipped on condensed milk at Dragon Farm

สตรอว์เบอร์รี่เปรี้ยวอมหวานผสานกับรสหวานเข้มข้นของนมข้นได้อย่างเพอร์เฟค!

Strawberry picking

แนะนำให้ลองทานเปล่าๆดูด้วยนะ จะได้ลิ้มรสหวานตามธรรมชาติของสตรอว์เบอร์รี่กันได้

White strawberries at Dragon Farm

ข้างในมีสตรอว์เบอร์รี่สีขาวด้วย!!! ลูกไหนเป็นสีชมพูอ่อนๆละก็ พร้อมกินได้เลย

"เทคนิคในการเก็บสตรอว์เบอร์รี่" สตาฟฟ์ใจดีบอกมา

ไม่ว่าใครก็สนุกกับการเก็บสตรอว์เบอร์รี่ได้ แต่ถ้าได้รู้ "วิธีกินให้อร่อย" หรือ "วิธีเลือกสตรอว์เบอร์รี่หวานๆ" จะยิ่งฟินขึ้นไปอีกอย่างแน่นอน! เราจึงไม่พลาดรวบรวมจุดสำคัญที่คุณ Shimizu สตาฟฟ์ของ "Dragon Farm" สอนมา มาบอกต่อกัน

■จุดที่ 1 : ส่วนขั้วของสตรอว์เบอร์รี่เริ่มมีสีขาว "เป็นสัญญาณบอกว่า สุกพร้อมกิน"
จุดที่จะบอกเราว่าสตรอว์เบอร์รี่หวานอร่อยหรือยัง ก็คือ "บริเวณใต้ขั้ว" ถ้าส่วนนี้เริ่มเปลี่ยนสีเป็นสีขาว ต่างจากสีในส่วนอื่นๆ แสดงว่าอยู่ในช่วงที่กำลังสุกงอมมาก ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงว่าสตรอว์เบอร์รี่หวานล่ะ
※แตกต่างกันไปตามแต่ละสายพันธุ์

The sign of a perfectly ripe strawberry

ส่วนที่วงกลมคือ "จุดสังเกตความหวาน" อันนี้เริ่มเป็นสีขาวแล้วเนอะ!

■จุดที่ 2 : กินจากบริเวณขั้วก่อน
สตรอว์เบอร์รี่นั้นจะมีปริมาณน้ำตาลอยู่ตรงบริเวณส่วนปลายแหลมมากกว่า ดังนั้นหากกินส่วนปลายก่อน สุดท้ายอาจจะรู้สึกว่าหวานน้อยลงหรือเฝื่อนได้...... แต่กลับกัน ถ้ากินจากส่วนขั้วก่อน จะรู้สึกยิ่งหวานขึ้นๆ!!!

A strawberry without its top

จะกินสตรอว์เบอร์รี่เต็มคำทั้งที ก็ต้องดึงขั้วออกก่อน

มาลองกินสตรอว์เบอร์รี่หลายๆชนิดเทียบดูกันเถอะ

เอกลักษณ์ของ "Dragon Farm" รวบสั้นๆก็คือ มีสายพันธุ์ที่หลากหลาย! สตรอว์เบอร์รี่แต่ละแถวก็จะมีสายพันธุ์แตกต่างกันไป ดูป้ายปุ๊บก็รู้ปั๊บเลยว่าอันไหนเป็นพันธุ์ที่เราเคยได้ยินชื่อ อันไหนเป็นพันธุ์ที่เพิ่งเคยเห็น ลองเอา "จุดสำคัญ 2 ข้อ" ที่ได้เรียนไปมาใช้ แล้วมาลองชิมรสชาติเทียบกันเถอะ

Explanations about the strawberries written in English.

มีบอร์ดอธิบายสายพันธุ์เป็นภาษาอังกฤษด้วยล่ะ

Many different types of strawberries

เอ๋..เก็บมาพันธุ์ละลูกแล้วกินรวบยอดทีเดียวแบบนี้ จะรู้ความแตกต่างของรสชาติอย่างแน่ชัดรึป่าวน้อออ!?

Huge strawberry

อุ๊ว๊าววว! สตรอว์เบอร์รี่ใหญ่ยักษ์ ทำเอาหน้าแต่ละคนเล็กไปเลย!
สตรอว์เบอร์รี่บางพันธุ์ใหญ่ถึง 10 ซม. เลยนะ

แค่มองก็เก็ต! ผังเอกลักษณ์สตรอว์เบอร์รี่

"Dragon Farm" มีสตรอว์เบอร์รี่ให้ทานได้ตลอด 15 สายพันธุ์ และบางครั้งมีมากที่สุดถึง 20 พันธุ์เลย เรามาดูผังเอกลักษณ์รสชาติสตรอว์เบอร์รี่ที่เราได้ลิ้มรสกันไปในครั้งนี้ดีกว่า

Strawberry Chart

สรุปเอกลักษณ์ของสตรอว์เบอร์รี่ที่ทั้งสองคนไปชิมมาเป็น 2 แกน "รสชาติ (หวาน - เปรี้ยว)" และ "รสสัมผัส (นิ่ม - แข็ง)"
※แม้จะเป็นพันธุ์เดียวกัน แต่ต่างฤดูก็ต่างรสได้
※พันธุ์ที่ทานได้ที่ไร่ Dragon Farm นั้นจะแตกต่างกันไปในแต่ละวัน

All the different strawberries.

เอาสตรอว์เบอร์รี่ที่กินในครั้งนี้มาวางเรียงกันดู แค่ภายนอกก็ต่างกันซะขนาดนี้แล้ว
※ด้านล่างขวา 2 ชนิดนั้น เป็นพันธุ์ใหม่ที่ยังไม่ได้ตั้งชื่อ แต่ก็สามารถชิมได้ที่นี่นะ

การเก็บสตรอว์เบอร์รี่ที่ "ไร่ Dragon Farm" ในครั้งนี้ดีจริงๆ ได้กินสตรอว์เบอร์รี่หลายชนิดอย่างจุใจ และอาจจะได้เจอพันธุ์ที่เข้ากับความชอบของเราได้อีกด้วย มั่นใจได้เลยว่า ไม่ว่าใครก็จะเหมือนตกอยู่ในภวังค์จน 30 นาทีผ่านไปในพริบตา!

Information

Inside the Dragon Farm greenhouse

a beautiful strawberry

Strawberry picking experience.

■ ข้อมูล
ไร่ Dragon Farm
ที่อยู่ : 1354 Ogura-cho, Wakaba-ku, Chiba-shi, Chiba （MAP）
โทรศัพท์ : 043-235-3788 (เฉพาะภาษาญี่ปุ่น)
ระยะเวลาให้บริการ : ช่วงเดือนม.ค. - ต้นเดือนพ.ค. ของทุกปี※กรุณาเช็ควันให้บริการทางเว็บไซต์ ทางโทรศัพท์ หรือเฟสบุ๊ค https://www.facebook.com/15japan/
เวลาทำการ : เปิดรับลงทะเบียน วันธรรมดา (วันจันทร์ - ศุกร์) ตั้งแต่เวลา 10:00 น. วันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 8.30 น. เรื่มเก็บสตรอว์เบอร์รี่ได้ตั้งแต่เวลา 10.00 น.
※ปิดเมื่อสตรอว์เบอร์รี่หมด
※ เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ก่อนเวลา 10.00 น. อาจไม่สามารถเปิดรับลงทะเบียนได้เพิ่มเติม
ค่าบริการ : ทานสตรอว์เบอร์รี่ได้ไม่อั้น 30 นาที
・ช่วงเดือนม.ค. - 31 มี.ค.: ผู้ใหญ่ 2,000 เยน, 4 ขวบขึ้นไป 1,500 เยน, เด็ก 2 - 3 ขวบ 500 เยน
・1 เม.ย. - ต้นเดือนพ.ค.: ผู้ใหญ่ 1,700 เยน, 4 ขวบขึ้นไป 1,200 เยน, เด็ก 2 - 3 ขวบ 500 เยน
ภาษาต่างประเทศที่รองรับ : ภาษาอังกฤษ ※อาจมีกรณีที่สตาฟฟ์พูดภาษาอังกฤษไม่อยู่
URL：http://www.dragon-farm.com/

※เวลาให้บริการและข้อมูลต่างๆอาจมีการปรับเปลี่ยนในปี 2017
ข้อมูลและรูปภาพ เชียนและถ่ายในปี 2016 โดยข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย (เช่นสายพันธุ์สตรอร์เบอร์รี่เหลือเพียง 15 สายพันธุ์ในปี 2017)

■ การเดินทางไป Dragon Farm

A map of how to get to the dragon farm.

มาท่องเที่ยวในฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่นกันเถอะ

ประสบการณ์ "เก็บสตรอว์เบอร์รี่" ในครั้งนี้เป็นยังไงบ้างเอ่ย? ได้เต็มอิ่มกับฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่นรึป่าวคะ? นอกจากที่ที่เราแนะนำไปในวันนี้ ญี่ปุ่นยังมีสถานที่ให้เราได้ซึมซับฤดูใบไม้ผลิอีกเยอะแยะเลย ลองเอาข้อมูลจาก DiGJAPAN! และจากเพื่อนๆที่ไปเที่ยวมา มามิกซ์กัน แล้วค้นหาการท่องเที่ยวในฤดูใบไม้ผลิ ในแบบของตัวคุณเองดูนะคะ

ถ้าชอบบทความนี้ กดถูกใจให้ด้วยนะ

บทความนี้เขียนขึ้นเมื่อ 29/03/2016 เรื่องโดย：กองบรรณาธิการ DiGJAPAN!